แม่ค้าขนมจีบร้องทนายรณณรงค์ โดนปลอมใบมรณบัตรยื่นขอซิม เอาไปถอนเงินผ่านแอปฯ ไหลออกจากบัญชีครั้งละ 2 แสน 19 ครั้ง สูญเงินไปเป็นล้าน วอนค่ายมือถือ - ธนาคารรับผิดชอบ ใช้อยู่ดี ๆ แต่โดนขโมยซิมไปทำธุรกรรม
วันที่ 24 มิถุนายน 2564 เดลินิวส์ รายงานว่า น.ส.จิณห์นิภาข์ ดีเฟื่องฟู อายุ 46 ปี
อาชีพแม่ค้าขายขนมจีบ-ซาลาเปา ที่ จ.ขอนแก่น
ได้เดินทางไปยังสำนักงานทนายคู่ใจ ถนนแจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด
จ.นนทบุรี เพื่อร้องเรียนกับทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์
ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม
หลังธนาคารและค่ายมือถือยี่ห้อหนึ่ง ทำเงินในบัญชีหายนับล้าน
แต่กลับไม่แสดงความรับผิดชอบ
อยู่ดี ๆ สัญญาณมือถือหาย สืบมาสืบไป เบอร์ที่ใช้มา 5 ปี ไม่ใช่เบอร์ของตัวเองอีกต่อไป
น.ส.จิณห์นิภาข์ เผยว่า เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2564 เวลาประมาณ 19.00 น. สัญญาณโทรศัพท์ขาดหายและใช้ไม่ได้ ต่อมาเวลา 23.00 น. เธอก็ได้สลับซิมการ์ดและใส่ไปใหม่ แต่ก็ยังใช้ไม่ได้ จึงโทร. เช็กกับค่ายมือถือ เมื่อตรวจสอบก็พบว่ามีคนนำเบอร์ของเธอไปใช้ทั้งที่เธอเป็นเจ้าของเบอร์ โดยใช้เบอร์นี้มา 5 ปีแล้ว และจ่ายบิลมาตลอด
เธอมารู้ภายหลังว่าเบอร์นี้ที่ใช้กลายเป็นชื่อคนอื่น ทำให้เธอไม่มีสิทธิ์ใช้เบอร์นี้อีกแล้ว เมื่อสอบถามไปทางค่ายมือถือก็ไม่มีการตอบรับและเงียบหาย จากนั้นเธอก็ไปแจ้งความ
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
พบคนร้ายปลอมใบมรณบัตร เอาไปทำซิมการ์ดใหม่ แล้วโหลดแอปฯ ธนาคาร ก่อนโอนออก 1 ล้าน
อย่างไรก็ตาม เบอร์มือถือของเธอได้ผูกเอาไว้กับบัญชี เมื่อโทร. เช็กยอดเงินในธนาคารกสิกรไทยก็ปกติ แต่เงินในบัญชีธนาคารแห่งหนึ่งที่เป็นเงินฝากประจำ มียอดเงินโอนออกไป 1 ล้านบาท เป็นการทยอยออกไปเรื่อย ๆ ครั้งละ 200,000 บาท 19 ครั้ง ภายใน 1 วัน เธอจึงติดต่อคอลเซ็นเตอร์ และทราบเรื่องราวทั้งหมด
ทั้งนี้ มีคนร้ายติดต่อเข้าไปขอทำซิมการ์ดใหม่และแจ้งว่าเธอเสียชีวิตแล้ว โดยปลอมใบมรณบัตรไปแอบอ้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่าคนร้ายอาจจะถอนเงินผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็บอกให้เธอรอเพื่อตรวจสอบใหม่อีกครั้ง และแนะนำให้เธอ 3 ทางเลือก ถ้าพนักงานมีส่วนเกี่ยวข้องจะชดใช้เต็ม ถ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจะไม่ชดใช้ และให้จ่ายครึ่งเดียวและร่วมกันไปดำเนินการกับทางค่ายมือถือ ซึ่งซิมของจริงยังอยู่ที่เธอ
จับคนร้ายได้แล้ว แต่ค่ายมือถือ-ธนาคารเงียบฉี่ ไม่มีสัญญาณตอบรับ
ขณะนี้จับตัวคนร้ายได้แล้ว 4 คน ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนบัญชีของเธอ แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีความคืบหน้าและไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบเรื่องเงิน ทั้งทางธนาคารและค่ายโทรศัพท์มือถือ ตอนนี้เธอเดือดร้อนมาก เพราะก่อนถูกขโมยเงินจำนวนนี้ไป ที่บ้านเกิดเหตุไฟไหม้ จำเป็นต้องใช้เงิน ทำให้เดือดร้อนมาก ๆ อยากจะได้เงินคืน แต่ไม่มีใครออกมารับผิดชอบสักคน
ด้าน ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า จากนี้จะนำหลักฐานไปยื่นที่ กสทช. ให้ตรวจสอบกับค่ายมือถือว่าทำไมถึงถูกปลอมใบออกมาได้ เป็นเรื่องอันตรายมาก และการปลอมแปลงทำให้เกิดความเสียหาย อยากให้ทางค่ายมือถือออกมารับผิดชอบ ส่วนเรื่องธนาคาร ผู้เสียหายถูกโจรกรรมเงินไปทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวไม่ได้เบิกถอน ทางธนาคารจะต้องคืนเงินมา และจะต้องไปไล่บี้กับคนร้ายอีกต่อหนึ่ง เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เป็นความผิดของผู้บริโภคเลย
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์