สลด พบอย่างน้อย 40 ศพ เกลื่อนป่า หลังทหารเมียนมาบุกปะทะ สังหารเหี้ยมชาวบ้าน

            ศพเหล่านี้ถูกค้นพบโดยกองกำลังป้องกันตัวเองที่ต่อสู้กับกองทัพและตำรวจเมียนมา ซึ่งสั่งการโดยรัฐบาลรัฐประหารของนายพล มิน อ่อง หล่าย เบอร์มา ด้านเว็บไซต์อิรวดี รายงานว่า ทหารจากกองทัพเมียนมาบุกเข้ามายังหมู่บ้านในวันที่ 8 กรกฎาคม ทำให้ชาวบ้านต้องรีบหนีตายไปยังเมืองอื่น ส่วนผู้ที่หนีไม่ทันต่างพบกับความตาย โดยชาวบ้านถูกทรมาน ถูกจุดไฟเผา ถูกจับมัด ทุบตี รวมทั้งถูกกราดยิง

            ไทม์ไลน์การพบศพ

- 10 กรกฎาคม พบศพชาวบ้าน 16 ศพ ถูกสังหารหมู่ ไม่ไกลจากแม่น้ำจินดวิน

-  28 กรกฎาคม พบศพ 7 ศพ สภาพศพถูกจับมัดมือ มีร่องรอยการถูกทุบตี และถูกรัดคอตาย โดยในจำนวนนี้มีศพชายพิการ วัย 60 ปี รวมอยู่ด้วย

- 29 กรกฎาคม ชาวบ้านพบศพเพิ่มอีก 5 ศพ ซึ่งชาวบ้านยืนยันว่าไม่ใช่ศพชาวบ้าน แต่น่าจะเป็นศพกองกำลังป้องกันตนเอง


            นายจอ โม ตุน ทูตเมียนมาประจำองค์การสหประชาชาติ ส่งหนังสือถึง นายอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองกะนีคือ อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ (crime against humanity) อย่างชัดเจน พร้อมเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาติ รวมไปถึงประชาคมระหว่างประเทศ ออกมาตรการห้ามมิให้ขนส่งอาวุธให้กองทัพเมียนมา

            "กองทัพเมียนมาแสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาไร้ซึ่งความปรานี ไม่มีการยุติความรุนแรงในการจับกุมและการเข่นฆ่าประชาชน เราขอเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศด้านมนุษยชนเข้ามาแทรกแซงอย่างเร่งด่วน ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป" นายจอ โม ตุน กล่าว

            ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่เกิดรัฐประหารในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ทหารและตำรวจพม่าได้ฆ่าประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 946 ราย ทั้งจากการสลายม็อบ บุกกราดยิงกลุ่มผู้ประท้วง จับกุมคนไปฆ่า ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ทางกองทัพได้ออกมาปฏิเสธ และกล่าวว่ามีทหารถูกฆ่าไปเป็นจำนวนมากเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก Reuters, The Burma Irrawaddy