นายกเทศมนตรีเมืองสิงหนคร จ.สงขลา โพสต์เตือนชาวบ้าน อย่าหลงเชื่อข้อความในไลน์ อ้างแจกเงินพระราชทาน 25,000 บาท เพียงแค่เอาบัตรประชาชนไปยืนยันตัวตน ทำคนแห่ไปต่อคิวแน่นที่ตู้ ATM ด้านธนาคารกรุงไทย ยืนยัน เป็นข่าวปลอม
ภาพจาก เฟซบุ๊ก กอง จันทร์สว่าง
จากกรณีช่วงค่ำวานนี้ (14 สิงหาคม) มีรายงานว่า พบประชาชนบางจังหวัดแห่มาต่อแถวยาวหน้าตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงไทย กันเนืองแน่น หลังมีผู้ไม่หวังดีส่งข้อความตามกลุ่มไลน์ ให้รีบลงทะเบียนยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชน 13 หลัก เพื่อรับเงินรายเดือน เดือนละ 25,000 บาท อ้างว่าเป็นเงินของขวัญ เงินพระราชทานจากสถาบัน ข้อความระบุว่า
"แจ้งทุกคนที่อายุ 18 ปีขึ้นไป นำบัตรประชาชนไปยืนยันตัวตนที่ตู้เอทีเอ็ม กรุงไทย เตรียมรับเงินที่จะจ่ายประชาชน จะเริ่มปล่อยลงเป็นชุดตั้งแต่ 24 ส.ค. นี้ค่ะ โดยมี 5 ธนาคารรับผิดชอบ โดยธนาคารกรุงไทย จะเป็นธนาคารแรกที่ปล่อยลงประชาชนอายุ 18-59 ได้ 25,000/เดือน อายุ 60 ขึ้น 15,000/เดือน นำบัตร ปชช. ไปยืนยันแทนกันได้"
"ให้ทุกคนรีบไปเสียบบัตรยืนยันตัวตน รับเงินเดือนละ 25,000 ที่ตู้ ATM ธ.กรุงไทย ตามตัวอย่างนี้ด่วน (เริ่มต้นเพียง 1 ล้านบัญชีก่อน) ไม่จำเป็นต้องมีบัญชีธนาคารกรุงไทย เพราะยืนยันด้วยบัตรประชาชน 13 หลัก เขาจะโอนเข้าแบงก์ที่เรามีอยู่ เดือนละ 25,000 ทุกเดือนจนกว่าจะครบ 1 ล้านจ้า"
ภาพจาก เฟซบุ๊ก กอง จันทร์สว่าง
นอกจากนี้ ยังมีข้อความส่งมาอีกว่า เงินจำนวนดังกล่าวมาจากโครงการ 1 ล้าน ซึ่งเป็นโครงการหนึ่งที่มาจากโครงการของสถาบันภายใต้ UBI เป็นเงินพระราชทานที่มอบให้คนไทย เพื่อเป็นทุนเลี้ยงชีพแบบพอเพียงให้กับประชาชนของพระราชา
ขณะเดียวกันที่ อ.สิงหนคร จ.สงขลา ก็พบชาวบ้านในเขตเทศบาลหลงเชื่อข้อความดังกล่าว แห่มาเข้าคิวต่อแถวหน้าตู้เอทีเอ็มกว่าร้อยคน จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ทางนายกอง จันทร์สว่าง หรือนายกบอย นายกเทศมนตรีเมืองสิงหนคร จ.สงขลา ต้องออกมาโพสต์เตือนประชาชนในพื้นที่ พร้อมระบุว่า
"ข่าวปลอม !!! แจกเงินพระราชทานเดือนละ 25,000 บาท กลับบ้านเถอะครับ คนที่อยู่หน้าธนาคารกรุงไทย สาขาสิงหนคร ตอนนี้ระวังจะเกิดคลัสเตอร์ใหม่ด้วย ไม่มีใครมาแจกเงินกันง่าย ๆ แบบนี้หรอกครับ ระวังคนที่เสียบบัตร อาจจะโดนหลอกเอาเลขบัตรประชาชน หรือรหัสบัตรเพื่อเอาไปโกงเราได้นะครับ"
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด (15 สิงหาคม 2564) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย แจ้งย้ำเตือนว่าข้อความดังกล่าว เป็นข่าวปลอม อย่าแชร์
ทางธนาคารกรุงไทย ได้ตรวจสอบแล้วพร้อมชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เป็นการเผยแพร่และส่งต่อข้อมูลที่เป็นเท็จ สร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชน ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ

ภาพจาก เฟซบุ๊ก กอง จันทร์สว่าง

ภาพจาก เฟซบุ๊ก กอง จันทร์สว่าง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก กอง จันทร์สว่าง
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก กอง จันทร์สว่าง, ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย






