ครอบครัวอาม่าเปิดใจ คดีอยากได้ให้ไปฟ้องเอา รับธนาคารยังกริบ ไม่มาบอกจะชดเชยยังไง

           ครอบครัวอาม่าเปิดใจหลังชนะคดีธนาคาร ได้เงิน 3.6 ล้านคืนมาแล้ว รับอาม่าไว้ใจพนักงานคนนั้นเหมือนญาติ ตอนเรียกเงินคืนก็ไม่เรียกค่าเสียหายอื่น ๆ นอกจากเงินตัวเอง หลังจากนี้ต้องลุ้นธนาคารอุทธรณ์ต่อหรือไม่

          จากกรณีที่นางอรุณพร หวังสันติพร อายุ 83 ปี เจ้าของบริษัท กรุงไทยออดิโอ จำกัด ผู้ผลิตผลงานศิลปินลูกทุ่ง ถูกพนักงานธนาคารยักยอกเงินที่นำไปฝาก จำนวนกว่า 13 ล้านบาท แต่ธนาคารคืนเงินไม่ครบ ขาดไป 3 ล้าน พร้อมอ้างว่า ถ้าอยากได้คืนให้ไปฟ้องร้องเอา ซึ่งผลการตัดสินคดีของศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ตัดสินให้ธนาคารคืนเงินที่เหลือ 3.6 ล้านบาท แก่คู่กรณี พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ตั้งแต่วันที่เริ่มฟ้อง ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

อ่านข่าว : อาม่า สู้ 4 ปี จนชนะคดี พนง. แบงก์ยักยอกเงิน 13 ล้าน หลังธนาคารท้า อยากได้ก็ไปฟ้องเอา

          ล่าสุด วันที่ 20 พฤษภาคม 2564 เรื่องเด่นเย็นนี้ รายงานว่า นายวิจิตร และนางวันวิสาข์ หวังสันติพร ลูกชายและลูกสะใภ้ของอาม่า เปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า หลังจากที่แม่รู้ว่าจะได้เงินคืนก็ดีใจ ส่วนตัวเชื่อว่าศาลตัดสินอย่างเป็นธรรมอยู่แล้ว เพราะเงินจำนวนดังกล่าวเป็นของครอบครัว รอแค่ว่าจะเสร็จเมื่อไหร่เท่านั้น แต่สิ่งที่กังวลที่สุดคือสุขภาพของแม่ที่อายุมากแล้ว

          ตอนเกิดเหตุช่วงแรกนั้นแม่รู้สึกแย่ เพราะไว้ใจพนักงานคนนั้นเหมือนกับเป็นญาติ ที่ผ่านมาก็ไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหายอะไร เพียงแต่ใช้สิทธิ์เรียกร้องเงินของตัวเองคืนมาเท่านั้น หลังจากนี้จะนำเงินบางส่วนไปสะเดาะเคราะห์กับเรื่องที่เกิดขึ้น

          แต่หลังจากชนะคดี ฝั่งธนาคารก็ยังคงเงียบกริบ ไม่มีติดต่อมาเลย ไม่มีแสดงความยินดี ไม่มีมาบอกว่าจะชดใช้เงินคืนให้ ธนาคารที่มีชื่อเสียงระดับหนึ่งแบบนี้ ดูแลลูกค้าแบบนี้เหรอ สำหรับเรา เราไม่มั่นใจธนาคารนี้แล้ว


          ด้าน นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ กล่าวว่า หลังจากศาลชั้นต้นพิพากษา ธนาคารต้องนำเงินมาชดใช้ให้กับโจทก์ภายใน 30 วัน แม้ว่าธนาคารจะยื่นอุทธรณ์ก็ตาม ซึ่งถ้าในชั้นอุทธรณ์ธนาคารชนะ ฝั่งอาม่าก็จะเอาเงินไปคืนตามคำสั่งศาลเท่านั้น ต้องรอดูอีกทีว่าธนาคารจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่

ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเด่นเย็นนี้