ปริศนา 2 สาวหายตัว หลังมุ่งหน้าไป รร. ผีสิง ผ่านไป 24 ปี เพิ่งรู้ชะตากรรม ทริปสุดท้าย

            นับเป็นหนึ่งในข่าวที่ตกเป็นที่สนใจของคนทั้งประเทศ สำหรับการหายตัวปริศนาของ 2 นักเรียนสาวชาวญี่ปุ่น หลังจากที่พวกเธอออกเดินทางจากบ้านเกิดเพื่อมุ่งหน้าไปพิสูจน์ตำนานยังโรงแรมผีสิงที่ถูกทิ้งร้าง ก่อนจะหายตัวไปอย่างไม่มีวันกลับ แถมยังไม่มีเบาะแสใด ๆ ให้ค้นหา จนกลายเป็นคดีที่ยังปิดไม่ลงแม้เวลาจะผ่านไปหลายสิบปี นำมาสู่การคาดเดาและกระแสข่าวลือสารพัด

            เรื่องราวดังกล่าวถูกนำมาบอกเล่าอีกครั้ง ผ่านทางเว็บไซต์ Lad Bible เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2564 โดย 2 สาวเพื่อนรักดังกล่าวมีชื่อว่า เมกุมิ ยาชิกิ และ นารุมิ ทากุมิ ทั้งคู่อายุ 19 ปีในตอนที่หายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อปี 2539  

เพื่อนรัก 2 สาว หายตัวลึกลับ

            ย้อนกลับไปเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 5 พฤษภาคม 2539 เด็กสาวทั้งคู่พากันขับรถเดินทางออกจากเมืองฮิมิ มุ่งหน้าไปยังเมืองอุโอซุ โดยบอกทางบ้านว่าจะเดินทางไปยังโรงแรมออนเซ็นที่ถูกทิ้งร้าง และเป็นที่ร่ำลือในเรื่องความหลอน และพวกเธอยังส่งข้อความผ่านเพจเจอร์ไปหาคนรู้จักอีกราย บอกว่า "เรากำลังจะไปเมืองอุโอซุ"

พยานโผล่ 3 ราย ความจริงเริ่มปรากฏ

            เวลาผ่านไปเนิ่นนาน กระทั่งช่วงปลายปี 2557 ในที่สุดตำรวจก็พบตัวพยานบุคคล 3 ราย โดยหนึ่งในนั้นยอมรับว่าเห็นเด็กรถที่เด็กสาวทั้ง 2 คนนั่งอยู่ ไหลออกจากลานจอดรถและตกลงไปในทะเล ใกล้ ๆ สวนไคโอมารุ ตอนประมาณเที่ยงคืนของวันหยุดยาวในปี 2539

            ขณะที่พยานอีกคนบอกว่า ขณะที่กลุ่มของพวกตนเข้าไปใกล้รถของเด็กสาว ก็พบว่ารถได้ถอยหลังและร่วงตกทะเลไป

            ข้อมูลที่ได้กลายมาเป็นเบาะแสสำคัญ นำไปสู่ความพยายามออกค้นหาร่องรอยของเด็กสาวทั้งคู่ โดยมีการนำเครื่องตรวจจับโลหะมาใช้ร่วมกับทีมนักประดาน้ำ อย่างไรก็ตาม สืบเนื่องจากกระบวนการสอบสวนที่มีความล่าช้า ทำให้กว่าจะพบรถของเด็กสาวทั้ง 2 คน เวลาก็ผ่านไปเนิ่นนานถึง 6 ปี

พบศพ 2 สาว

            โตเกียวรีพอร์เตอร์ รายงานว่า ต้นเดือนมีนาคม 2563 ในที่สุดทางตำรวจก็สามารถใช้เครนยกรถคันดังกล่าวขึ้นมาจากทะเลได้ บริเวณท่าเรือฟุชิกิ ที่อยู่ห่างจากเมืองฮิมิไปราว 13 กิโลเมตร ภายในรถยังพบโครงกระดูกของผู้เสียชีวิต 2 ราย ที่คาดว่าน่าจะเป็นเด็กสาว 2 คนที่หายตัวไปนั้นเอง

แม้พบศพ แต่ยังไร้คำตอบ เกิดอะไรขึ้นกับทั้งคู่

            อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการพบศพแล้ว แต่ปริศนาการหายตัวของพวกเธอก็ยังคงเป็นเรื่องราวลึกลับที่ทางตำรวจไม่สามารถหาคำตอบได้ แม้จะมีการสอบปากคำบุคคลมากมาย แต่ยังไม่มีใครรู้ว่าเด็กสาวเพื่อนรักจบการเดินทางของพวกเขา ด้วยการตกลงไปในทะเลได้อย่างไร

            ขณะที่สังคมยังตั้งข้อสงสัยถึงพยานทั้ง 3 คน ที่เพิ่งออกมาเผยข้อมูลหลังคดีผ่านไปนานหลายปี แต่พวกเขาก็ให้เหตุผลเพียงว่า...เป็นเพราะความหวาดกลัว

            ทั้งนี้ ชูกัน โจเซย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดโทยามะ กล่าวว่า ดคีดังกล่าวมีการเรียกสอบพยานหลายต่อหลายครั้ง อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจรู้แค่รถน่าจะตกลงไปในทะเลด้วยเหตุบางประเทศ ซึ่งในตอนนั้นไม่มีใครสงสัยว่าจะเป็นเหตุฆากรรมสักนิด จนถึงตอนนี้คดีดังกล่าวก็จัดอยู่ในประเภทคดีอุบัติเหตุ ไม่ใช่อาชญากรรมต่ออย่างไร  

            ด้านแม่ของ ยาชิกิ กล่าวด้วยความเศร้าใจในตอนที่ทางตำรวจสามารถยกรถขึ้นมาจากน้ำได้ ระบุว่า "มันนานมากแล้ว ที่ฉันยังหวังว่าลูกสาวจะสบายดีและใช้ชีวิตอยู่ที่ไหนสักที ฉันงุนงงตอนได้ทราบข่าวการพบรถ และรู้สึกเศร้าใจที่ลูกสาวถูกทิ้งให้อยู่ในสถานการณ์หนาวเหน็วเช่นนั้นมาเป็นเวลานานเหลือเกิน"
 
            ขณะที่พ่อของ ยาชิกิ ยังคงไม่ยอมรับการสืบสวนคดีของตำรวจ โดยชี้ว่า เขาไม่ไว้ใจพยานทั้ง 3 คน เพราะเขาไม่รู้ว่าคนพวกนั้นเป็นใคร แถมเมื่อเขาไปถามข้อมูลจากทางตำรวจก็ไม่มีใครบอกอะไรเขาเลย

            จนตอนนี้เวลาผ่านมานาน 25 ปีแล้วนับจากตอนที่เด็กสาวหายตัวไป แต่ก็ยังคงไม่มีคำตอบที่แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเธอกันแน่ ซึ่งทางครอบครัวยังหวังว่ากระบวนการสืบสวนจะสามารถหาคำถตามให้กับเรื่องนี้ได้

ขอบคุณข้อมูลจาก Lad Bible, Tokyo Reporter