หญิงลี ศรีจุมพล ติดค้างคาใจ ลุงพล พูดเรื่องน้องชมพู่ไม่ตรงกัน ยันไม่มีเจตนาทำร้ายใคร ยอมรับตอนแรกเห็นใจลุงพล จนมองข้ามความรู้สึกพ่อแม่เด็ก
ภาพจาก Instagram yinglee_lalla
วันที่ 5 มิถุนายน 2564 เดลินิวส์ และรายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ รายงานกรณีเกี่ยวข้องกับ นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีน้องชมพู่ โดยทางหญิงลี ศรีจุมพล นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ซึ่งเคยมีโอกาสได้ร่วมงานและพูดคุยกับลุงพล ได้ออกมาเปิดใจหลังจากได้ฟังการแถลงข่าว แล้วรู้สึกติดค้างคาใจ เพราะลุงพลพูดเรื่องน้องชมพู่ไม่ตรงกัน
โดยหญิงลี กล่าวว่า เธอได้พบกับลุงพลเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ปีที่ผ่านมา ลุงพลและทีมงานมาพักรีสอร์ตของเธอที่จังหวัดบุรีรัมย์ เพราะเตรียมจะสาบานยืนยันความบริสุทธิ์ที่วัดพระเจ้าใหญ่ ซึ่งตอนนั้นเธอก็เชื่อว่าลุงพล อาจจะเป็นแพะ
โดยหญิงลี กล่าวว่า เธอได้พบกับลุงพลเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ปีที่ผ่านมา ลุงพลและทีมงานมาพักรีสอร์ตของเธอที่จังหวัดบุรีรัมย์ เพราะเตรียมจะสาบานยืนยันความบริสุทธิ์ที่วัดพระเจ้าใหญ่ ซึ่งตอนนั้นเธอก็เชื่อว่าลุงพล อาจจะเป็นแพะ
ในช่วงนั้น หญิงลีได้ทำงานร่วมกันกับลุงพลประมาณ 1 อาทิตย์ ลุงพลได้ค่าครั้งตัวครั้งละประมาณ 20,000-40,000 บาท ตอนที่ทำงานร่วมกัน ลุงพลมักจะเล่าเรื่องน้องชมพู่ให้ฟัง บางครั้งก็จะไปนั่งซึม จึงทำให้เธอรู้สึกเห็นใจและอยากช่วยเหลือ ยอมรับว่าตอนนั้นลืมคิดถึงความรู้สึกของพ่อแม่น้องชมพู่ไป
อย่างไรก็ดี หญิงลี เผยว่า ตอนที่เจอกันนั้น ลุงพลเล่าให้เธอฟังว่า วันเกิดเหตุน้องชมพู่รบเร้าจะไปด้วย ถ้าเขาพาไป หลานคงไม่เสียชีวิต แต่ตอนแถลงข่าว ลุงพลกลับบอกว่า วันที่น้องชมพู่หายตัวไปนั้น เขาไม่ได้เห็นหน้าน้องเลย ซึ่งไม่ตรงกัน
หญิงลี กล่าวว่าวันนี้ที่ตัดสินใจออกมาพูดเพราะรู้สึกติดค้างคาใจเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องเศร้า และเธอรู้สึกผิดกับทางพ่อแม่ของน้องชมพู่ที่ต้องเจ็บปวด ยืนยันว่าการออกมาพูดครั้งนี้ ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายใคร และลุงพลยังคงเป็นผู้บริสุทธิ์ตามกฎหมาย เพราะศาลยังไม่มีคำพิพากษาออกมา
อย่างไรก็ดี หญิงลี เผยว่า ตอนที่เจอกันนั้น ลุงพลเล่าให้เธอฟังว่า วันเกิดเหตุน้องชมพู่รบเร้าจะไปด้วย ถ้าเขาพาไป หลานคงไม่เสียชีวิต แต่ตอนแถลงข่าว ลุงพลกลับบอกว่า วันที่น้องชมพู่หายตัวไปนั้น เขาไม่ได้เห็นหน้าน้องเลย ซึ่งไม่ตรงกัน
หญิงลี กล่าวว่าวันนี้ที่ตัดสินใจออกมาพูดเพราะรู้สึกติดค้างคาใจเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องเศร้า และเธอรู้สึกผิดกับทางพ่อแม่ของน้องชมพู่ที่ต้องเจ็บปวด ยืนยันว่าการออกมาพูดครั้งนี้ ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายใคร และลุงพลยังคงเป็นผู้บริสุทธิ์ตามกฎหมาย เพราะศาลยังไม่มีคำพิพากษาออกมา
ภาพจาก ช่อง 3