ประวัติท่านผู้หญิงบุญเรือน ชุณหะวัณ คู่ชีวิต พล.อ. ชาติชาย กับเบื้องหลังความสำเร็จต่าง ๆ ทำอะไรบ้างจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต
อ่านข่าว : ท่านผู้หญิงบุญเรือน ภรรยา พล.อ. ชาติชาย ชุณหะวัณ เสียชีวิตจากโควิด ในวัย 101 ปี
และในวันนี้ เราจะมาย้อนประวัติของท่านผู้หญิงกันว่า ในอดีตท่านทำอะไรมาบ้าง จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต
ภาพจาก เฟซบุ๊ก โบราณนานมา
ประวัติส่วนตัวตั้งแต่เกิดจนถึงวัยรุ่น
ท่านผู้หญิงบุญเรือน เกิดเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2463 เป็นบุตรีของนายแช่ม โสพจน์ ลูกพี่ลูกน้องฝ่ายพระชนนีในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และเป็นบุตรคนที่ 3 จาก 4 คนของนายแช่ม
ท่านนั้นก็ได้รับอุปการะจากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ให้ตามเสด็จไปยังเมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในเดือนเมษายน 2476 พร้อมด้วยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8, พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
เมื่ออยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์สักพัก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงจัดให้ท่านไปอยู่กับครอบครัวชาวสวิส และไปศึกษาต่อที่โรงเรียนประจำสำหรับเด็กผู้หญิง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก โบราณนานมา
ประวัติด้านการศึกษา
ท่านผู้หญิงบุญเรือน สำเร็จการศึกษาด้านการเลี้ยงเด็ก จากนั้นก็ตามเสด็จสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี กลับประเทศไทยเมื่อปี 2481 มาเป็นครูสอนหนังสือที่โรงเรียนอนุบาลละอออุทิศ สามารถพูดได้ 7 ภาษา
ชีวิตครอบครัว
ท่านผู้หญิงบุญเรือนสมรสกับ พล.อ. ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี มีบุตรกับธิดา 2 คน คือ วาณี ชุณหะวัณ หรือคุณต๋อย และไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ หรือคุณโต้ง
ภาพจาก สปริงนิวส์
นอกจากนี้ในการทำงาน ท่านผู้หญิงบุญเรือนก็เป็นมือขวาของ พล.อ. ชาติชาย ตั้งแต่ช่วงที่เป็นนักการทูต เพราะพูดได้หลายภาษา ทำให้งานต่าง ๆ ราบรื่นไปได้ด้วยดี จวบจน พล.อ. ชาติชาย เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในด้านการต่างประเทศ โดยเฉพาะนโยบายเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า
การได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทาน เครื่องราชอิสริยาภรณ์แก่ท่านผู้หญิงบุญเรือน ดังนี้
1. เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.) เมื่อปี 2531
2. เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.) เมื่อปี 2532
3. เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ท.จ.ว.) เมื่อปี 2533
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก โบราณนานมา







