ดร.เสรี ลั่นโกรธรัฐบาล ปมเลื่อนฉีดวัคซีนโควิด 19 ไม่มีปัญญาจะช่วยชี้แจงแล้ว ซัดนิ่งเฉยไม่ชี้แจงเท่ากับไม่แยแสประชาชน ปล่อยให้ประชาชนสงสัย แต่ไม่ออกมาชี้แจงให้ชัดเจน
![ดร.เสรี วงษ์มณฑา]( "ดร.เสรี วงษ์มณฑา")
ภาพจาก รายการเรื่องลับมาก (แฟ้มภาพ)
วันที่ 6 มิถุนายน 2564 ดร.เสรี วงษ์มณฑา ผู้ร่วมก่อตั้งสถาบันทิศทางไทย นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ดร.เสรี วงษ์มณฑา ระบุว่า ตนเบื่อ เซ็ง โกรธ ท้อใจ ไม่มีปัญญาจะช่วยชี้แจงแล้ว ทำไม่เรื่องมีหรือไม่มีวัคซีนโควิด 19 ที่ต้องได้ฉีดกันตามนัดกลับต้องเลื่อน มันวุ่นวายไปหมด สื่อของรัฐก็มี ช่องทางออนไลน์ก็มีมาก ทำไมถึงปล่อยให้มีข้อมูลการถูกเลื่อน ถูกเทเต็มไปหมด ไม่คิดจะทำให้ประชาชนมั่นใจ สบายใจบ้างเลยหรือ
ดร.เสรี บอกอีกว่า โรงพยาบาลประกาศเลื่อนหลายพื้นที่ หลายจังหวัด ประชาชนก็ออกมาด่า หมอชนบทก็ออกมาเขียนเรื่องวัคซีนไม่เพียงพอ มีการกระจายวัคซีนที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งรัฐมนตรีก็ยืนยันว่าพอ แต่เมื่อฟังจำนวนที่ได้มา ไม่แน่ใจว่าสามารถจัดการฉีดให้ได้ตามเวลานัด คิดว่ามีคนนัดหลายล้านคน แต่ที่ประกาศออกมา 1.8 ล้านโดส ไม่น่าจะพอ
ควรจัดแถลงข่าวให้เป็นเรื่องเป็นราว
การนิ่งเฉยไม่ชี้แจงแก้ไขความสับสนของประชาชนถือว่าไม่แยแส
ไม่ใส่ใจความรู้สึกของประชาชน อย่าชะล่าใจจนแนวร่วมที่เอาใจช่วยรัฐบาลและ
ศบค. มาโดยตลอดถอดใจเพราะความหงุดหงิด
ใครที่รับผิดชอบเรื่องการสื่อสารกรณีของวัคซีนขยับหน่อย
การประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ทัศนคติที่ดี
ไม่ใช่มีแค่รายงานสิ่งที่เกิดขึ้นรายวัน
แต่ต้องมียุทธศาสตร์ในการสร้างความเข้าใจ การยอมรับ และความชื่นชมด้วย
การรายงานรายวันเป็นเพียงการประกาศ แจ้งให้ทราบ ที่ใช้การนำเสนอที่มีทักษะการแสดงออก แต่การสร้างความเข้าใจและทัศนคติที่เป็นบวกเป็นเรื่องของยุทธศาสตร์ที่ต้องการคนที่เป็นนักยุทธศาสตร์ในการชักชวนและให้ความรู้ที่ไม่ใช่ใคร ๆ ก็จะเป็นได้ ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ยังไม่มีกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์เชิงรุกที่ดีพอ มีแต่การประชาสัมพันธ์เชิงรับ ก็ยังช้าไป และหลายครั้งก็สร้างศัตรูด้วยการตำหนิสื่อหรือคนที่มีข้อมูลผิด แทนที่จะได้แนวร่วมกลับเพิ่มแนวต้าน
