สรุปคำพิพากษาศาลฎีกา คดีลุงวิศวะ จากคุก 10 ปีเหลือรอลงอาญา ศาลให้เหตุผลว่าอะไร ทำไมถึงรอดพ้นการถูกจำคุกได้ เพราะฝ่ายผู้ตายนั้นเริ่มก่อน ส่วนฝั่งลุงวิศวะแม้ทำเกินกว่าเหตุ แต่การจำคุกไม่เป็นประโยชน์
จากกรณีที่เกิดคดีนายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ หรือ ลุงวิศวะ ยิงนายนวพล ผึ่งผาย
หรือน้องปอนด์วัย 17 ปี บริเวณใกล้ตลาดอ่างศิลา จ.ชลบุรี ในปี 2560
โดยเบื้องต้นศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 10 ปี
ส่วนศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น อย่างไรก็ตาม
ภายหลังนายสุเทพถูกออกหมายจับ เนื่องจากหนีศาลฎีกา ไม่มาฟังคำตัดสิน
ถ้าหากคุมตัวได้ก็จะพามาฟังคำตัดสิน ถ้าคุมตัวไม่ได้
ก็จะอ่านคำพิพากษาลับหลัง วันที่ 17 มิถุนายน 2564
อ่านข่าว : ลุงวิศวะ โดนออกหมายจับ หลังหนีศาลฎีกา ไม่มาฟังตัดสิน - ยึดเงินประกันเกือบล้าน
ล่าสุด วันที่ 17 มิถุนายน 2564 ศาลจังหวัดชลบุรี มีการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ซึ่งศาลได้แก้โทษเป็นจำคุก 5 ปี แต่ลดโทษไป 1 ใน 3 คิดเป็นระยะเวลาคือ เหลือจำคุก 3 ปี 4 เดือน และปรับ 2,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 3 ปี คุมความประพฤติ 2 ปี รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือน และต้องเข้าไปรับการฝึกอบรมที่เกี่ยวกับการระงับควบคุมอารมณ์ที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนน และทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ มีกำหนด 30 ชั่วโมง
ส่วนเหตุผลที่มีการแก้โทษ ศาลให้เหตุผลว่า จุดเริ่มต้นของคดีคือ การจอดรถซ้อน 2 คัน ฝั่งภรรยาลุงวิศวะ ได้แจ้งฝั่งผู้ตายแล้ว แต่ฝั่งผู้ตายไม่ยอมรีบขับรถออกให้ ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องที่คนทั่วไปทำกัน ดังนั้นฝั่งลุงวิศวะย่อมโกรธเป็นธรรมดา การด่าทอก็มีเพียงคำเดียวที่พวกของผู้ตายได้ยิน ก่อนจะพากันขึ้นรถ ส่วนคำอื่น ๆ ลุงวิศวะด่าทอในรถตัวเอง จึงไม่เป็นเหตุเพียงพอที่ฝั่งผู้ตายจะต้องมาเอาเรื่อง
ขณะเดียวกัน เมื่อลุงวิศวะขับรถออกมาได้ ก็ไม่มีพฤติกรรมยั่วยุ รวมถึงมีความหวาดกลัว ระงับอารมณ์ และพยายามไปแจ้งตำรวจ แต่เมื่อกลุ่มผู้ตายมาล้อมรถ และยื่นศีรษะเข้ามาในรถ บอกว่า "มึงจะรบเปล่า" หลายครั้ง ทำให้มีโอกาสที่ลุงวิศวะจะถูกทำร้ายในอนาคต รวมถึงมีการถูกต่อยจากด้านหลัง ย่อมถือว่ามีอันตรายใกล้ถึงแก่ชีวิตแล้ว
ดังนั้น การยิงปืนออกไป เป็นวิธีที่ทำให้รอดพ้นจากภัยนี้ ถือว่าเป็นการป้องกันตัวเองให้พ้นจากการประทุษร้าย ซึ่งลุงวิศวะสามารถนำปืนออกมาขู่ว่าจะยิงหรือยิงออกไปโดยไม่ต้องโดนคนหรือโดนอวัยวะสำคัญย่อมได้ แต่ลุงวิศวะกลับใช้อาวุธยิงไปที่หน้าอกซ้าย ถือเป็นการกระทำความผิดฆ่าผู้อื่นโดยป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
สุดท้าย คดีที่เกิดขึ้นมาจากฝ่ายผู้ตายจอดรถขวางทางทำให้เกิดการบานปลาย ถือเป็นความผิดผู้ตายด้วยส่วนหนึ่ง ส่วนการพิพากษาให้รอลงอาญา น่าจะเป็นประโยชน์แก่จำเลยและสังคมมากกว่าการจำคุก อีกทั้งจำเลยไม่เคยจำคุกมาก่อน จึงมีการแก้คำพิพากษาในที่สุด
1. ฆ่าผู้อื่นโดยป้องกันเกินสมควรกว่าเหตุ 3 ปี 4 เดือน
2. พกพาอาวุธปืน ปรับ 2,000 บาท
ด้าน เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นางมณีพร แม่ของน้องปอนด์ เปิดเผยว่า ยอมรับคำตัดสินของศาล เพราะเหนื่อยมาก สู้มาตั้ง 5 ปี และอโหสิกรรมให้ฝั่งนายสุเทพไปนานแล้ว
