การบินไทย สั่งปลดฟ้าผ่าพนักงาน 508 คน มีผล 31 พฤษภาคม นี้ พร้อมเงินชดเชย ด้านสหภาพแรงงานซัด เลิกจ้างไม่เป็นธรรม เตรียมทำเรื่องร้องเรียนให้
ภาพจาก iamlukyeee / Shutterstock.com
เมื่อวานนี้ (21 พฤษภาคม 2564) สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า นายสุวรรธนะ สีบุญเรือง ประธานเจ้าหน้าที่สายทรัพยากรบุคคล ผู้รับมอบอำนาจช่วงจากรักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) มีการลงนามเรื่องเลิกจ้างโดยจ่ายชดเชยค่าจ้าง พนักงาน 508 คน มีผลตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม นี้ เป็นต้นไป
โดยเนื้อหาการประกาศนั้นระบุว่า เนื่องจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ประสบปัญหาขาดทุนสะสมอย่างต่อเนื่อง ยาวนาน ประกอบกับช่วงโควิด 19 บริษัทไม่สามารถประกอบธุรกิจการบินได้ตามปกติ จนต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ หลังจากนั้นก็มีความจำเป็นต้องปรับปรุงองค์กรทุกด้าน เพื่อลดต้นทุนลงและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน แล้วจะได้มีเงินสดในการชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ตามที่กำหนดไว้ด้วย

ภาพจาก Pojana Jermsawat / Shutterstock.com
ทั้งนี้ บริษัทจะจ่ายค่าชดเชยเงินอื่น ๆ ตามกฎหมาย และเงินที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้าง ซึ่งจะจ่ายเงินนี้หลังจากหักภาษี ณ ที่จ่าย ได้แก่
1. ค่าจ้างทำงานถึงวันสุดท้าย
2. วันหยุดพักผ่อนประจำปีที่ยังไม่ได้ใช้
3. ค่าชดเชย
4. สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า
5. เงินบำเหน็จ
ส่วนคนที่มีทรัพย์สินอยู่ของบริษัทหรือสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานบริษัทการบินไทย ขอให้แจ้งคืนทรัพย์สินของบริษัทโดยทันที รวมถึงเอกสารบันทึกรายการ ข้อมูลต่าง ๆ ของบริษัทและลูกค้า ความลับทางการค้า ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม นี้
508 คนที่ถูกเลิกจ้างเป็นใคร
นายนเรศ ผึ้งแย้ม ที่ปรึกษาสหภาพแรงงานการบินไทยร่วมใจสัมพันธ์ (สร.กบท.สพ.) กล่าวว่า พนักงานที่ถูกเลิกจ้าง 508 คน เป็นพนักงานที่ไม่ได้แสดงความจำนงเข้าร่วมกระบวนการกลั่นกรองเข้าสู่โครงสร้างองค์กรใหม่ 2564 และเนื่องจากพนักงานกลุ่มนี้ยังไม่ได้รับการคุ้มครองตามสภาพการจ้างงานเดิมอยู่ ถือว่าบริษัทเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ถือเป็นการเลือกปฏิบัติ ซึ่งพนักงานที่ถูกเลิกจ้างฟ้าผ่าครั้งนี้เขียนคำร้องยื่นต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ได้ว่า ถูกเลิกจ้างไม่เป็นธรรม และจะไปยื่นฟ้องศาลแรงงานต่อไป
สำหรับคำร้องจะมี 2 กลุ่ม ได้แก่
1. กลุ่มที่ขอให้ศาลสั่งให้บริษัทรับกลับมาเป็นพนักงานเหมือนเดิม
2. กลุ่มที่ต้องการเรียกร้องเงินชดเชย กรณีเลิกจ้างไม่เป็นธรรม โดยคิดค่าจ้างจากเงินเดือนที่เหลืออยู่คูณด้วยอายุการทำงานที่เหลืออยู่
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวอิศรา






