วัดดังเมืองแปดริ้วเผยภาพพิธีรมควัน ชี้เป็นพิธีโบราณทำเพื่อปราบโควิด 19 !!

          แชร์สนั่นเผยภาพวัดดังเมืองแปดริ้ว ทำพิธีรมควัน ชี้เป็นพิธีโบราณทำเพื่อปราบโควิด 19 คนเมนต์สนั่น ควันขโมงโฉงเฉง



          ตั้งแต่โรคโควิด 19 แพร่ระบาดในประเทศไทย หลายฝ่ายต่างก็หามาตรการมาป้องกันเพื่อลดการแพร่เชื้อ ซึ่งก็มีบางช่วงสถานการณ์โควิด 19 เริ่มซาลง แต่ตั้งแต่ก่อนกลางปี 2564 นับว่าสถานการณ์เริ่มแย่ลง และยังทรงตัว หลายฝ่ายต่างก็ดำเนินการตามมาตรการป้องกันอย่างเข้มข้น และหลายฝ่ายต่างก็หาที่พึ่งทางอื่นเพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจ และสร้างความหวังว่าโรคระบาดนี้จะหายไป ด้วยต้องการให้บ้านเมืองกลับมาเป็นปกติในเร็ววัน

          เช่นเดียวกับเรื่องนี้ที่ล่าสุด (6 กรกฎาคม 2564) เฟซบุ๊ก หมายจับกับบรรจง ได้เผยแพร่ภาพพิธีรมควันปราบไวรัสแบบโบราณ ของทางวัดวีระโชติธรรมาราม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งทางวัดระบุว่าเป็น "พิธีรมควันปราบโควิด"


          ทั้งนี้ภาพที่ปรากฏนั้นเป็นพระรูปหนึ่งนั่งที่หัวโต๊ะ พร้อมด้วยลูกศิษย์ลูกหานุ่งขาวห่มขาวนั่งล้อมรอบ และมีเจ้าหมาอยู่ด้วยหนึ่งตัว มีเตาอั้งโล่วางอยู่บนโต๊ะกลางห้อง จุดไฟและควันฟุ้งกระจายเต็มห้อง

          อย่างไรก็ตามภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านเพจ เที่ยว วัดวีระโชติธรรมาราม จ.ฉะเชิงเทรา กับศิษย์วัด เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2563 โดยมีการอ้างอิงวิธีปราบโควิดแบบโบราณ จากคำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม 4 หน้า 46-47 โดยระบุถึงวิธีดังกล่าวโดยอ้างอิงจากโรค "เอดส์" ที่เป็นไวรัส มีตัวสีขาว ขนสีขาว ซึ่งขนนี้จะร่วงง่าย เวลาเข้าไปเลือดขนก็จะหลุดแล้วเป็นพิษตลอดตัว ส่วนวิธีป้องกันนั้น จะมียาตัวหนึ่งที่เป็นศัตรูกับโรคเอดส์ นั่นก็คือยาเนื้อ โดยระบุวิธีการทำว่า
         
          "ยาเหนือคือยาตั้งใบยาที่เขาหั่นมายังไม่ได้ม้วนไม่ได้ผสมอะไร มันเป็นนิมิตนะญาติโยม อย่าไปยืนยันกับใครเขานะ ใช้ได้หรือไม่ได้ก็เป็นเรื่องของพระท่านบอก

          เอาอย่างนี้สิ #รมควัน ทำเป็นควันรมใช่ไหม ควันคลุ้ง ๆ แต่ว่ามีอย่างเรามีอะไรใส่ทำให้มันเป็นควันได้ #เอายาใส่ข้างบนนะ แต่อย่าใส่เส้นสองเส้นไม่ได้นะ


ก็เลยถามท่านว่า สมมุติว่าตามโรงพยาบาลห้องเล็ก ๆ ถ้าคนมาก ๆ  ?

          ท่านบอก ไม่ยาก เอาใส่จานเข้ากะลาครอบ ปล่อยออกตามรูกะลาใช้ได้


ก็เลยถามท่านว่า ถ้าคนที่มีเชื้ออยู่แล้ว จะทำลายเชื้อเอดส์ในอากาศได้ไหมนะ ถ้าคนที่มีเชื้ออยู่แล้วเป็นอย่างไร ?

          ท่านบอก การรมบ้านนี่กลิ่นมันไม่หมดง่าย เราไล่ควันไปหมดแล้ว กลิ่นยังอยู่ ถ้าคนเข้าไปกระทบกลิ่นนั้น เข้าสูตรกลิ่นเข้าไป ไอ้กลิ่นนี่มันจะเข้าไปกระทบกับเลือด ติดเลือดไป เลือดจะวิ่งไปทั่วกาย ถ้าเชื้อเอดส์อยู่ที่ไหนมันจะตายทันที


และก็ตอนที่หมอฉีดยาให้ ก็ถามหมอ บอกว่า เออ...ไอ้เอดส์นี่มันเป็นไวรัสใช่ไหม ? บอกว่า เป็นไวรัส ก็ถามว่ายาแก้เด็ดขาดนี่มีไหม ?

          บอกมีแต่ประทังอาการ ตอนนั้นหมอบอกแบบนั้น หมอกำลังจะฉีดยาอยู่ ฉันก็เลยถามพระท่าน บอกว่า ถ้า #ยาเหนือนี่สกัดเป็นน้ำเป็นแบบยาฉีด ให้ใช้ 2 ซีซี ฉีดเข็มแรก จะมีอาการดีขึ้นทันที เข็มที่ 2 จะมีสภาพหาย แต่เข็มที่ 3 จะกวาดล้าง แล้วใครจะสกัดได้ล่ะ เป็นอันว่าโรคเอดส์ก็จบเพียงเท่านี้"


          ด้านคอมเมนต์อื่น ๆ ต่างระบุว่าจริง ๆ แล้ววิธีรมควันเพื่อฆ่าเชื้อโรค มีมาแต่โบราณ แต่เขาไม่ได้ทำกันแบบนี้ จะรมควันบ้านเรือนเพื่อฆ่าเชื้อโรคโดยที่ไม่มีคนอยู่ เช่น สมัยก่อนจะมีการจุดรมควันกำมะถันเพื่อฆ่าเชื้อโรคในบ้านก่อนที่จะมีการทำคลอด แต่การทำลักษณะในภาพนั้นถือว่าอันตรายเพราะคนอยู่ในห้องเยอะควันโขมง แถมไม่ใส่หน้ากากอนามัยก็ยิ่งจะทำให้ง่ายต่อการแพร่เชื้อ

          อย่างไรก็ตาม มีบางคอมเมนต์ระบุว่าไม่แปลกใจที่เห็นพิธีแบบนี้ เพราะทุกคนต่างก็อยากจะมีชีวิตรอด แต่ถึงอย่างไรวิธีนี้ก็อันตราย อาจจะไม่ตายเพราะโควิด แต่อาจจะตายเพราะรมควันตัวเอง



1-7 ภาพจาก เฟซบุ๊ก หมายจับกับบรรจง

8-9 ภาพจาก เที่ยว วัดวีระโชติธรรมาราม จ.ฉะเชิงเทรา กับศิษย์วัด