เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ผุดแคมเปญ มอบ 157 ให้นายกฯ ฐานบริหารล้มเหลว ประชาชนล้มตาย ไม่ได้รับการป้องกันและขจัดโรคติดต่ออันตรายจากรัฐ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ชวนคนนำใบเสร็จเข้าแจ้งความ
วันที่ 11 กรกฎาคม 2564 เดลินิวส์ รายงานว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้ออกแถลงการณ์เผยแคมเปญ "มอบ 157 ให้นายกฯ" โดยให้ประชาชนใช้สิทธิตามกฎหมายในฐานะคนไทยที่ได้รับความเดือดร้อนและเสียหาย เข้าแจ้งความนายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยทธ์ จันทร์โอชา และคณะรัฐมนตรี ฐานบริหารประเทศโดยไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามบทพระราชบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมาย
โดยแถลงการณ์ระบุใจความว่า ในสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 ประชาชนล้มป่วยเจ็บตายเป็นจำนวนมาก โดยที่รัฐบาลไม่สามารถดูแลประชาชนให้ปลอดภัยได้ ประชาชนต้องพึ่งพาตนเอง ตั้งแต่การซื้อหน้ากากอนามัย ขวนขวายตรวจหาเชื้อ ตลอดจนหาหนทางเข้ารับการรักษา และจ่ายเงินราคาแพงเพื่อวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ รัฐบาลไม่สามารถป้องกันและรักษาโรคระบาดโควิด 19 ให้เป็นไปตามกฎหมายที่ตนเองร่างขึ้นมาได้
รัฐธรรมนูญ มาตรา 47 วรรคสาม บัญญัติว่า "บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับการป้องกันและขจัดโรคติดต่ออันตรายจากรัฐ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย" ในขณะที่รัฐบาลกู้เงินจากต่างประเทศหลายครั้ง เป็นจำนวนเงินมหาศาล แต่กลับนำเงินไปถลุงใช้โดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ มุ่งหวังเพียงผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเองและพวกพ้อง รวมทั้งนำไปซื้อรถถัง เรือดำน้ำ เครื่องบิน อาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น หวังเพียงแต่ที่จะได้รับเงินทอนเท่านั้น เมื่อเกิดเหตุโรคระบาด จึงทำให้ไม่มีงบประมาณเพียงพอที่จะจัดหาอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อป้องกันและรักษาให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยได้
ด้วยเหตุนี้ จึงขอให้ประชาชนทุกคนนำใบเสร็จรับเงินที่ซื้อหน้ากากอนามัย ใบเสร็จรับเงินที่ท่านไปตรวจรักษา ใบเสร็จรับเงินต้องไปซื้อวัคซีนฉีดเพื่อป้องกันโรคระบาดโควิด 19 หลักฐานต่าง ๆ ที่ท่านได้รับความเสียหายจากมาตรการของรัฐ ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน
โดยให้ดำเนินคดีกับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทุกคน ที่กระทำการละเมิดรัฐธรรมนูญโดยละเว้นไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 47 และมาตรา 55 ทำให้ท่านได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต ทำให้ท่านได้รับความเสียหาย ซึ่งพนักงานสอบสวนจะต้องรวบรวมหลักฐานส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทำการไต่สวน โดยด่วนต่อไป
ทั้งนี้ ยืนยันว่าการเข้าแจ้งความของประชาชนไม่ใช่การก่อกวนใคร ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แค่ไปใช้สิทธิตามกฎหมายในฐานะคนไทยที่ได้รับความเดือดร้อนและเสียหาย จากการปฏิบัตินหนา้ที่ของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์, เฟซบุ๊ก พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส
วันที่ 11 กรกฎาคม 2564 เดลินิวส์ รายงานว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้ออกแถลงการณ์เผยแคมเปญ "มอบ 157 ให้นายกฯ" โดยให้ประชาชนใช้สิทธิตามกฎหมายในฐานะคนไทยที่ได้รับความเดือดร้อนและเสียหาย เข้าแจ้งความนายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยทธ์ จันทร์โอชา และคณะรัฐมนตรี ฐานบริหารประเทศโดยไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามบทพระราชบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมาย
โดยแถลงการณ์ระบุใจความว่า ในสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 ประชาชนล้มป่วยเจ็บตายเป็นจำนวนมาก โดยที่รัฐบาลไม่สามารถดูแลประชาชนให้ปลอดภัยได้ ประชาชนต้องพึ่งพาตนเอง ตั้งแต่การซื้อหน้ากากอนามัย ขวนขวายตรวจหาเชื้อ ตลอดจนหาหนทางเข้ารับการรักษา และจ่ายเงินราคาแพงเพื่อวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ รัฐบาลไม่สามารถป้องกันและรักษาโรคระบาดโควิด 19 ให้เป็นไปตามกฎหมายที่ตนเองร่างขึ้นมาได้
รัฐธรรมนูญ มาตรา 47 วรรคสาม บัญญัติว่า "บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับการป้องกันและขจัดโรคติดต่ออันตรายจากรัฐ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย" ในขณะที่รัฐบาลกู้เงินจากต่างประเทศหลายครั้ง เป็นจำนวนเงินมหาศาล แต่กลับนำเงินไปถลุงใช้โดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ มุ่งหวังเพียงผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเองและพวกพ้อง รวมทั้งนำไปซื้อรถถัง เรือดำน้ำ เครื่องบิน อาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น หวังเพียงแต่ที่จะได้รับเงินทอนเท่านั้น เมื่อเกิดเหตุโรคระบาด จึงทำให้ไม่มีงบประมาณเพียงพอที่จะจัดหาอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อป้องกันและรักษาให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยได้
ด้วยเหตุนี้ จึงขอให้ประชาชนทุกคนนำใบเสร็จรับเงินที่ซื้อหน้ากากอนามัย ใบเสร็จรับเงินที่ท่านไปตรวจรักษา ใบเสร็จรับเงินต้องไปซื้อวัคซีนฉีดเพื่อป้องกันโรคระบาดโควิด 19 หลักฐานต่าง ๆ ที่ท่านได้รับความเสียหายจากมาตรการของรัฐ ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน
โดยให้ดำเนินคดีกับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทุกคน ที่กระทำการละเมิดรัฐธรรมนูญโดยละเว้นไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 47 และมาตรา 55 ทำให้ท่านได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต ทำให้ท่านได้รับความเสียหาย ซึ่งพนักงานสอบสวนจะต้องรวบรวมหลักฐานส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทำการไต่สวน โดยด่วนต่อไป
ทั้งนี้ ยืนยันว่าการเข้าแจ้งความของประชาชนไม่ใช่การก่อกวนใคร ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แค่ไปใช้สิทธิตามกฎหมายในฐานะคนไทยที่ได้รับความเดือดร้อนและเสียหาย จากการปฏิบัตินหนา้ที่ของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์, เฟซบุ๊ก พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส