หนุ่มเมืองคอนสุดโหด ลากลูกซองสั้น รัว 4 นัดปลิดชีพเพื่อนบ้าน ดับแค้นฆ่าหมาสุดรัก ก่อนถูกตำรวจตามรวบทันควันไปใช้กรรมในคุก
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
วันที่ 29 เมษายน 2564 เที่ยงวันทันเหตุการณ์ รายงานว่า เมื่อเวลา 19.30 น. ของวันที่ 28 เมษายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะทวด จ.นครศรีธรรมราช แจ้งเหตุยิงกันตายในสวนมะพร้าว หมู่ 8 ต.เกาะทวด อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช จึงรีบประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบศพนายพงศ์ศักดิ์ หรือดุก เกิดพันธ์ อายุ 38 ปี นอนตายในสวนมะพร้าว สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองสั้นเข้าบริเวณกลางแผ่นหลัง และลำตัวพรุนจำนวน 5 แผล ใกล้กันพบปลอกกระสุนปืนลูกซองตกอยู่จำนวน 4 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้สั่งระดมกำลังชุดสืบสวนทำการสืบสวนสอบสวน จนทราบตัวคนร้ายคือ นายวราวุธ ธรรมสวาท หรือ กบ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นคู่อริในหมู่บ้านเดียวกันที่น่าจะหลบหนีไปได้ไม่ไกล ก่อนที่สุดท้ายจะสามารถตามจับกุมได้ขณะหลบหนีบริเวณริมถนนห่างจากที่เกิดเหตุเพียง 500 เมตร ตรวจค้นในตัวพบอาวุธปืนลูกซองสั้นของกลางจำนวน 1 กระบอก ที่ใช้ก่อเหตุ พบกระสุนปืนในรังเพลิงจำนวน 2 นัด จึงคุมตัวมาทำการสอบสวนที่ สภ.เกาะทวด
จากการสอบสวนปากคำ นายวราวุธ ผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า เป็นคนที่ใช้อาวุธปืนยิง นายพงศ์ศักดิ์จนเสียชีวิตจริง สาเหตุมาจากเมื่อหลายเดือนก่อน นายพงศ์ศักดิ์ได้ใช้อาวุธปืนยิงสุนัขตัวหนึ่งของตนจนเสียชีวิต ทำให้ตนเจ็บใจแค้นมานาน และเกิดการท้าทายกันมาหลายครั้งแล้ว
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ต่อมาเมื่อถึงเวลาเกิดเหตุ ตนได้นัดนายพงศ์ศักดิ์มาพูดเจรจากันว่า ไปยิงสุนัขของตนทำไมที่สวนมะพร้าว ปรากฏว่านายพงศ์ศักดิ์ได้มารอตนก่อน โดย นายพงศ์ศักดิ์ ได้หลบซ่อนในพงหญ้าในสวนมะพร้าวที่เกิดเหตุ โดยได้ถือมีดเคียวตัดหญ้าติดตัวมาด้วย
เมื่อตนเดินทางมาถึงที่นัดหมายโดยนำอาวุธปืนลูกซองสั้นติดตัวมาด้วย เมื่อนายพงศ์ศักดิ์ เห็นตนถือปืนมาด้วยก็ตกใจ พยายามวิ่งหนีออกจากที่ซ่อน ตนจึงใช้อาวุธปืนไล่ยิงไป 4 นัดซ้อน กระสุนเจาะแผ่นหลัง นายพงศ์ศักดิ์ ล้มหงายท้องเสียชีวิตคาที่ทันที จากนั้นตนได้หลบหนีไปก่อนจะถูกตำรวจตามจับกุมในที่สุด
ด้าน พ.ต.ท. สวัสดิ์ นิยมเดช สว.หน.สภ.เกาะทวด เผยว่า ได้คุมตัวดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือหมู่บ้านต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
วันที่ 29 เมษายน 2564 เที่ยงวันทันเหตุการณ์ รายงานว่า เมื่อเวลา 19.30 น. ของวันที่ 28 เมษายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะทวด จ.นครศรีธรรมราช แจ้งเหตุยิงกันตายในสวนมะพร้าว หมู่ 8 ต.เกาะทวด อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช จึงรีบประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบศพนายพงศ์ศักดิ์ หรือดุก เกิดพันธ์ อายุ 38 ปี นอนตายในสวนมะพร้าว สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองสั้นเข้าบริเวณกลางแผ่นหลัง และลำตัวพรุนจำนวน 5 แผล ใกล้กันพบปลอกกระสุนปืนลูกซองตกอยู่จำนวน 4 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้สั่งระดมกำลังชุดสืบสวนทำการสืบสวนสอบสวน จนทราบตัวคนร้ายคือ นายวราวุธ ธรรมสวาท หรือ กบ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นคู่อริในหมู่บ้านเดียวกันที่น่าจะหลบหนีไปได้ไม่ไกล ก่อนที่สุดท้ายจะสามารถตามจับกุมได้ขณะหลบหนีบริเวณริมถนนห่างจากที่เกิดเหตุเพียง 500 เมตร ตรวจค้นในตัวพบอาวุธปืนลูกซองสั้นของกลางจำนวน 1 กระบอก ที่ใช้ก่อเหตุ พบกระสุนปืนในรังเพลิงจำนวน 2 นัด จึงคุมตัวมาทำการสอบสวนที่ สภ.เกาะทวด
จากการสอบสวนปากคำ นายวราวุธ ผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า เป็นคนที่ใช้อาวุธปืนยิง นายพงศ์ศักดิ์จนเสียชีวิตจริง สาเหตุมาจากเมื่อหลายเดือนก่อน นายพงศ์ศักดิ์ได้ใช้อาวุธปืนยิงสุนัขตัวหนึ่งของตนจนเสียชีวิต ทำให้ตนเจ็บใจแค้นมานาน และเกิดการท้าทายกันมาหลายครั้งแล้ว
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ต่อมาเมื่อถึงเวลาเกิดเหตุ ตนได้นัดนายพงศ์ศักดิ์มาพูดเจรจากันว่า ไปยิงสุนัขของตนทำไมที่สวนมะพร้าว ปรากฏว่านายพงศ์ศักดิ์ได้มารอตนก่อน โดย นายพงศ์ศักดิ์ ได้หลบซ่อนในพงหญ้าในสวนมะพร้าวที่เกิดเหตุ โดยได้ถือมีดเคียวตัดหญ้าติดตัวมาด้วย
เมื่อตนเดินทางมาถึงที่นัดหมายโดยนำอาวุธปืนลูกซองสั้นติดตัวมาด้วย เมื่อนายพงศ์ศักดิ์ เห็นตนถือปืนมาด้วยก็ตกใจ พยายามวิ่งหนีออกจากที่ซ่อน ตนจึงใช้อาวุธปืนไล่ยิงไป 4 นัดซ้อน กระสุนเจาะแผ่นหลัง นายพงศ์ศักดิ์ ล้มหงายท้องเสียชีวิตคาที่ทันที จากนั้นตนได้หลบหนีไปก่อนจะถูกตำรวจตามจับกุมในที่สุด
ด้าน พ.ต.ท. สวัสดิ์ นิยมเดช สว.หน.สภ.เกาะทวด เผยว่า ได้คุมตัวดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือหมู่บ้านต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์