ถ้าใส่ใจอารมณ์สาธารณะ (public sentiment) ก็ควรออกมาแก้ไขความสับสนเรื่องเลื่อนไม่เลื่อนให้ชัดเจน ถ้าจำเป็นต้องเลื่อนก็ขอเหตุผลที่เข้าใจและยอมรับได้หน่อย ตนอึดอัด อยากช่วย แต่หากสถานการณ์เป็นอย่างนี้ก็หมดปัญญา "การประชาสัมพันธ์ที่ดีต้องตั้งอยู่บนความจริงที่มั่นคง" ขอให้ตระหนักข้อนี้ การไม่พูดความจริง จะทำให้เต็มไปด้วยข่าวลือ แล้วจะทำให้เสียแนวร่วม
ในยามวิกฤตอย่าปล่อยให้สาธารณชนอยากรู้แต่ไม่มีคำตอบ
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยโพสต์
ภาพจาก รายการเรื่องลับมาก (แฟ้มภาพ)
วันที่ 6 มิถุนายน 2564 ดร.เสรี วงษ์มณฑา ผู้ร่วมก่อตั้งสถาบันทิศทางไทย นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ดร.เสรี วงษ์มณฑา ระบุว่า ตนเบื่อ เซ็ง โกรธ ท้อใจ ไม่มีปัญญาจะช่วยชี้แจงแล้ว ทำไม่เรื่องมีหรือไม่มีวัคซีนโควิด 19 ที่ต้องได้ฉีดกันตามนัดกลับต้องเลื่อน มันวุ่นวายไปหมด สื่อของรัฐก็มี ช่องทางออนไลน์ก็มีมาก ทำไมถึงปล่อยให้มีข้อมูลการถูกเลื่อน ถูกเทเต็มไปหมด ไม่คิดจะทำให้ประชาชนมั่นใจ สบายใจบ้างเลยหรือ
ดร.เสรี บอกอีกว่า โรงพยาบาลประกาศเลื่อนหลายพื้นที่ หลายจังหวัด ประชาชนก็ออกมาด่า หมอชนบทก็ออกมาเขียนเรื่องวัคซีนไม่เพียงพอ มีการกระจายวัคซีนที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งรัฐมนตรีก็ยืนยันว่าพอ แต่เมื่อฟังจำนวนที่ได้มา ไม่แน่ใจว่าสามารถจัดการฉีดให้ได้ตามเวลานัด คิดว่ามีคนนัดหลายล้านคน แต่ที่ประกาศออกมา 1.8 ล้านโดส ไม่น่าจะพอ
การรายงานรายวันเป็นเพียงการประกาศ แจ้งให้ทราบ ที่ใช้การนำเสนอที่มีทักษะการแสดงออก แต่การสร้างความเข้าใจและทัศนคติที่เป็นบวกเป็นเรื่องของยุทธศาสตร์ที่ต้องการคนที่เป็นนักยุทธศาสตร์ในการชักชวนและให้ความรู้ที่ไม่ใช่ใคร ๆ ก็จะเป็นได้ ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ยังไม่มีกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์เชิงรุกที่ดีพอ มีแต่การประชาสัมพันธ์เชิงรับ ก็ยังช้าไป และหลายครั้งก็สร้างศัตรูด้วยการตำหนิสื่อหรือคนที่มีข้อมูลผิด แทนที่จะได้แนวร่วมกลับเพิ่มแนวต้าน
ถ้าใส่ใจอารมณ์สาธารณะ (public sentiment) ก็ควรออกมาแก้ไขความสับสนเรื่องเลื่อนไม่เลื่อนให้ชัดเจน ถ้าจำเป็นต้องเลื่อนก็ขอเหตุผลที่เข้าใจและยอมรับได้หน่อย ตนอึดอัด อยากช่วย แต่หากสถานการณ์เป็นอย่างนี้ก็หมดปัญญา "การประชาสัมพันธ์ที่ดีต้องตั้งอยู่บนความจริงที่มั่นคง" ขอให้ตระหนักข้อนี้ การไม่พูดความจริง จะทำให้เต็มไปด้วยข่าวลือ แล้วจะทำให้เสียแนวร่วม
ในยามวิกฤตอย่าปล่อยให้สาธารณชนอยากรู้แต่ไม่มีคำตอบ
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยโพสต์
