ไขข้อสงสัย ผ้าอนามัยแบบสอด จะขึ้นภาษี-ราคา จริงเหรอ หลังกระทรวงสาธารณสุขประกาศเป็นเครื่องสำอาง จนโซเชียลวิจารณ์หนัก ผุด #ผ้าอนามัยไม่มีภาษี
ภาพจาก Lex Collection / Shutterstock.com
จากกรณีที่ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้ประกาศกฎกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยเครื่องกำหนดวัตถุอื่นเป็นเครื่องสำอาง ให้ผ้าอนามัยชนิดสอด ที่ใช้สอดใส่เข้าไปในช่องคลอดเพื่อซับเลือดประจำเดือนเป็นเครื่องสำอาง จนกลายเป็นประเด็นพูดถึงในโลกออนไลน์ โดยในทวิตเตอร์มีการวิจารณ์ผ่าน #ผ้าอนามัยไม่มีภาษี โดยหลายคนไม่เข้าใจว่าผ้าอนามัยแบบสอด ถูกจัดเข้าไปอยู่ในหมวดเครื่องสำอางได้อย่างไร เพราะห่างไกลจากความหมายของคำนั้นอย่างมาก
ขณะเดียวกันยังแสดงความกังวลว่า การจัดผ้าอนามัยแบบสอด อยู่ในหมวดเครื่องสำอาง จะทำให้อัตราภาษี เพิ่มจาก 7% เป็น 30% หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นจะสร้างภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้หญิงเพิ่มขึ้นไปอีก
อ่านข่าว : ประกาศ ผ้าอนามัยแบบสอด เป็นเครื่องสำอาง คนหวั่นฉวยโอกาสขึ้นภาษี จ่ายแพงทุกเดือน
ภาพจาก calimedia / Shutterstock.com
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 22 กรกฎาคม 2564 เฟซบุ๊ก Drama-addict ได้ออกมาชี้แจงประเด็นดังกล่าวว่า
- ผ้าอนามัยแบบสอดถูกจัดเป็นเครื่องสำอางตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528
เมื่อปี พ.ศ. 2528 ผ้าอนามัยแบบสอด ถูกจัดเป็นเครื่องสำอางเพราะมีวัตถุมุ่งหมายคือใช้ทา ถู นวด โรย พ่น หยอด ใส่ อบ หรือกระทำด้วยวิธีอื่นใดต่อส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายเพื่อความสะอาด ความสวยงาม หรือส่งเสริมให้เกิดความสวยงามและรวมตลอดทั้งเครื่องประทินผิวต่าง ๆ ด้วย โดยไม่รวมถึงเครื่องประดับและเครื่องแต่งตัว ซึ่งเป็นอุปกรณ์ภายนอกร่างกาย
- ที่ต้องจัดเป็นเครื่องสำอางก็เพื่อให้มีมาตรฐานควบคุม เพราะหากใช้ไม่ถูกวิธีอาจติดเชื้อในกระแสเลือดตายได้
การที่ผ้าอนามัยแบบสอด ใช้มาตรฐานของเครื่องสำอาง เพราะผ้าอนามัยแบบสอดต้องสอดใส่ในช่องคลอด หากใส่ไว้นาน ไม่ถอดออกมาเปลี่ยน จะเกิดการหมักหมม แล้วแบคทีเรียผลิตพิษออกมาจนอาจติดเชื้อในกระแสเลือดแล้วช็อกเสียชีวิตได้ ดังนั้นจึงต้องมีมาตรฐานควบคุมสูงหน่อย เพื่อสุขภาพคนใช้งาน
ภาพจาก Tampax ภาพจาก Snowgirll / Shutterstock.com
- ปี พ.ศ. 2558 มีการเปลี่ยนนิยามของเครื่องสำอาง ทำให้ผ้าอนามัยแบบสอดหลุดจากความเป็นเครื่องสำอาง
พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 นิยามคำว่าเครื่องสำอาง ดังนี้
"วัตถุที่มุ่งหมายสําหรับใช้ทา ถู นวด โรย พ่น หยอด ใส่ อบ หรือกระทําด้วยวิธีอื่นใด กับส่วนภายนอกของร่างกายมนุษย์ และให้หมายความรวมถึงการใช้กับฟันและเยื่อบุในช่องปาก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อความสะอาด ความสวยงาม หรือเปลี่ยนแปลงลักษณะที่ปรากฏ หรือระงับกลิ่นกาย หรือปกป้องดูแลส่วนต่าง ๆ นั้น ให้อยู่ในสภาพดี และรวมตลอดทั้งเครื่องประทินต่าง ๆ สําหรับผิวด้วย
แต่ไม่รวมถึงเครื่องประดับและเครื่องแต่งตัวซึ่งเป็นอุปกรณ์ภายนอกร่างกาย, วัตถุที่มุ่งหมายสําหรับใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสําอางโดยเฉพาะ หรือวัตถุอื่นที่กําหนดโดยกฎกระทรวงให้เป็นเครื่องสําอาง"
- จัดผ้าอนามัยแบบสอดเป็นเครื่องสำอางเพื่อผลทางกฎหมาย
ทั้งนี้ จากนิยามดังกล่าว ทำให้ผ้าอนามัยบบสอดหลุดจากนิยามความเป็นเครื่องสำอางไป ดังนั้น ข่าวล่าสุดทางกระทรวงสาธารณสุข จึงประกาศกฎกระทรวงระบุว่าผ้าอนามัยแบบสอดจัดเป็นเครื่องสำอาง เพื่อผลทางกฎหมายในการจดแจ้งผ้าอนามัย
ภาพจาก yuliannaja / Shutterstock.com
- จัดเป็นเครื่องสำอางแล้วราคาจะขึ้นไหม เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยหรือเปล่า
กรมสรรพสามิต ออกมายืนยันว่าไม่มีการเก็บภาษีผ้าอนามัย ไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็เคยมีประเด็นเกี่ยวกับผ้าอนามัยแบบแผ่นเช่นเดียวกันที่ถูกจัดเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย โดย นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิตไม่เคยจัดเก็บภาษีผ้าอนามัย แต่เก็บแค่ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เท่านั้น ไม่ได้เก็บภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยถึง 40% ตามที่ปรากฏในข่าว
อ่านข่าว : สรรพสามิต สวนกลับ ! ยันไม่เคยขูดภาษีผ้าอนามัย-เก็บแค่ VAT 7% ซัดใครเชื่อก็บ้า
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Drama-addict, เว็บไซต์ราชกิจจานุกเบกษา (พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ. 2558)
ภาพจาก Lex Collection / Shutterstock.com
จากกรณีที่ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้ประกาศกฎกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยเครื่องกำหนดวัตถุอื่นเป็นเครื่องสำอาง ให้ผ้าอนามัยชนิดสอด ที่ใช้สอดใส่เข้าไปในช่องคลอดเพื่อซับเลือดประจำเดือนเป็นเครื่องสำอาง จนกลายเป็นประเด็นพูดถึงในโลกออนไลน์ โดยในทวิตเตอร์มีการวิจารณ์ผ่าน #ผ้าอนามัยไม่มีภาษี โดยหลายคนไม่เข้าใจว่าผ้าอนามัยแบบสอด ถูกจัดเข้าไปอยู่ในหมวดเครื่องสำอางได้อย่างไร เพราะห่างไกลจากความหมายของคำนั้นอย่างมาก
ขณะเดียวกันยังแสดงความกังวลว่า การจัดผ้าอนามัยแบบสอด อยู่ในหมวดเครื่องสำอาง จะทำให้อัตราภาษี เพิ่มจาก 7% เป็น 30% หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นจะสร้างภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้หญิงเพิ่มขึ้นไปอีก
อ่านข่าว : ประกาศ ผ้าอนามัยแบบสอด เป็นเครื่องสำอาง คนหวั่นฉวยโอกาสขึ้นภาษี จ่ายแพงทุกเดือน
ภาพจาก calimedia / Shutterstock.com
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 22 กรกฎาคม 2564 เฟซบุ๊ก Drama-addict ได้ออกมาชี้แจงประเด็นดังกล่าวว่า
- ผ้าอนามัยแบบสอดถูกจัดเป็นเครื่องสำอางตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528
เมื่อปี พ.ศ. 2528 ผ้าอนามัยแบบสอด ถูกจัดเป็นเครื่องสำอางเพราะมีวัตถุมุ่งหมายคือใช้ทา ถู นวด โรย พ่น หยอด ใส่ อบ หรือกระทำด้วยวิธีอื่นใดต่อส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายเพื่อความสะอาด ความสวยงาม หรือส่งเสริมให้เกิดความสวยงามและรวมตลอดทั้งเครื่องประทินผิวต่าง ๆ ด้วย โดยไม่รวมถึงเครื่องประดับและเครื่องแต่งตัว ซึ่งเป็นอุปกรณ์ภายนอกร่างกาย
- ที่ต้องจัดเป็นเครื่องสำอางก็เพื่อให้มีมาตรฐานควบคุม เพราะหากใช้ไม่ถูกวิธีอาจติดเชื้อในกระแสเลือดตายได้
การที่ผ้าอนามัยแบบสอด ใช้มาตรฐานของเครื่องสำอาง เพราะผ้าอนามัยแบบสอดต้องสอดใส่ในช่องคลอด หากใส่ไว้นาน ไม่ถอดออกมาเปลี่ยน จะเกิดการหมักหมม แล้วแบคทีเรียผลิตพิษออกมาจนอาจติดเชื้อในกระแสเลือดแล้วช็อกเสียชีวิตได้ ดังนั้นจึงต้องมีมาตรฐานควบคุมสูงหน่อย เพื่อสุขภาพคนใช้งาน
ภาพจาก Tampax ภาพจาก Snowgirll / Shutterstock.com
- ปี พ.ศ. 2558 มีการเปลี่ยนนิยามของเครื่องสำอาง ทำให้ผ้าอนามัยแบบสอดหลุดจากความเป็นเครื่องสำอาง
พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 นิยามคำว่าเครื่องสำอาง ดังนี้
"วัตถุที่มุ่งหมายสําหรับใช้ทา ถู นวด โรย พ่น หยอด ใส่ อบ หรือกระทําด้วยวิธีอื่นใด กับส่วนภายนอกของร่างกายมนุษย์ และให้หมายความรวมถึงการใช้กับฟันและเยื่อบุในช่องปาก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อความสะอาด ความสวยงาม หรือเปลี่ยนแปลงลักษณะที่ปรากฏ หรือระงับกลิ่นกาย หรือปกป้องดูแลส่วนต่าง ๆ นั้น ให้อยู่ในสภาพดี และรวมตลอดทั้งเครื่องประทินต่าง ๆ สําหรับผิวด้วย
แต่ไม่รวมถึงเครื่องประดับและเครื่องแต่งตัวซึ่งเป็นอุปกรณ์ภายนอกร่างกาย, วัตถุที่มุ่งหมายสําหรับใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสําอางโดยเฉพาะ หรือวัตถุอื่นที่กําหนดโดยกฎกระทรวงให้เป็นเครื่องสําอาง"
- จัดผ้าอนามัยแบบสอดเป็นเครื่องสำอางเพื่อผลทางกฎหมาย
ทั้งนี้ จากนิยามดังกล่าว ทำให้ผ้าอนามัยบบสอดหลุดจากนิยามความเป็นเครื่องสำอางไป ดังนั้น ข่าวล่าสุดทางกระทรวงสาธารณสุข จึงประกาศกฎกระทรวงระบุว่าผ้าอนามัยแบบสอดจัดเป็นเครื่องสำอาง เพื่อผลทางกฎหมายในการจดแจ้งผ้าอนามัย
ภาพจาก yuliannaja / Shutterstock.com
- จัดเป็นเครื่องสำอางแล้วราคาจะขึ้นไหม เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยหรือเปล่า
กรมสรรพสามิต ออกมายืนยันว่าไม่มีการเก็บภาษีผ้าอนามัย ไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็เคยมีประเด็นเกี่ยวกับผ้าอนามัยแบบแผ่นเช่นเดียวกันที่ถูกจัดเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย โดย นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิตไม่เคยจัดเก็บภาษีผ้าอนามัย แต่เก็บแค่ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เท่านั้น ไม่ได้เก็บภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยถึง 40% ตามที่ปรากฏในข่าว
อ่านข่าว : สรรพสามิต สวนกลับ ! ยันไม่เคยขูดภาษีผ้าอนามัย-เก็บแค่ VAT 7% ซัดใครเชื่อก็บ้า
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Drama-addict, เว็บไซต์ราชกิจจานุกเบกษา (พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ. 2558)