ตำรวจเผยจ่อออกหมายเรียกหมอบุญ ปมหมิ่นองค์การเภสัชฯ กล่าวหาแสวงหากำไรจากวัคซีน mRNA ส่วนกรณีโคตรดีล ไฟเซอร์ รับเรื่องร้องเรียนไว้แล้ว
ภาพจาก thg.co.th
จากกรณีที่ นายแพทย์บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลธ์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยว่าเตรียมลงนามสัญญานำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดส ส่งมอบล็อตแรกภายในเดือนกรกฎาคม 2564 เผยราคาประมาณ 900 บาทต่อโดส แต่ต่อมา รอยเตอร์ส ได้ตามไปสัมภาษณ์บริษัทไบโอเอ็นเทค ที่หมอบุญกล่าวอ้างถึง ซึ่งทางบริษัทออกมาบอกว่า ดีลในเรื่องการนำเข้าวัคซีนกว่า 20 ล้านโดสนั้นไม่มีจริง ทางไบโอเอ็นเทคจะไม่มีการเจรจาใด ๆ กับทางบริษัท รวมทั้งยังปฏิเสธว่ามีการเจรจากับผู้แทนใด ๆ จากเมืองไทย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว : สรุป หมอบุญ เซ็นวัคซีนไฟเซอร์ ดีลจริงหรือดีลทิพย์ เมื่อบริษัทบอกไม่มีดีล
ภาพจาก malazzama / Shutterstock.com
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (5 สิงหาคม 2564) สำนักข่าวไทย รายงานว่า พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวกรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม แจ้งความเอาผิดกับ นายแพทย์บุญ ในกรณีดังกล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องร้องทุกข์ไว้ หลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม จากนั้นจะพิจารณาว่ากรณีรี้เป็นความผิดหรือไม่ และใครคือผู้เข้าข่าย
ส่วนประชาชนที่เป็นผู้เสียหายให้มาร้องทุกข์กล่าวโทษ ที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท) ส่วนประชาชนที่โอนเงินไปแล้วไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด ก็สามารถร้องทุกข์กล่าวโทษได้ ถือเป็นสิทธิ์ตามกฎหมาย
สำหรับกรณีที่องค์การเภสัชกรรม ได้มอบอำนาจให้ทนายความ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายแพทย์บุญ ในข้อหาหมิ่นประมาท โพสต์ข้อมูลอันเป็นเท็จ ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและเกิดความเสียหายต่อองค์การเภสัชกรรม หลังเจ้าตัวโพสต์ข้อความกล่าวหาว่า องค์เภสัชกรรมที่ได้รับมอบหมายประสานงานจัดซื้อจัดหาวัคซีนโมเดอร์นาให้กับสมาคมโรงพยาบาลเอกชน โดยมุ่งแสวงหาผลกำไรจากประชาชน
ซึ่งเรื่องนี้ พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เนื่องจาก มีเอกสารทางคดีจำนวนมาก ยืนยันว่า ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อีกทั้งคดีดังกล่าวสามารถยอมความได้ แต่ขณะนี้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้ทำการติดต่อเจรจากันแต่อย่างได และคาดว่า อีกประมาณ 2 สัปดาห์ พนักงานสอบสวน จะออกหมายเรียกให้คู่กรณีมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย
ภาพจาก thg.co.th
จากกรณีที่ นายแพทย์บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลธ์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยว่าเตรียมลงนามสัญญานำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดส ส่งมอบล็อตแรกภายในเดือนกรกฎาคม 2564 เผยราคาประมาณ 900 บาทต่อโดส แต่ต่อมา รอยเตอร์ส ได้ตามไปสัมภาษณ์บริษัทไบโอเอ็นเทค ที่หมอบุญกล่าวอ้างถึง ซึ่งทางบริษัทออกมาบอกว่า ดีลในเรื่องการนำเข้าวัคซีนกว่า 20 ล้านโดสนั้นไม่มีจริง ทางไบโอเอ็นเทคจะไม่มีการเจรจาใด ๆ กับทางบริษัท รวมทั้งยังปฏิเสธว่ามีการเจรจากับผู้แทนใด ๆ จากเมืองไทย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว : สรุป หมอบุญ เซ็นวัคซีนไฟเซอร์ ดีลจริงหรือดีลทิพย์ เมื่อบริษัทบอกไม่มีดีล
ภาพจาก malazzama / Shutterstock.com
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (5 สิงหาคม 2564) สำนักข่าวไทย รายงานว่า พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวกรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม แจ้งความเอาผิดกับ นายแพทย์บุญ ในกรณีดังกล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องร้องทุกข์ไว้ หลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม จากนั้นจะพิจารณาว่ากรณีรี้เป็นความผิดหรือไม่ และใครคือผู้เข้าข่าย
ส่วนประชาชนที่เป็นผู้เสียหายให้มาร้องทุกข์กล่าวโทษ ที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท) ส่วนประชาชนที่โอนเงินไปแล้วไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด ก็สามารถร้องทุกข์กล่าวโทษได้ ถือเป็นสิทธิ์ตามกฎหมาย
สำหรับกรณีที่องค์การเภสัชกรรม ได้มอบอำนาจให้ทนายความ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายแพทย์บุญ ในข้อหาหมิ่นประมาท โพสต์ข้อมูลอันเป็นเท็จ ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและเกิดความเสียหายต่อองค์การเภสัชกรรม หลังเจ้าตัวโพสต์ข้อความกล่าวหาว่า องค์เภสัชกรรมที่ได้รับมอบหมายประสานงานจัดซื้อจัดหาวัคซีนโมเดอร์นาให้กับสมาคมโรงพยาบาลเอกชน โดยมุ่งแสวงหาผลกำไรจากประชาชน
ซึ่งเรื่องนี้ พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เนื่องจาก มีเอกสารทางคดีจำนวนมาก ยืนยันว่า ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อีกทั้งคดีดังกล่าวสามารถยอมความได้ แต่ขณะนี้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้ทำการติดต่อเจรจากันแต่อย่างได และคาดว่า อีกประมาณ 2 สัปดาห์ พนักงานสอบสวน จะออกหมายเรียกให้คู่กรณีมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 << ได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย