เปิดโมเมนต์น้ำตาซึม พ่อได้ลูกชายคืนสู่อ้อมกอดทั้งน้ำตา หลังออกตามหาลูก 24 ปี ขี่รถตามหาหลายพันกิโลเมตร จนเป็นหนังดัง สะเทือนใจคนทั่วประเทศ บทสรุปแสนสุขของหนังที่เกิดในชีวิตจริง
เป็นระยะเวลาเนิ่นนานหลายสิบปีที่ กัวกางถัง พ่อชาวจีน เริ่มขี่รถมอเตอร์ไซค์ตระเวนไปทั่วประเทศ นับเป็นระยะทางไม่ต่ำกว่า 2,000 ไมล์ หรือกว่า 3,200 กิโลเมตร เพื่อออกตามหาลูกชายของตน เขายอมลำบากและเสี่ยงอันตรายทุกอย่างเพียงเพื่อให้ได้เจอลูกชายที่ถูกลักพาตัวไป ความมุ่งมั่นของพ่อผู้นี้ยังกลายเป็นแรงบันดาลใจถูกนำไปสร้างเป็นหนังเรื่อง หัวใจพ่อน่ากราบ (Lost and Love)
ขณะที่ล่าสุด ชาวเน็ตจีนทั่วประเทศต่างพากันออกมาแสดงความยินดี หลังทราบข่าวใหญ่ว่าในที่สุดผู้เป็นพ่อก็ได้พบกับลูกชายแล้ว ในบรรยกาศชวนตื้นตันเคล้าน้ำตา นับเป็นตอนจบแสนสุขของหนังที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง
โดยเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า กัวซินเจิ้น ลูกชายซึ่งถูกลักพาตัวไป เพิ่งจะได้กลับคืนสู่อ้อมอกของพ่อแม่แท้ ๆ อีกครั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม ที่ผ่านมา กัวกางถังที่ขณะนี้อายุ 51 ปี พร้อมกับภรรยาของเขา ได้สวมกอดลูกชายทั้งน้ำตา ในช่วงเวลาที่รอคอยมาตลอด 24 ปี
ภาพจาก 公安部刑侦局
จุดเริ่มต้นของเรื่องราว
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2540 กัวซินเจิ้น ในวัย 2 ขวบ กำลังเล่นอยู่หน้าบ้านในมณฑลซานตง ตอนที่อยู่ ๆ หญิงคนหนึ่งก็อุ้มเขาหนีไปยังสถานีขนส่ง ที่ซึ่งชายคนรักรออยู่ จากนั้นทั้งคู่ก็พาเด็กชายนั่งรถบัสข้ามเมืองไปขายที่มณฑลเหอหนาน
นับจากนั้น กัวกางถังก็พยายามออกตามหาลูกชายด้วยการขี่รอมอเตอร์ไซค์ตระเวนไปทั่วประเทศ เขานำรูปของลูกชายมาติดไว้บนมอเตอร์ไซค์ ออกเดินทางเป็นระยะทางหลายพันกิโลเมตร ร่อนเร่ไปในพื้นที่กว่า 20 มณฑล ยอมสละเงินเก็บทั้งหมดที่มีมาเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ด้วยความหวังเพียงอย่างเดียวคือการได้ลูกชายกลับคืนมา
ความเสียสละของผู้เป็นพ่อ สะเทือนใจคนทั่วประเทศ
ระหว่างการตามหาลูกในช่วง 24 ปีที่ผ่านมา กัวกางถังต้องประสบเหตุร้ายมากมาย ทั้งขาหัก เกิดอุบัติเหตุ แม้กระทั่งถูกโจรดักปล้นกลางทาง แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ เขายังอาศัยการนอนใต้สะพาน ขอเงินจากผู้อื่นในตอนที่ทรัพย์สินหมดลง แม้แบนเนอร์รูปลูกชายที่ติดไว้ท้ายรถจะได้รับความเสียหายตามกาลเวลา เขาก็ยังทำป้ายใหม่มาติดไว้แทนที่
