เปิดใจแม่กุข่าวลูก ม.4 ขอผ่อนแท็บแล็ต ผูกคอดับ ก่อนโป๊ะแตกไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง เผยอย่าตามหา ตอนนี้กำลังหนีหัวซุกหัวซุน หลบเจ้าหนี้นอกระบบ 14 เจ้า หลังติดเงิน 3 ล้านกว่า
![เปิดใจแม่กุข่าวลูก ม.4 ก่อนโป๊ะแตก]( "เปิดใจแม่กุข่าวลูก ม.4 ก่อนโป๊ะแตก")
จากกรณีที่โลกโซเชียลได้มีการเปิดเผยเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่ต้องเรียนออนไลน์ ซึ่งผู้เป็นแม่ได้ทักแชตหาครูทราย คุณครูสอนทำเบเกอรี่ เพื่อช่วยลูกชาย ม.4 หาซื้อแท็บเล็ต โดยบอกให้ครูช่วยออกเงินก่อนแล้วขอผ่อนคืนเดือนละ 1,300 บาท ก่อนจะติดต่อมาอีกครั้งอ้างว่าลูกผูกคอตายไปแล้ว อย่างไรก็ตาม มีการเปิดเผยภายหลังว่าเป็นเรื่องโอละพ่อ
วันที่ 4 กรกฎาคม 2564 เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ รายงานว่า แม่ของเด็กได้สารภาพกับครูกบ คนสนิทของครูทราย ระบุว่า เรื่องที่โกหกนั้นไม่ได้มีเจตนา เรื่องเกิดจากมือถือที่ลูกชายใช้เรียนออนไลน์ใช้งานมานานไม่ค่อยดีแล้ว ลูกก็ไม่ได้ร้องขอให้รีบซื้อ แต่เคยมาขอไว้นานแล้ว ก็เลยคิดว่าทำอย่างไรดีจะซื้อให้ลูก พอเห็นครูทรายขายเครื่องสำอางแบบให้ผ่อน ก็เลยอยากผ่อนกับครูทราย จึงไปขอร้องและทำสัญญา โดยครูทรายก็ตกลงช่วยเหลือ จึงโอนเงินผ่อนงวดแรก 1,300 บาท พอตกลงซื้อเสร็จ ลูกบอกไม่เอาแท็บเล็ตจะเอาไอแพด เลยไม่รู้จะบอกยกเลิกยังไง จึงโกหกว่าลูกผูกคอตาย
แต่ที่จริงลูกไม่ได้ทำ ก็ไม่รู้จะบอกอย่างไร
ตอนที่ไปขอให้ผ่อนก็ไปขอร้องเขา พอตอนนี้จะไม่เอาของก็ไม่รู้จะบอกยังไง
ยอมรับว่ารู้สึกผิดอยู่ในใจและไม่ขอรับเงินช่วยเหลือ
แค่ความเป็นแม่อยากจะหาให้ลูก
แต่ลูกไม่เอาก็ไม่รู้จะบอกครูทรายว่าอย่างไร
ขอโทษที่ล้อเล่นกับความรู้สึก ถ้านักข่าวไม่โทร. มาหาก็จะไม่บอกความจริง
คุณแม่บอกอีกว่า ระหว่างนั้นก็นั่งคิดว่าจะทำอย่างไรต่อ จึงทักแชตไปหาครูทรายอีกครั้ง ครูทรายถามว่าช่วยน้องได้มั้ย คิดว่ากุเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วจึงตามน้ำ บอกกลับไปว่าช่วยลูกไม่ได้ พอครูทรายขอเลขบัญชี ก็พยายามบ่ายเบี่ยงเพื่อไม่ขอรับเงินบริจาค แต่ขอให้ครูทรายโอนเงินมัดจำ 1,300 บาทคืนเท่านั้น ช่วงเช้าวานนี้ (3 กรกฎาคม 2564) ก็แชตหาครูทรายอีกครั้ง ครูทรายบอกจะมีคนช่วยเหลือเยอะมาก แต่ก็ปฏิเสธไม่ขอรับอะไรทั้งสิ้น เพราะรู้แก่ใจว่าไม่ใช่เรื่องจริง
พอมีครูอีกคนโทร. มาถาม ก็ยังไม่ยอมรับความจริง เพราะถลำกุเรื่องมาแล้วไม่รู้จะทำอย่างไรดี เลยยืนยันกับครูคนนี้ว่าลูกชายผูกคอตาย แต่ระหว่างที่คุยกับครูท่านนี้อยู่ ก็เห็นข่าวตัวเองในรายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ จึงตกใจว่าทำไมกลายเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ เลยอยากขอโทษ เพราะสิ่งที่ทำตั้งใจทำให้ลูกจริง ๆ แต่แทนที่จะคุยกับครูทรายตรง ๆ ว่าลูกไม่เอาแท็บเล็ตแล้ว กลับถลำลึกโกหกว่าลูกผูกคอตาย ทำให้ทุกคนที่ฟังข่าวสุขภาพจิตเสีย ขอโทษที่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี
