ชายซ่อนเมียไว้ในบ้าน ซุกไว้ในห้องตัวเอง อยู่กินกัน 11 ปี ไม่มีใครรู้ แม้แต่พ่อแม่อยู่บ้านเดียวกัน ยังไม่ระแคะระคาย สุดอึ้งหลังรู้ความจริง แม้แต่ตำรวจยังยอมใจ
คนเราย่อมต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่อยากให้ใครรู้ อาจเป็นเรื่องราวลับ ๆ หรือสิ่งของที่เก็บซ่อนไว้ภายในห้อง สำหรับ ราห์มัน คาห์นิ ชายอินเดียวัย 34 ปี ก็เช่นกัน เขามีความลับบางอย่างที่ซ่อนอยู่ภายในห้องนอนเล็ก ๆ ที่บ้านหลังน้อยของครอบครัว แต่ใครเลยจะคิดว่าความลับนั้นก็คือสมาชิกคนที่ 5 ของบ้าน ที่ใช้ชีวิตอยู่ในห้องของเขามานานถึง 11 ปีโดยที่คนอื่น ๆ ในบ้านไม่เคยรู้
เรื่องราวสุดทึ่งถูกเปิดเผยผ่านรายงานของเว็บไซต์ The Hindu เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2564 จุดเริ่มต้นเกิดจากการที่ ราห์มัน ได้พบรักกับ สาจิตา หญิงสาวที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน อย่างไรก็ตามเขากลัวว่าทางครอบครัวจะไม่ยอมรับสะใภ้คนนี้ ดังนั้นทั้งคู่จึงตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างลับ ๆ โดยที่สาจิตายอมเป็นฝ่ายละทิ้งอิสรภาพของเธอ เพื่อให้รักนี้ยังเดินหน้าต่อไปได้
เรื่องราวสุดทึ่งถูกเปิดเผยผ่านรายงานของเว็บไซต์ The Hindu เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2564 จุดเริ่มต้นเกิดจากการที่ ราห์มัน ได้พบรักกับ สาจิตา หญิงสาวที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน อย่างไรก็ตามเขากลัวว่าทางครอบครัวจะไม่ยอมรับสะใภ้คนนี้ ดังนั้นทั้งคู่จึงตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างลับ ๆ โดยที่สาจิตายอมเป็นฝ่ายละทิ้งอิสรภาพของเธอ เพื่อให้รักนี้ยังเดินหน้าต่อไปได้
แอบพาเมียเข้าบ้าน ทำทุกอย่างเพื่อเก็บความลับ
ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2553 ราห์มันแอบพาคนรักของเขามาที่บ้าน ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านออยลัวร์ เขตปาลักกัด รัฐเกรละ และซ่อนเธอไว้ในห้องของเขานับจากนั้นเป็นต้นมา ด้วยความที่บ้านของเขาเองก็ไม่ได้มีขนาดใหญ่นัก แถมยังมีพ่อ แม่ และน้องสาว ใช้ชีวิตอยู่ร่วมหลังคาเดียวกัน จึงไม่แปลกที่ห้องนอนของเขาจะมีความคับแคบ สิ่งอำนวยความสะดวกไม่ครบครัน แต่สาจิตาก็ยังใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนั้นได้ โดยที่ไม่มีใครสงสัย
ตลอดระยะเวลาเหล่านั้น ราห์มันทำทุกทางเพื่อไม่ให้คนในบ้านเข้าไปยุ่งกับห้องของเขา โดยเขาจะล็อกประตูห้องทุกครั้งที่ออกไป คอยนำอาหารกลับมาให้คนรัก บางครั้งถึงกับติดตั้งอุปกรณ์ช็อตไฟฟ้าไว้ที่ลูกบิดประตู เพื่อไล่คนอื่น ๆ ไม่ให้เข้าใกล้ห้องของตัวเอง
แต่ก็ใช่ว่าสาจิตาจะไร้อิสระโดยสิ้นเชิง เพราะราห์มันได้นำเหล็กดัดที่หน้าต่างห้องนอนออก เปลี่ยนหน้าต่างให้กลายเป็นทางออกลับ ๆ ของเธอ เพื่อให้เธอสามารถออกไปยืดเส้น สูดอากาศข้างนอกในยามค่ำคืนได้
สอบสวนคดีคนหาย ตบตาได้แม้แต่ตำรวจ
แน่นอนว่าเพื่อให้เรื่องทั้งหมดเป็นความลับ สาจิตาเลือกที่จะย้ายมาอยู่กับคนรักโดยที่ไม่ได้บอกใคร ครอบครัวของเธอจึงได้แจ้งตำรวจให้ช่วยออกค้นหา นำมาสู่การสอบสวนผู้คนจำนวนมากเพื่อหาเบาะแสการหายตัวไปของเธอ หนึ่งในคนที่ถูกตำรวจเรียกสอบปากคำก็คือราห์มัน แต่เขาก็แกล้งทำเป็นไม่รู้เห็นอะไรทั้งสิ้น
ด้วยความที่ราห์มันยังใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านไม่ได้ไปไหน ทำให้ไม่มีใครสงสัยในตัวเขา ชีวิตลับ ๆ ของเขากับสาจิตาดำเนินต่อเนื่องมานานถึง 11 ปี กระทั่งไม่นานมานี้ความลับจึงถูกเปิดโปง เมื่อทั้งคู่ตัดสินใจย้ายไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังอื่น โดยไม่ได้บอกใคร
เปิดเผยความจริง บทสรุปของรักนี้
ในเดือนมีนาคม 2564 พ่อแม่ของราห์มันได้ขอให้ตำรวจช่วยตามหาลูกชายที่หายไป เจ้าหน้าที่ใช้เวลาอยู่นานหลายเดือนกระทั่งวันที่ 9 มิถุนายน จึงพบตัวชายคนนี้อยู่ในบ้านเช่าหลังหนึ่ง ในหมู่บ้านที่อยู่ข้างเคียง
ราห์มันยอมรับกับตำรวจว่า เขากับคนรักย้ายออกมาใช้ชีวิตในบ้านเช่าหลังนี้ตั้งแต่ 3 เดือนก่อนแล้ว พร้อมเล่าถึงเรื่องราวความรักที่ต้องซ่อนเร้นมานาน ในตอนแรกทางตำรวจก็ไม่อยากจะเชื่อถึงเรื่องราวอันซับซ้อนของพวกเขา แต่หลังจากเข้าตรวจสอบร่องรอยต่าง ๆ ที่ห้องนอนของราห์มันในบ้านเดิม ก็ทำให้ตำรวจเชื่อจนได้
ทั้งนี้ ในที่สุดทางตำรวจก็นำตัวคู่รักดังกล่าวไปทำเรื่องที่ศาล ซึ่งศาลก็ใช้อำนาจอนุญาตให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันได้ ทำให้เรื่องราวความรักของทั้งคู่จบอย่างแฮปปี้ โดยที่ราห์มันกับสาจิตาสามารถใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในบ้านเช่าได้อย่างมีอิสระเสรี ไม่ต้องหลบซ่อนอีกต่อไป