จนถึงขณะนี้ ระหว่างเส้นทางการตามหาลูกชายของตัวเอง กัวกางถังยังช่วยให้ครอบครัวอื่น ๆ อีก 7 ครอบครัว ได้พบกับลูก ๆ ที่ถูกลักพาตัวไป และเขายังเป็นสมาชิกคนสำคัญขององค์กรผู้สูญหายในประเทศจีน อันเป็นองค์กรที่มุ่งช่วยเหลือครอบครัวให้ได้กลับมาพบกับบุตรหลานที่สูญหายหรือถูกลักพาตัวไป
ภาพจาก 公安部刑侦局
บทสรุปการเดินทาง 24 ปีที่เฝ้ารอ
ทั้งนี้ นอกจากการขี่มอเตอร์ไซค์ออกเดินทางทั่วประเทศ กัวกางถังยังได้เข้ารับการตรวจดีเอ็นเอเพื่อนำข้อมูลเข้าสู่ระบบของเจ้าหน้าที่ ซึ่งในที่สุดด้วยความช่วยเหลือของตำรวจในท้องถิ่นกับหน่วยงานกระทรวงความมั่นคงสาธารณะในหลายมณฑล เจ้าหน้าที่ก็สามารถแกะรอยไปจนเจอตัวเด็กชายที่ถูกลักพาตัวไปจนได้
โดยพบว่า กัวซินเจิ้น ลูกชายของ กัวกางถัง ยังคงใช้ชีวิตอยู่ที่มณฑลเหอหนาน เขาได้รับโอกาสเรียนจนจบมหาวิทยาลัย และปัจจุบันประกอบอาชีพครู
ขณะที่คนร้ายซึ่งเป็นคู่ชายหญิงที่ลักพาตัวเด็กชายไปในอดีต ก็ถูกตามตำรวจแกะรอยจนเจอ และถูกจับกุมมาดำเนินคดีแล้ว
และในที่สุดช่วงเวลาที่ครอบครัวรอคอยก็มาถึง เมื่อหน่วยงานกระทรวงความมั่นคงสาธารณะได้พากัวซินเจิ้นมาพบกับครอบครัวที่แท้จริงของเขาอีกครั้ง กลายเป็นภาพที่น่ายินดี ซึ่งสร้างความตื้นตันใจแก่ผู้พบเห็น
กัวกางถัง กล่าวหลังได้พบลูกชายว่า "ตอนนี้เจอตัวเด็กแล้ว ทุกสิ่งอย่างก็จะมีแต่ความสุขนับจากนี้"
หลิวเต๋อหัว ร่วมยินดี
ทั้งนี้ พบว่า หลิวเต๋อหัว พระเอกดังชาวฮ่องกง ซึ่งรับบทเป็นพ่อในหนัง Lost and Love ก็ยังได้ร่วมแสดงความยินดีกับการพบกันครั้งนี้ของพ่อลูก โดยเขากล่าวในคลิปที่หน่วยงานความมั่นคงสาธารณะนำมาเผยแพร่ บอกว่า "ผมขอชื่นชนในความพากเพียรของคุณ และขอแสดงความนับถือในความพยายามตลอดช่วงหลายปี ของฝ่ายความปลอดภัยสาธารณะด้วยครับ"
อนึ่ง ปัญหาเรื่องการลักพาตัวในกระบวนการค้ามนุษย์ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในสังคมจีน ในแต่ละปีจะมีเด็กประมาณ 20,000 คน ที่ถูกลักพาตัวไป โดยส่วนมากมักถูกขายเป็นลูกแก่ครอบครัวอื่น ซึ่งหน่วยงานความมั่นคงสาธารณะชี้ว่า นับจากทางการเริ่มจัดทำฐานข้อมูลดีเอ็นเอของครอบครัวที่มีบุคคลสูญหายเมื่อปี 2559 เจ้าหน้าที่ก็ช่วยให้เด็กที่ถูกลักพาตัวได้เจอกับพ่อแม่แท้ ๆ อีกครั้งแล้วกว่า 2,600 คน
ภาพจาก 公安部刑侦局
ภาพจาก 公安部刑侦局
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลี่เมล