เจาะ 6 ฟีเจอร์ไฮไลต์ของ OPPO Reno5 Series 5G ถ่ายพอร์เทรตเริดทุกโมเมนต์ทั้งภาพและวิดีโอ

เก็บทุกโมเมนต์สำคัญด้วยภาพถ่ายและวิดีโอพอร์เทรตที่สวยที่สุดจาก OPPO Reno5 Series 5G เป๊ะปังทั้งกลางวันและกลางคืนไปกับฟีเจอร์เด็ดแบบจัดเต็ม

ปัจจุบันใคร ๆ ก็สามารถถ่ายภาพและวิดีโอระดับมือโปรได้ด้วยสมาร์ทโฟนเจ๋ง ๆ เพียงเครื่องเดียว แต่อาจจะคิดไม่ตกว่า ถ่ายยังไงให้สวย หรืออยากได้มุมภาพเก๋ ๆ ต้องใช้อะไรบ้าง เราขอแนะนำให้รู้จักกับ 6 ฟีเจอร์เด็ดจาก OPPO Reno5 Series 5G ที่มีอยู่ในสมาร์ทโฟนที่ขึ้นชื่อว่า “ถ่าย Portrait Video สวยที่สุด” รวมอยู่ในเครื่องเดียว พร้อมให้คุณเก็บความประทับใจได้ตลอดเวลา ตามคอนเซ็ปต์ “Camera for every moment” ว่าแล้วเราตามไปดูกันเลย

นี่คือโฉมหน้าของ OPPO Reno5 Series 5G
สมาร์ทโฟนที่ถ่ายทั้งภาพนิ่งและวิดีโอพอร์เทรตที่สวยที่สุดในตอนนี้

ฟีเจอร์ที่ 1 : AI Highlight Video ปรับสภาพแสงอัตโนมัติ สวยคมชัดแม้แสงไม่เป็นใจ

เรียกว่าเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ชูโรงของ OPPO Reno5 Series 5G เลยก็ว่าได้กับ AI Highlight Video ที่มาพร้อมกับความฉลาดล้ำของ AI ที่จะคอยประมวลผล ตรวจวัด และปรับสภาพแสงในขณะถ่ายแบบอัตโนมัติ เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างไม่มีตกหล่น และยังเป็นฟีเจอร์แรกในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนตอนนี้เลยด้วย ซึ่งในฟีเจอร์นี้จะมี 2 โหมดที่น่าสนใจ นั่นก็คือ

Live HDR ถ่ายย้อนแสงแค่ไหนก็เอาอยู่

เหมาะกับการถ่ายในช่วงเวลากลางวันที่มีแสงจ้าหรือถ่ายย้อนแสง โหมดนี้จะปรับแสงในภาพให้พอเหมาะพอดี ปรับใบหน้าที่มืดให้ดูสว่างเป็นธรรมชาติ ขณะเดียวกันก็ยังปรับให้ฉากหลังคมชัดตามไปด้วย ไม่มีความเบลอให้เห็นเลยแม้แต่น้อย

Ultra Night Video ถ่ายกลางคืนให้แสงสวยใครว่ายาก

โหมดที่จะช่วยปรับแสงวิดีโอให้สว่างขึ้นแม้ถ่ายในตอนกลางคืน หรือที่ที่มีแสงน้อยมาก ๆ ระบบจะเปิด Ultra Night Video ให้ทันที ใบหน้าและฉากหลังจะสว่างขึ้น ออร่ากระจาย ที่สำคัญคือยังคงความสวยและคมชัดในทุกรายละเอียด

ฟีเจอร์ที่ 2 : Dual-view Video ถ่ายวิดีโอพร้อมกัน 2 กล้อง

นับเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่ที่สร้างความรู้สึกพิเศษให้กับการถ่ายวิดีโอบนสมาร์ทโฟนได้อย่างน่าสนใจมากเลยทีเดียวกับ Dual-view Video ซึ่งสามารถถ่ายวิดีโอกล้องหน้าและหลังได้พร้อมกัน จะร้องเพลง โชว์เต้น ทอล์กโชว์ หรือถ่ายคลิปเซอร์ไพรส์ ก็จะเห็นฟีลลิ่งของคนที่อยู่ทั้งหน้ากล้อง-หลังกล้องได้ในคลิปเดียว เห็นทีว่าสายครีเอตคอนเทนต์ต้องยิ้มแก้มปริ ถูกใจกับฟีเจอร์นี้แน่นอน

ซึ่งมีรูปแบบการแสดงผลให้เลือก 3 แบบตามใจ ได้แก่ Split (แบ่งครึ่งหน้าจอเท่ากัน), Round (กลม) และ Rectangle (สี่เหลี่ยม)

Round (กลม)

Split (แบ่งครึ่งหน้าจอเท่ากัน)

Rectangle (สี่เหลี่ยม)

ฟีเจอร์ที่ 3 : AI Mixed Portrait เอฟเฟกต์ซ้อนวิดีโอสุดชิค

ถือเป็นอีกหนึ่งความล้ำจาก OPPO Reno5 กับการใส่ Double Expore Effect เข้ามาในสมาร์ทโฟนเป็นครั้งแรกของโลก สามารถนำวิดีโอมาซ้อนทับกันได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว ไม่ต้องตัดต่อใส่เอฟเฟกต์ทีหลัง ซึ่ง AI อัจฉริยะจะช่วยตัดขอบตัวบุคคลได้อย่างเนียนกริบ เกิดเป็นวิดีโอพอร์เทรตที่มีมูฟเมนต์สวย ๆ ทำได้ 2 แบบ คือ Blend Mode การเบลนด์ 2 วิดีโอเข้าด้วยกัน เห็นภาพตัวบุคคลชัดเจน และ Silhouette Mode คือ วิดีโอที่เน้นวิวเป็นพื้นหลัง ส่วนตัวบุคคลจะเป็นเงา สร้างความอาร์ตมากขึ้นกว่าเดิม โดยโหมดนี้มีเฉพาะ OPPO Reno5 เท่านั้น

ฟีเจอร์ที่ 4 : AI Color Portrait ลบสีพื้นหลัง ดึงความโดดเด่นให้นางแบบ

AI Color Portrait Video เป็นฟีเจอร์สำหรับถ่ายวิดีโอพอร์เทรตที่ต้องการให้ดูโดดเด่นกว่าเดิม โดยจะเปลี่ยนพื้นหลังให้กลายเป็นสีขาว-ดำแบบคูล ๆ เป็นการโฟกัสที่ตัวบุคคลให้นางแบบโดดเด่นขึ้น

หรือแม้แต่การถ่ายภาพนิ่ง การใช้ AI Color Portrait ก็จะลบสีสันพื้นหลังทิ้งไปเช่นเดียวกัน ตัวบุคคลเด่นขึ้น ดูสวยสะดุดตา

ภาพ AI Color Portrait จากกล้องหน้าและกล้องหลัง

ฟีเจอร์ที่ 5 : Monochrome Video เล่นกับสีสัน ครีเอตวิดีโอคอนเทนต์นำเทรนด์ไม่เหมือนใคร

เพิ่มลูกเล่นให้กับวิดีโอพอร์เทรตดูเจ๋งกว่าเดิม ด้วยฟีเจอร์สุดปัง Monochrome Video ที่มีในรุ่น OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 Pro 5G ที่จะไฮไลต์สีในวิดีโอเฉพาะที่เราเลือกเท่านั้น ได้แก่ สีแดง (Crimson), สีเขียว (Forest Green) และสีน้ำเงิน (Sky Blue) ส่วนสีอื่น ๆ จะถูกดูดให้เป็นสีขาว-ดำโดยอัตโนมัติ จะได้วิดีโอหลากหลายอารมณ์ตามฟีลลิ่งของสีนั้น ๆ

คลิปวิดีโอ Monochrome Video

ฟีเจอร์ที่ 6 : Night Flare Portrait ถ่ายภาพพอร์เทรตยามค่ำคืนแบบมีมิติ

ปิดท้ายกับฟีเจอร์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือ Night Flare Portrait ที่ช่วยสร้างเอฟเฟกต์แสง Flare เนรมิตโบเก้ไฟให้เป็นดวงวิบวับได้อย่างสวยงาม เหมาะมากกับการถ่ายสถานที่ที่มีดวงไฟเยอะ ๆ ภาพที่ได้จะดูมีมิติ สดใสมากขึ้น และยังช่วยทำให้ภาพหน้าชัดหลังเบลอ แสงสว่างอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากจะจบทุกปัญหาของการถ่ายภาพกลางคืนแล้ว ยังทำให้ภาพพอร์เทรตยามค่ำคืนดูทรงพลังกว่าที่เคยด้วยสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว

