เจ้าของคาเฟ่ดัง โลเคชั่นละคร ไล่เรียงจากขายดีจนโดนไล่ที่-มีหนี้ 3 ล้าน พูดไปน้ำตาไหลไป

           เจ้าของคาเฟ่ดังร่ำไห้ เปิดใจหัวอกคนทำร้านอาหาร จากเคยได้วันละ 20,000 เหลือแค่หลักร้อย สู้ทุกรอบคิดว่าจะฟื้นแต่ทรุดหนัก ปลดลูกน้องก็แล้ว ลดเงินเดือนก็แล้วยังไม่ไหว จากหนี้ 200,000 กลายเป็น 3 ล้าน ค้างเงินเดือนพนักงาน ตัดสินใจปิดร้าน

           จากสถานการณ์โควิด 19 รอบ 3 ที่ยังคงย่ำแย่อย่างต่อเนื่อง นำมาซึ่งมาตรการเข้มที่ถูกนำมาใช้จนกระทบกับชีวิตการทำมาหากินของผู้คนจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหาร จัดว่าเป็นกลุุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักอย่างต่อเนื่อง

           เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 2 กรกฎาคม 2564 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานเรื่องราวของ คุณช่อลัดดา เจ้าของร้าน มายคาเฟ่ เดอะ ไลบรารี่ (My Cafe the Library) ร้านชื่อดังย่านเกษตร-นวมินทร์ ที่รวบรวมคาเฟ่ ร้านอาหาร บาร์ และห้องสมุดขนาดย่อมไว้ด้วยกัน ร้านนี้เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำละครของช่อง 3 หลายเรื่อง แต่ล่าสุดเธอบอกว่า ตอนนี้จำใจต้องปิดร้านเพราะไปต่อไม่ไหว

           คุณช่อลัดดา เล่าทั้งน้ำตาว่า ร้านนี้เปิดมา 12 ปี ตนเริ่มจากการเป็นผู้จัดการร้าน ต่อมากลายมาเป็นหุ้นส่วนร้าน และเพิ่งซื้อร้านมาทำต่อเองเมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา ก่อนโควิดระบาดทางร้านเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ในอดีตลูกค้าเยอะมาก ตนนั้นรักร้านนี้มาก มีความสุขที่เห็นลูกค้ามานั่งอ่านหนังสือ รู้สึกอบอุ่นเป็นเหมือนครอบครัว ทำธุรกิจแบบสร้างสรรค์สังคม เคยจัดโปรโมชั่นให้ลูกค้านำหนังสือมาบริจาคแลกกับคูปองสั่งเครื่องดื่มฟรี ซึ่งทางร้านได้นำหนังสือบางส่วนบริจาคให้มูลนิธิต่าง ๆ อยู่หลายครั้ง หลังจากผ่านโควิด 19 รอบแรกคิดว่าธุรกิจนี้ยังไปได้ถึงแม้กำไรน้อย แต่ก็ยังเลี้ยงลูกน้อง 15-16 คนของร้านได้

           ต่อมา พอโควิดระบาดรอบ 2 แม้ว่าต้องเสียพนักงานบางส่วนไปเพราะจ่ายค่าจ้างไม่ไหว ตนบอกลูกน้องว่าถ้าสถานการณ์ดีขึ้นจะรับกลับมาทั้งหมด ซึ่งเหลือลูกน้องเพียงไม่กี่คนที่แม้จะได้เงินเดือนลดลงแต่เต็มใจอยู่ต่อ ขณะนั้นก็ยังสู้ คิดว่าเดี๋ยวก็ควบคุมได้เหมือนรอบแรก พยายามคิดบวกตลอด จึงหาเงินมาทำร้านต่อ โดยการยืมเงินเพื่อนบ้าง เอารถเข้าไฟแนนซ์บ้าง ตอนนั้นติดหนี้ประมาณ 2 แสนบาท

           แต่พอมาเจอโควิดรอบ 3 ยอมรับว่าถึงขั้นเข่าอ่อน จากช่วงก่อนโควิดได้รายได้ประมาณ 20,000 ต่อวัน ตอนนี้เหลือวันละไม่กี่ร้อยบาท หลายคนถามว่าทำไมไม่หยุดทำร้าน แต่มันหยุดไม่ได้ เพราะกู้มาเยอะมาก และคิดว่ายังมีความหวังอยู่ แต่ขณะเดียวกันค่าเช่าที่ค้างอยู่ก็พอกพูนมาเรื่อย ๆ เพราะตนขอผ่อนจ่ายกับทางศูนย์การค้า ตอนนี้ต้องจำใจต้องปิดร้านเพราะไม่มีลูกค้าเลย แถมโดนทวงค่าเช่า และขาดเงินหมุนเวียน ต้องค้างเงินเดือนพนักงาน มันเจ็บปวดมาก ไม่รู้จะทำยังไง ตอนนี้มีหนี้สินกว่า 3 ล้านบาท จึงต้องประกาศเซ้งร้าน เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเช่า ทางเจ้าของที่ก็ให้ย้ายออกหากจ่ายค่าเช่าไม่ไหว

           คุณช่อลัดดา เผยว่า ตอนนี้เครียดมาก ร้องไห้ทุกวันแทบไม่ได้นอน พอตื่นขึ้นมาก็ผวาทุกครั้ง เป็นแบบนี้ตั้งแต่มีประกาศออกมาตอนตี 1 วันที่ 27 มิถุนายน ว่า ไม่ให้นั่งทานอาหารในร้าน วันนั้นตนตื่นขึ้นมาตอนตี 2 เห็นข่าวนึกว่าฝันไป ถึงขั้นหยิกตัวเอง แต่พอรู้ว่ามันคือความจริง หลังจากนั้นรู้สึกมืดแปดด้าน ไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิต ที่ผ่านมาเป็นคนสู้ชีวิต แต่ครั้งนี้เจอหนักหนาที่สุด เข้าใจคนที่คิดสั้นเพียงเสี้ยววินาที เพราะมันเป็นปัญหาที่ไม่มีใครมาช่วยแก้ได้ ตนไม่อยากโทษใคร พยายามตั้งสติมาหลายร้อยครั้งแล้วก็ยังหาทางออกไม่ได้ ไม่เข้าใจว่าประเทศไทยใช้คำว่า สู้ ๆ เปลืองมาก เมื่อไรมันจะหมดคำนี้ไปเสียที

           ทั้งนี้ อยากวอนให้นายทุนช่วยเซ้งร้าน แล้วเปิดให้บริการต่อตอนโควิดซาลง เพราะตนรักร้านนี้มาก แต่คงไม่มีทุนทำต่อ จึงไม่อยากให้ร้านดี ๆ แบบนี้หายไป

ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้