เปิดชีวิต นักกีฬาโอลิมปิกเด็กกำพร้าในกัมพูชา ได้รับโอกาสมีชีวิตใหม่ที่อเมริกา จากเคยถูกเหยียดหยาม ตอนนี้คือความหวังเหรียญทอง
ภาพจาก Instagram
jordanpiseywindle
หนุ่มเกย์ที่ไร้ความหวังในการเป็นพ่อ
ย้อนกลับไปเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว เจอร์รี วินเดิล หนุ่มชาวอเมริกัน สูญเสียแม่ซึ่งเป็นคนเดียวในครอบครัวและย้ายจากแคลิฟอร์เนียไปอยู่ฟลอริดาเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ เขาอยากเป็นพ่อคนมาตลอดชีวิตและอยากมีลูก แต่เป็นไปไม่ได้เพราะเขาเป็นเกย์ ทำให้เขาทั้งเจ็บปวดและทุกข์ใจมาก
จนกระทั่งวันหนึ่ง เจอร์รีบังเอิญพบเจอบทความในนิตยสารเกี่ยวกับพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่อุปการะเด็กมาเป็นลูก เขารีบติดต่อไปยังเอเจนซี่ทันทีว่าเขาได้หรือไม่ และตัดสินใจดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนทันที กรอกเอกสารทุกอย่าง ประทับลายนิ้วมือ และเฝ้ารอ...
เด็กที่ถูกทิ้งในอีกฝากหนึ่งของโลก
ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2541 เด็กชายตัวน้อยลืมตาดูโลกที่เมืองพระสีหนู หรือ สีหนุวิลล์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของนอายุได้ กัมพูชา ตอน 1 ขวบ ทารกน้อยถูกนำไปทิ้งไว้ศูนย์การศึกษาสตรีและเด็ก ซึ่งเป็นสถานรับเล็กเด็กกำพร้าในเขตจอมเจ้า กรุงพนมเปญ
กลุ่มพี่เลี้ยงได้ตั้งชื่อให้หนูน้อยว่า พิสัย (Psey) มีความหมายว่า เจ้าตัวน้อยผู้เป็นที่รัก และใครจะรู้ว่าอีก 8 เดือนต่อมา โชคชะตาจะทำให้เขาได้พบกับชีวิตใหม่
พ่อลูกได้พบหน้า
ไม่นานหลังจากเข้าสู่กระบวนการรับอุปการะ เจอร์รีพบว่ามีเด็กกัมพูชาคนหนึ่งที่รอผู้อุปถัมภ์ ทันทีที่เขาเห็นรูปเด็กคนนั้น เจอร์รีก็รับรู้ได้ทันทีจากหัวใจว่านี่คือลูกชายของเขา เขาส่งรูปตัวเองและสร้อยคอไปให้ทางกัมพูชา ขอให้เจ้าหน้าที่บอกพิสัยว่า คนในรูปนี้คือพ่อของหนู และเขาจะมารับหนูไปอยู่ด้วยแล้วนะ
หลังจากดำเนินการอยู่ 5 เดือน เจอร์รีก็เดินทางไปรับตัวพิสัยกลับมายังสหรัฐอเมริกาในเดือนมิถุนายน 2543 เขาเล่าว่า "ทันทีที่ผมอุ้มเขาในอ้อมแขน ผมให้สัญญากับลูกว่า พ่อจะเป็นพ่อที่ดีที่สุดเท่าที่พ่อจะเป็นได้ ผมอยากให้ชีวิตของเขาได้เติมเต็มไปด้วยความสุข นั่นคือคำสัญญาแรกของผม"
พรสวรรค์ได้รับการค้นพบ
พิสัย ได้รับการตั้งชื่อว่า จอร์แดน พิสัย วินเดิล (Jordan Pisey Windle)
ตอนอายุ 7 ขวบ จอร์แดนไปเข้าค่ายฤดูร้อนที่ศูนย์ฝึกกีฬาทางน้ำ ซึ่งจะมีวันหนึ่งที่เด็ก ๆ ได้รับการฝึกกระโดดน้ำ และในวันที่สอง ขณะที่เจอร์รีพาจอร์แดนไปส่ง ผู้อำนวยการศูนย์ฯ เรียกเขาไปพูดคุยและบอกว่า "คุณควรให้ลูกได้เป็นนักกีฬากระโดดน้ำ สักวันหนึ่งเขาจะได้เป็นแชมป์ระดับชาติ และสักวันหนึ่งเขาจะได้ไปไกลถึงโอลิมปิก"
ปรากฏว่าผู้อำนวยการคนนั้นคือ ทิม โอไบรอัน ลูกชายของ ดร.รอน โอไบรอัน ครูฝึกกีฬากระโดดน้ำโอลิมปิก และเคยฝึกสอนนักกีฬาทีมชาติสหรัฐฯ จนได้ 4 เหรียญทองมาแล้ว
เด็กเก่งอนาคตไกล กับชีวิตที่ไม่ง่าย
จากการตัดสินใจของพ่อ จอร์แดนเริ่มเส้นทางเป็นนักกีฬากระโดดน้ำตั้งแต่ตอนนั้น เขาได้ย้ายไปเรียนที่นอร์ทแคโรไลนา ซึ่งครูฝึกบอกว่าจอร์แดนยิ้มอยู่เสมอ ทั้งรักและมุ่งมั่นตั้งใจซ้อมมาก โดยเขาได้แข่งขันตั้งแต่ในรุ่นประถม มัธยม และระดับมหาวิทยาลัย สั่งสมประสบการณ์เรื่อยมา
อย่างไรก็ตาม ชีวิตวัยเด็กและวัยรุ่นของจอร์แดนไม่ได้สดใสมากนัก เขาโดนเหยียดผิว ล้อเลียนว่าเป็นเด็กกำพร้า และโดนบูลลี่หนักมากเรื่องที่มีพ่อเป็นเกย์ แต่เขารักพ่อ พ่อก็ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด
จอร์แดนพิสูจน์ตัวเอง ลบทุกคำปรามาสได้หมด เขาได้แชมป์เยาวชนระดับชาติ 6 ครั้ง และได้แชมป์ระดับชาติ 7 ครั้ง จากการแข่งขันกระโดดน้ำ 3 ประเภท ปัจจุบันเป็นตัวแทนทีมกระโดดน้ำของมหาวิทยาลัยเทกซัส
ด้วยความสามารถนี้ทำให้ จอร์แดน ในวัย 22 ปี ติดทีมชาติสหรัฐอเมริกา และได้เดินทางมาแข่งขัน Tokyo 2020 ในฐานะนักกีฬาโอลิมปิก รวมทั้งยังเป็นนักกีฬากระโดดน้ำเชื้อสายกัมพูชาคนแรกของ Team USA ในโอลิมปิก
ไม่เคยลืมรากเหง้า
จอร์แดน สักธงชาติกัมพูชาที่แขนของเขา เพื่อเตือนใจว่าเขามาจากไหน เขาได้กลับไปบ้านเกิดครั้งแรก ตอนอายุ 16 ปี เพื่อแข่งขัน ซึ่งเขาได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นมาก ผู้ชมตะโกนเชียร์เขาและร้องเรียกชื่อ พิสัย ! พิสัย ! อยู่ตลอด
ความฝันและเป้าหมายในอนาคต
ทุกครั้งที่แข่งขัน พ่อจะไปดูจอร์แดนเสมอ แต่โอลิมปิกครั้งนี้ ซึ่งเป็นการแข่งขันครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด พ่อไม่สามารถเดินทางไปด้วยได้เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 แต่พ่อก็ส่งกำลังใจผ่านเฟซไทม์มาทุกวัน
จอร์แดนมุ่งมั่นคว้าเหรียญให้พ่อและประเทศชาติภูมิใจ และตั้งความฝันว่าจะไปให้ถึงจุดสูงสุด จากนั้นเขาจะมาเป็นโค้ชเพื่อสอนเด็ก ๆ ต่อไป
จอร์แดนยังได้ต่อสู้เพื่อกลุ่ม LGBTQ และเข้าร่วมโครงการ It Gets Better Project ที่ช่วยเหลือและป้องกันการฆ่าตัวตายในกลุ่มเยาวชนที่ถูกบูลลี่เพราะเพศสภาพ หรือถูกบูลลี่เพราะมีพ่อแม่เป็น LGBTQ อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก
Good Morning America, Yahoo, Secret Life of Mom, TEAM USA