ส่วนข้อความแชตที่ลูกชายคุยกับคุณแม่ว่าเหมือนจะเป็นโรคซึมเศร้านั้น มีการพูดคุยกันจริง หากครูทรายไปแจ้งความเอาเรื่องก็พร้อมยอมรับในสิ่งที่ทำ ติดคุกก็ต้องยอม เพราะไม่อยากเปิดเผยชื่อ ตอนนี้หนีหัวซุกหัวซุน เนื่องจากเป็นหนี้นอกระบบ 14 เจ้า รวมหนี้ 3 ล้านกว่าบาท ตอนนี้เช่าบ้านอยู่กับสามีใหม่ อยู่ในป่าในเขาที่ จ.นครราชสีมา ส่วนลูกชายอยู่กับแม่ ไม่ได้กลับบ้านนานกว่า 2 ปีแล้ว ที่กุเรื่องว่าลูกชายผูกคอตายนั้นทางครอบครัวและสามีไม่มีใครรู้ แต่ตอนนี้น่าจะรู้แล้วเพราะมีนักข่าวไปที่บ้าน ถ้าเจ้าหนี้นอกระบบตามตัวได้คงต้องตายแน่ ๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์
จากกรณีที่โลกโซเชียลได้มีการเปิดเผยเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่ต้องเรียนออนไลน์ ซึ่งผู้เป็นแม่ได้ทักแชตหาครูทราย คุณครูสอนทำเบเกอรี่ เพื่อช่วยลูกชาย ม.4 หาซื้อแท็บเล็ต โดยบอกให้ครูช่วยออกเงินก่อนแล้วขอผ่อนคืนเดือนละ 1,300 บาท ก่อนจะติดต่อมาอีกครั้งอ้างว่าลูกผูกคอตายไปแล้ว อย่างไรก็ตาม มีการเปิดเผยภายหลังว่าเป็นเรื่องโอละพ่อ
วันที่ 4 กรกฎาคม 2564 เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ รายงานว่า แม่ของเด็กได้สารภาพกับครูกบ คนสนิทของครูทราย ระบุว่า เรื่องที่โกหกนั้นไม่ได้มีเจตนา เรื่องเกิดจากมือถือที่ลูกชายใช้เรียนออนไลน์ใช้งานมานานไม่ค่อยดีแล้ว ลูกก็ไม่ได้ร้องขอให้รีบซื้อ แต่เคยมาขอไว้นานแล้ว ก็เลยคิดว่าทำอย่างไรดีจะซื้อให้ลูก พอเห็นครูทรายขายเครื่องสำอางแบบให้ผ่อน ก็เลยอยากผ่อนกับครูทราย จึงไปขอร้องและทำสัญญา โดยครูทรายก็ตกลงช่วยเหลือ จึงโอนเงินผ่อนงวดแรก 1,300 บาท พอตกลงซื้อเสร็จ ลูกบอกไม่เอาแท็บเล็ตจะเอาไอแพด เลยไม่รู้จะบอกยกเลิกยังไง จึงโกหกว่าลูกผูกคอตาย
คุณแม่บอกอีกว่า ระหว่างนั้นก็นั่งคิดว่าจะทำอย่างไรต่อ จึงทักแชตไปหาครูทรายอีกครั้ง ครูทรายถามว่าช่วยน้องได้มั้ย คิดว่ากุเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วจึงตามน้ำ บอกกลับไปว่าช่วยลูกไม่ได้ พอครูทรายขอเลขบัญชี ก็พยายามบ่ายเบี่ยงเพื่อไม่ขอรับเงินบริจาค แต่ขอให้ครูทรายโอนเงินมัดจำ 1,300 บาทคืนเท่านั้น ช่วงเช้าวานนี้ (3 กรกฎาคม 2564) ก็แชตหาครูทรายอีกครั้ง ครูทรายบอกจะมีคนช่วยเหลือเยอะมาก แต่ก็ปฏิเสธไม่ขอรับอะไรทั้งสิ้น เพราะรู้แก่ใจว่าไม่ใช่เรื่องจริง
พอมีครูอีกคนโทร. มาถาม ก็ยังไม่ยอมรับความจริง เพราะถลำกุเรื่องมาแล้วไม่รู้จะทำอย่างไรดี เลยยืนยันกับครูคนนี้ว่าลูกชายผูกคอตาย แต่ระหว่างที่คุยกับครูท่านนี้อยู่ ก็เห็นข่าวตัวเองในรายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ จึงตกใจว่าทำไมกลายเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ เลยอยากขอโทษ เพราะสิ่งที่ทำตั้งใจทำให้ลูกจริง ๆ แต่แทนที่จะคุยกับครูทรายตรง ๆ ว่าลูกไม่เอาแท็บเล็ตแล้ว กลับถลำลึกโกหกว่าลูกผูกคอตาย ทำให้ทุกคนที่ฟังข่าวสุขภาพจิตเสีย ขอโทษที่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี
ส่วนข้อความแชตที่ลูกชายคุยกับคุณแม่ว่าเหมือนจะเป็นโรคซึมเศร้านั้น มีการพูดคุยกันจริง หากครูทรายไปแจ้งความเอาเรื่องก็พร้อมยอมรับในสิ่งที่ทำ ติดคุกก็ต้องยอม เพราะไม่อยากเปิดเผยชื่อ ตอนนี้หนีหัวซุกหัวซุน เนื่องจากเป็นหนี้นอกระบบ 14 เจ้า รวมหนี้ 3 ล้านกว่าบาท ตอนนี้เช่าบ้านอยู่กับสามีใหม่ อยู่ในป่าในเขาที่ จ.นครราชสีมา ส่วนลูกชายอยู่กับแม่ ไม่ได้กลับบ้านนานกว่า 2 ปีแล้ว ที่กุเรื่องว่าลูกชายผูกคอตายนั้นทางครอบครัวและสามีไม่มีใครรู้ แต่ตอนนี้น่าจะรู้แล้วเพราะมีนักข่าวไปที่บ้าน ถ้าเจ้าหนี้นอกระบบตามตัวได้คงต้องตายแน่ ๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์
