จับนายทุนใหญ่กลุ่มคิงส์ ดีเวลลอปเมนท์ ฮั้วประมูลหน่วยงานส่วนท้องถิ่นรัฐ ฟันเงินไปได้ 791 ล้านบาท แต่จนมุมเพราะแอปฯ หมอพร้อม ลงทะเบียนฉีดวัคซีน ก่อนนำตัวส่งฟ้องศาล
ภาพจาก NOTE OMG / Shutterstock.com
สำหรับสาเหตุที่จับกุมได้นั้น มาจากที่สำนักสืบสวนฯ ติดตามแกะรอยทั้ง 2 คนผ่านฐานข้อมูลลงทะเบียนรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลในช่วงโควิด 19 เช่น แอปฯ เป๋าตัง และแอปฯ หมอพร้อม ที่ลงทะเบียนฉีดวัคซีน เมื่อได้ข้อมูลส่วนนี้มา ก็ส่งเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าติดตามหลายวัน จนทราบข้อมูลชัดเจนว่า ผู้ถูกกล่าวหาทำงานที่บริษัทเลขที่ 24/17 ถ.สุขาภิบาล 2 เขตประเวศ แขวงประเวศ กรุงเทพฯ จึงส่งกำลังมาเข้าจับกุมตัว และนำตัวไปรายงานต่อพนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 3 เพื่อฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 3 ต่อไป
ส่วนวิธีการทุจริตนั้น นายสมเดช เป็นนายทุนใหญ่ นำชื่อลูกจ้างของตนเองไปจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท 4 บริษัท แล้วนำชื่อมายื่นซองเสนอราคาแข่งขันกันเองในงานจัดซื้อรถบรรทุกชนิดต่าง ๆ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หลายแห่ง ตั้งแต่ปี 2552 - 2560 โดยยอดงานที่เอกชนกลุ่มนี้ได้รับไปนั้น มีทั้งสิ้น 306 สัญญา รวมวงเงิน 791 ล้านบาท
1. บริษัท คิงส์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด
2. บริษัท ชัยมงคล แฟคตอริ่ง จำกัด
3. บริษัท ไทยคาร์ อินดัสทรีส์ จำกัด
4. บริษัท รุ่งเจริญ อีควิปเมนท์ แอนด์ทรัค จำกัด
อย่างไรก็ตาม จุดเริ่มต้นการตรวจสอบ เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2561 เมื่อ ป.ป.ช. จ.นครราชสีมา ส่งหนังสือแจ้งให้บริษัท คิงส์ ดีเวลลอปเมนท์ กับบริษัท ชัยมงคล แฟคตอริ่ง มารับทราบข้อกล่าวหาที่กล่าวหา นายสมชัย ปล้องพุดซา อดีตนายกเทศมนตรี ต.หนองไข่น้ำ อ.เมือง จ.นครราชสีมา กับพวก ฮั้วการประมูลราคาซื้อรถบรรทุกน้ำดับเพลิงและบรรทุกขยะมูลฝอย รวม 2 คัน วงเงิน 4 ล้าน ซึ่งเอกชนทั้ง 2 รายก็รับทราบข้อกล่าวหา ชี้แจงแล้ว
ฉะนั้น การชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช. ตอนนี้เป็นกระบวนการขั้นต้น ยังเหลือในชั้นอัยการและชั้นศาล คดียังไม่สิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดจึงเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวอิศรา