หนุ่มหนีไปเที่ยว หลอกที่บ้านว่าหลงป่า ทำเจ้าหน้าที่วุ่นหนัก ต้องเดินเท้าลุยป่าปีนเขาตามหานาน 5 วัน สุดท้ายโป๊ะแตก เช็กสัญญาณมือถืออยู่ในเมือง ไม่เคยเข้าป่า
ภาพจาก สำนักข่าวไทย
วันที่ 9 มิถุนายน 2564 สำนักข่าวไทย รายงานว่า พ.ต.อ. ฤกษ์ชัย แสงสว่าง ผกก.สภ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง เร่งสอบปากคำายนรินทร์ อุปอินทร์ อายุ 37 ปี หรือนายโต่น หลังจากเจ้าตัวอ้างว่าเข้าไปหาของป่ากับนายนวล เขียวคำ อายุ 50 ปี ตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคม 2564 แต่หลงป่า กระทั่งวันที่ 3 มิถุนายน 2564 จึงพบทางออกจากป่า
หลังจากถูกเค้นสอบอย่างหนักนายนรินทร์ ก็รับสารภาพว่า ตนไม่ได้หลงป่าแต่ไปเที่ยวหาเพื่อนในตัวเมืองลำปาง โดยระหว่างนั้นโทรศัพท์แบตฯ หมด เมื่อกลับมาบ้านกลัวถูกชาวบ้านด่า จึงอ้างว่าหลงป่าจริง แต่หาทางออกได้ พร้อมขอโทษที่โกหกจนทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อน
ภาพจาก สำนักข่าวไทย
โดยเรื่องราวทั้งหมดนั้นเริ่มต้นเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง รับแจ้งว่านายนรินทร์ เข้าไปหาของป่าแล้วหายตัวไป จึงได้ประสานเครือข่ายกู้ภัย อ.ห้างฉัตร เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ป่าไม้ ฝ่ายปกครอง อ.ห้างฉัตร และชาวบ้านในพื้นที่ ระดมกำลังเกือบ 100 นาย ตั้งศูนย์ค้นหาคนหายขึ้น พร้อมวางแผนตรวจสอบแผนที่ในป่า เพื่อกระจายกำลังออกติดตามค้นหาในป่า บางจุดเจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าด้วยความทุลักทุเล เพราะเป็นทางขึ้นเขา ลงห้วย ทางน้ำ ซึ่งตลอดการค้นหารวม 5 วัน ก็ยังไร้วี่แวว โดยระหว่างนี้ชาวบ้านก็ร่วมใจกันช่วยเหลืออย่างเต็มที่ พร้อมนำอาหาร เครื่องดื่ม มาช่วยเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานค้นหาตัวนายนรินทร์
ภาพจาก สำนักข่าวไทย
จากนั้นช่วงบ่าย ปรากฏว่า นายนรินทร์ได้กลับมาที่บ้าน ท่ามกลางความยินดีของบรรดาญาติพี่น้อง ชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ที่ออกค้นหา มาให้กำลังใจกันเป็นจำนวนมาก โดยเจ้าตัวบอกว่า ตนเองหลงป่าจริง โดยอาศัยกินของป่าประทังชีวิต จนกระทั่งพบทางออก จึงเดินออกมาที่ถนน และพบกับชาวบ้านที่ไปหาหน่อไม้ และซ้อนมอเตอร์ไซค์กลับมาที่บ้าน
ภาพจาก สำนักข่าวไทย
แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่เชื่อคำพูดของนายนรินทร์ จึงคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.ห้างฉัตร จนสุดท้ายนายนรินทร์ยอมรับสารภาพแต่โดยดีว่าหลงป่าทิพย์ ไม่เคยเข้าไปในป่าเลย พร้อมขอโทษทุกคนที่ต้องวุ่นวายออกตามหาหลายวัน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา ตำรวจแจ้งข้อหาแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน อันเป็นความเสียหาย โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท และส่งตัวฟ้องศาลต่อไป