สวยโดดเด่นท่ามกลางไฟโบเก้ระยิบระยับ

ภาพเปรียบเทียบปิด-เปิด Night Flare Portrait

จากแสงไฟประดับในห้องนั่งเล่น แต่ก็สร้างมิติให้กับภาพได้สวยเก๋ไม่เบาเลย

ไม่เพียงแต่ฟีเจอร์เด็ดของ OPPO Reno5 Series 5G ที่เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนถ่ายภาพและวิดีโอพอร์เทรตสวยที่สุดแล้ว ยังมีส่วนอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย คือ

ดีไซน์ตัวเครื่องโดดเด่นทันสมัย เบาและบาง

อีกหนึ่งความโดดเด่นของ OPPO Reno5 Series 5G มาพร้อมเทคโนโลยีล่าสุด Diamond Spectrum Process ทำให้ฝาหลังของตัวเครื่องสี Fantasy Silver และสี Galactic Silver สามารถสะท้อนเฉดสีได้นับพันในเครื่องเดียวเมื่อมองจากมุมหรือสภาพแสงที่ต่างกัน แถมยังลดการเกิดรอยนิ้วมือ เพราะเคลือบผิวฝาหลังแบบด้านด้วยเทคนิค Reno Glow อีกด้วย

รองรับ 5G ที่ทั้งเร็วและแรง ซึ่งมีอยู่ใน 2 รุ่น ได้แก่ OPPO Reno5 5G และ OPPO Reno5 Pro 5G ตอบสนองต่อการใช้งาน รับ-ส่งข้อมูลในปริมาณมากขึ้น เร็วขึ้น ไม่พลาดทุกการเชื่อมต่อ

หน้าจอ AMOLED แสดงผลสีสันสดใสให้สัมผัสการจับถือที่พรีเมียม

การชาร์จไว ใช้งานได้ต่อเนื่องไม่ติดขัด ช่วยให้เพลิดเพลินกับการสร้างคอนเทนต์ได้ทั้งวัน ซึ่งใน OPPO Reno5 มาพร้อม 50W Flash Charge ชาร์จ 5 นาที ดูวิดีโอได้นานถึง 3 ชั่วโมง ส่วน OPPO Reno5 Pro และ OPPO Reno5 5G เป็นระบบ 65W SuperVOOC 2.0 ชาร์จ 5 นาที ดูวิดีโอได้นานถึงได้นานถึง 4 ชั่วโมง

ทั้งนี้ OPPO Reno5 Series 5G มีด้วยกัน 3 รุ่น ได้แก่ OPPO Reno5, OPPO Reno5 5G และ OPPO Reno5 Pro 5G มาพร้อมฟีเจอร์กล้องและสเปกเครื่องที่ครบถ้วน ซึ่งในแต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างให้เลือกใช้งานกัน คือ OPPO Reno5 มีครบทุกฟังก์ชันมาในราคาเบาๆ รองรับเฉพาะ 4G เพียง 10,990 บาท ถ้าอยากเพิ่มประสบการณ์ 5G สัมผัสความเร็วและแรง ก็จะเหมาะกับ OPPO Reno5 5G ราคา 13,990 บาท หรือหากเป็นคนที่หลงใหลในตัวท็อปพรีเมียม ยืนหนึ่งทั้งสเปกเครื่อง ตลอดจนฟีเจอร์ และยังรองรับ 5G ด้วย ก็จะเหมาะกับ OPPO Reno5 Pro 5G ในราคา 19,990 บาท

สำหรับใครที่ชื่นชอบการถ่ายภาพและวิดีโอสไตล์พอร์เทรตงาม ๆ ไม่อยากให้พลาดมาลอง OPPO Reno5 Series 5G ทั้ง 3 รุ่นนี้ สามารถหาซื้อได้ที่ OPPO Brand Shop www.facebook.com/oppothai/ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