หนุ่มพบกล้องถูกทิ้งกลางป่าลึก ตัดสินใจออกตามหาคู่รัก หวังคืนความทรงจำล้ำค่าในวันวาน ใครจะคิด 4 ปีผ่านไปที่หาไม่เจอ กลับพบตัวในเวลาไม่ถึง 1 วัน ด้วยพลังโซเชียล
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Meigo Mark
มันเป็นเรื่องน่าปวดใจอย่างแท้จริง หากอยู่ ๆ เราจะทำกล้องหายไปหลังจากที่ใช้บันทึกภาพช่วงเวลาอันล้ำค่า ในทริปแห่งความทรงจำขณะเดินทางมายังต่างแดน เรื่องเศร้านี้ได้เกิดขึ้นกับคู่รักชาวฝรั่งเศส เมื่อทั้งคู่ได้ทำกล้องหายไปขณะเดินทางมายังเกาะอันห่างไกลจากบ้านเกิด อย่างไรก็ตาม โชคชะตาได้นำความทรงจำที่หายไปหวนกลับคืนสู่ทั้งคู่จนได้ ต้องขอบคุณ เมโก มาร์ก นักท่องเที่ยวชาวเอสโตเนีย ที่แสนใจดีคนนี้
เมโกก็เป็นนักท่องเที่ยวคนหนึ่ง เขาย่อมเข้าใจดีว่าภาพเหล่านี้ย่อมเป็นความทรงจำล้ำค่าของผู้ที่ทำกล้องหายไป ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจที่จะตามหาเจ้าของกล้องตัวนี้ให้พบ
ด้วยความที่เมนูในกล้องมีการตั้งค่าเป็นภาษาฝรั่งเศส ทำให้เขาคิดว่าคู่รักอาจเป็นคนฝรั่งเศสหรือมาจากประเทศที่พูดภาษาฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม ในตอนที่เขานำกล้องกลับไปที่โรงแรม กลับไม่มีพนักงานคนไหนจำคนในรูปได้เลย และแม้ว่าเขาจะตระเวนไปถามข้อมูลยังโรงแรมและโฮสเทลที่อื่น ๆ ก็ดูจะไร้วี่แวว
"ผมพยายามตามหาคู่รักนี้ในปี 2560 พยายามติดต่อโรงแรมและโฮสเทลหลายแห่งที่พวกเขาน่าจะเข้าพัก แต่ก็ไม่สำเร็จ ผมอยากตามหาพวกเขาให้เจอจริง ๆ แต่สุดท้ายผมก็ยอมแพ้" มาโก เผยกับเวิลด์ออฟบัซ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Meigo Mark
"ผมกำลังตามหาคู่รักที่พูดภาษาฝรั่งเศส ที่เดินทางมายังกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เมื่อ 4 ปีก่อน ตอนวันที่ 29 กรกฎาคม 2560 พวกเขาทั้งคู่ทำกล้องหายไปบนเกาะเปอร์เฮนเตียนเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2564 ผมพบกล้องอยู่ในป่าลึก และ SD Card ยังทำงานอยู่ ผมอยากแบ่งปันภาพถ่ายการเดินทางที่น่าอัศจรรย์กว่า 1,900 รูป ที่ทั้งคู่บันทึกไว้แก่พวกเขา โปรดแชร์โพสต์นี้ไปถึงเพื่อนที่พูดภาษาฝรั่งเศส และช่วยตามหาพวกเขาที" มาโก ระบุ
ไม่น่าเชื่อว่าด้วยพลังของโซเชียล เพียงแค่ 10 ชั่วโมงหลังโพสต์ดังกล่าว ในที่สุดมาโกก็สามารถติดต่อกับเจ้าของกล้องได้ เพราะเจ้าของคลาสสอนทำอาหารที่คู่รักเคยมาเรียนเมื่อ 4 ปีก่อน ได้เห็นโพสต์และจดจำพวกเขาได้ อีกทั้งเธอยังเก็บอีเมลติดต่อไว้
ที่แท้คู่รักดังกล่าวก็คือ แอนโธนี และ จูเลีย จากฝรั่งเศส โดยสาเหตุที่กล้องหายไปนั้นเป็นความโชคร้ายอย่างแท้จริง เพราะกล้องตัวนี้ถูกขโมยไประหว่างที่พวกเขาเดินทางไปเที่ยวเกาะดังกล่าว ไม่มีใครคิดว่าสุดท้ายกล้องจะลงเอยด้วยการถูกทิ้งไว้กลางป่า จนมีคนมาพบเจอเช่นนี้
ทั้งนี้ แม้จะโชคร้ายที่ตัวกล้องได้รับความเสียหายจากการถูกทิ้งไว้กลางป่าช่วงฝนตกหนัก จนยากที่จะซ่อมใหม่ เพราะค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนชิ้นส่วนต่าง ๆ นั้นสูงพอ ๆ กับการซื้อกล้องใหม่ แต่อย่างน้อยมาโกก็สามารถส่งคืนความทรงจำที่หายไปให้แก่คู่รักดังกล่าวได้ในที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก เวิลด์ออฟบัซ