อย.ชี้แจงกฎกระทรวงกําหนด ผ้าอนามัยชนิดสอดเป็นเครื่องสําอาง เป็นมาตรฐานเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ยืนยันเป็นสินค้าควบคุม และไม่ขึ้นภาษี
อ่านข่าว : ประกาศ ผ้าอนามัยแบบสอด เป็นเครื่องสำอาง คนหวั่นฉวยโอกาสขึ้นภาษี จ่ายแพงทุกเดือน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ข่าวช่องวัน รายงานว่า ภญ. สุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข และรักษาการรองเลขาธิการ อย. ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า ผ้าอนามัยทั้งแบบใช้ภายนอกและชนิดสอด ถูกจัดเป็นเครื่องสำอางมาโดยตลอด จนถึงปี 2558 มีกำหนดนิยามของเครื่องสำอางให้ใช้เฉพาะภายนอกร่างกาย แต่เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค กระทรวงสาธารณสุข โดย อย. จึงเห็นสมควรให้ผ้าอนามัยชนิดสอดเป็นเครื่องสำอางดังเดิม เพราะจะได้มีการกำกับดูแลให้ผลิตภัณฑ์ได้มาตรฐานความปลอดภัย ควบคุมการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ รวมทั้งมีการแสดงคำเตือนที่ฉลาก เพื่อให้ผู้บริโภคได้ศึกษาทำความเข้าใจก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ด้วย
ทั้งนี้ ผ้าอนามัย จัดเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน เป็นรายการสินค้าควบคุมของกระทรวงพาณิชย์ จึงไม่มีการจัดเก็บภาษีผ้าอนามัยในอัตราภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยตามที่เป็นข่าว มีเพียงการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเหมือนสินค้าชนิดอื่น ๆ เท่านั้น
สำหรับข้อควรระวังในการใช้ผ้าอนามัยชนิดสอดที่ผู้บริโภคควรให้ความใส่ใจ คือ ไม่ควรใช้เมื่อภาชนะบรรจุฉีกขาด ไม่ควรใส่ไว้ในช่องคลอดนานเกิน 8 ชั่วโมง โดยควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 4-8 ชั่วโมง ขณะใช้ หากมีอาการเป็นไข้สูงเฉียบพลัน คลื่นเหียน อาเจียน วิงเวียน หน้ามืด ท้องเดิน หรือมีผื่นแดงขึ้นตามผิวหนัง ให้นำผ้าอนามัยออก และรีบไปพบแพทย์ทันที ที่สำคัญ การเลือกซื้อผ้าอนามัยชนิดสอด ควรซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ ผลิตภัณฑ์มีฉลากภาษาไทยแสดงข้อความอันจำเป็นครบถ้วน เช่น ชื่อและที่ตั้งผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า เลขที่ใบรับจดแจ้ง วันเดือนปีที่ผลิต วัสดุที่ใช้ วิธีใช้ คำเตือน เป็นต้น ผู้บริโภคควรอ่านฉลากให้ละเอียดโดยเฉพาะวิธีใช้ รวมทั้งปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด