เปิดเส้นทางการสืบสวน คดีน้องชมพู่ ย้อนรอยคดีตลอดระยะเวลากว่า 1 ปี กับหลักฐานต่าง ๆ จนใกล้ถึงบทสรุป คำใบ้จากตำรวจ คนใกล้ชิดที่ว่า จะลงเอยที่ใคร ฝ่ายทนายลุงพล แนะให้เตรียมพร้อม
ภาพจาก สำนักข่าว INN
ใกล้ถึงจุดจบแล้วหรือไม่ สำหรับคดีน้องชมพู่ เด็กหญิงอายุ 3 ขวบ ที่ถูกพบเป็นศพบนภูเหล็กไฟ บ้านกกกอก จ.มุกดาหาร ซึ่งคดีมีความยืดเยื้อมาเป็นเวลานานกว่า 1 ปี แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้
กระทั่งล่าสุด (29 พฤษภาคม 2564) ตำรวจออกมาเปิดเผยความคืบหน้าว่า คดีใกล้จะถึงบทสรุปในเร็ว ๆ นี้ หลังมีหลักฐานสำคัญ อาทิ กางเกง รองเท้า เส้นขนจำนวน 3 เส้น ที่นำไปตรวจดีเอ็นเอ จนสามารถระบุได้แล้วว่าเป็นของใคร รวมถึงหลักฐานอย่างเส้นผมน้องชมพู่ ที่ถูกหั่น 30 เส้น และคำให้การพยานจากการเข้าเครื่องจับเท็จ นั้น
อ่านข่าว : รู้ตัวคนร้ายแล้ว !! ขน 3 เส้น หลักฐานมัดตัว คดีน้องชมพู่ จ่อออกหมายจับ
ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2563 พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แถลงความคืบหน้าคดีน้องชมพู่ ยืนยันว่า น้องชมพู่ไม่สามารถเดินขึ้นไปได้เอง จากการสืบสวนพยาน 384 ปาก สอบปากคำเข้าสำนวน 124 ปาก สอบผู้เชี่ยวชาญ 13 ปาก หลักฐาน 113 ชิ้น และเก็บดีเอ็นเอถึง 154 พยาน
เหตุผลที่เชื่อว่า น้องชมพู่ ไม่ได้ขึ้นเขาไปเอง แต่มีคนพาขึ้นไป
เส้นทางค่อนข้างลาดชัน และมีเนินหินชันเกิน 60 องศา ที่เด็กเล็กไม่สามารถมีพลังงานทำได้ และศพที่พบอยู่ในลักษณะเปลือย ซึ่งพ่อและแม่ยืนยันว่าลูกยังถอดเสื้อผ้าเองไม่ได้ นิสัยของน้องคือกลัวที่สูง ที่มืด และไม่เคยไปไกลจากบ้าน และหลักฐานสำคัญคือ เจอเส้นผมน้องที่ถูกเฉือน 36 เส้น ตกอยู่ข้างศพ ซึ่งน่าจะเป็นฝีมือบุคคลอื่น เพราะน้องตัดผมเองไม่ได้
ข้อสังเกตผู้ต้องสงสัย
เชื่อว่าเป็นคนใกล้ชิด เพราะพ่อแม่และญาติ ยืนยันว่า ปกติน้องไม่ให้ใครอุ้ม ไม่ไปไหนกับคนแปลกหน้า ถ้าไม่ใช่แบบนี้ก็จะถูกบังคับไป และคนที่ก่อเหตุจะต้องรู้จักภูเหล็กไฟเป็นอย่างดี หรือต้องเคยเดินขึ้นไป เพราะตำแหน่งที่เดินนั้นไม่ค่อยมีใครไปเดิน
อ่านข่าว : สรุป แถลงข่าวน้องชมพู่ มีคนพาขึ้นภูเหล็กไฟ-คาดตายจากขาดอาหาร-คนทำคือคนใกล้ตัว
ภาพจาก สำนักข่าว INN
ภาพจาก สำนักข่าว INN
ลุงพล ยังไม่ใช่ผู้ต้องสงสัย แต่ทนายแนะนำให้เตรียมพร้อม
ในส่วนของ นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ซึ่งตกเป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกจับตามองในคดีนี้ จนถึงขณะนี้ทางตำรวจยังไม่เคยออกมาระบุชัดเจนว่าเป็นผู้ต้องสงสัย แต่ทางลุงพลก็ได้มีการติดต่อ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ให้เข้ามาดูแลเรื่องคดีความ หลังตนเองถูกสังคมพุ่งเป้า
โดยวานนี้ (29 พฤษภาคม) ข่าวช่องวัน เผยว่า ทนายตั้ม ยอมรับว่าเมื่อสัปดาห์ก่อนได้พูดคุยกับลุงพลถึงคดีของน้องชมพู่ ซึ่งในฐานะทนายความได้แนะนำให้เตรียมหลักทรัพย์ในการประกันตัวไว้ ซึ่งหากสุดท้ายลุงพลตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ และหมายเรียกออกมาเป็นลุงพลจริง ก็ไม่มีสิ่งใดต้องกังวล เพราะสามารถยื่นประกันตัวได้
ทนายตั้มยังยืนยันว่า หากลุงพลถูกดำเนินคดีจริง ถือเป็นเรื่องดี เนื่องจากจะได้ใช้กระบวนการยุติธรรม ต่อสู้เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์
ภาพจาก สำนักข่าว INN
แม่น้องชมพู่ ตื่นเต้น ใกล้รู้ความจริง
นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่ เปิดใจหลังทราบว่าทางตำรวจรู้ตัวคนร้ายแล้ว โดยยอมรับว่ารู้สึกตื่นเต้น และยินดีที่ทราบข่าวว่าตำรวจจะเตรียมสรุปสำนวนคดี เนื่องจากเป็นสิ่งที่ครอบครัวเฝ้ารอมาตลอดกว่า 1 ปี โดยหวังตำรวจจะจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้ในเร็ววัน
