ทนายเดชา เผยตำรวจผู้น้องหลายนายแฉ พ.ต.อ. ฉาว ฆ่าผู้ต้องหายาเสพติด ขณะทรมานรีดเงิน 2 ล้าน สั่งลูกน้องโกหกหมอว่าเสพยาตาย เสนอเงิน 5 ล้านปิดปากบ้านเหยื่อ
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
ภาพจาก otan / Shutterstock.com
ภาพจาก otan / Shutterstock.com
วันที่ 22 สิงหาคม 2564 นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก ทนายคลายทุกข์ ออกมาเผยเรื่องราวอื้อฉาวในวงการสีกากี หลังมีตำรวจผู้น้อยหลายนายร้องเรียนมาว่า พันตำรวจเอกท่านหนึ่ง คลุมถุงดำที่หัวผู้ต้องหาเพื่อทรมานเรียกเงินเพิ่ม 1 ล้านบาท แต่เกิดพลั้งมือฆ่าผู้ต้องหา โดยสั่งให้ลูกน้องนำศพไปส่งโรงพยาบาล อ้างว่าผู้ตายเสพยาเกินขนาด รวมทั้งยังเรียกครอบครัวผู้ตายมาต่อรองจ่ายเงินเพื่อแลกกับการไม่เอาผิด
ทนายเดชา ไลฟ์บอกว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้มีตำรวจร้องเรียนมาเยอะ ทั้งภาค 3 ภาค 5 และภาค 6 รวมถึงตำรวจนครสวรรค์ เรื่องนี้มีตำรวจในชุดจับกุมที่เห็นเหตุการณ์เคยไปโพสต์ในไลน์กลุ่มตำรวจภูธรนครสวรรค์ด้วย เขาทนไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งมีการรีดทรัพย์ ทรมานจนตาย แล้วใช้ลูกน้องนำศพไปส่งโรงพยาบาล ให้บอกหมอว่าผู้ต้องหาตายเพราะเสพยา ทั้งที่ความจริงถูกรัดคอจนตาย
จริงหรือเท็จก็เป็นหน้าที่ ผบ.ตร. ต้องเข้าไปตรวจสอบ ส่วนตัวมองว่าคดีนี้คงจะวิ่งเต้นกันไม่ได้แล้ว เพราะเรื่องมันเป็นข่าวใหญ่โตแล้ว เพราะการกระทำกันอย่างอุกอาจภายใน สภ.เมืองนครสวรรค์ มีตำรวจหลายพื้นที่ออกมาแฉในไลน์กลุ่ม แต่ทำไมจึงยังไม่มีการสืบสวน
ทนายเดชา เผยว่า เรื่องนี้เริ่มจากการระบายความในใจของตำรวจชุดจับกุมนายหนึ่ง โพสต์ถึงนายตำรวจยศพันตำรวจเอก เป็นถึงผู้กำกับโรงพักแห่งหนึ่ง อ้างว่าเป็นถึงสายตรงนายพล ต. และเป็นลูกเขยของผู้บัญชาการตำรวจภาคแห่งหนึ่ง มีความสนิทสนมกับท่าน ช.
โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม นายตำรวจที่ออกมาร้องเรียน ซึ่งเป็นชุดจับกุมชุดยาเสพติดภูธรนครสวรรค์ ได้จับผู้ต้องหา 2 คน เป็นชายและหญิง ทั้งคู่เป็นแฟนกัน พอมาถึงโรงพักก็จับแยกสอบปากคำ สักพักหัวหน้าชุดจับกุมที่คุยกับผู้ต้องหาชายก็เดินไปบอกกับพันตำรวจเอกระดับผู้กำกับนายหนึ่ง ระบุว่า "นายครับ มันยอมจบที่ 1 ล้านบาทครับ" ผู้กำกับตะโกนตอบกลับมาเสียงดังว่า "ล้านเดียวจะไปพออะไร เรียกมัน 2 ล้านสิวะ พวกมึงไม่ได้เรื่อง เดี๋ยวกูเอง"
ตำรวจด้วยกันทนไม่ไหว ต้องออกมาโพสต์แฉ
ทนายเดชา ไลฟ์บอกว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้มีตำรวจร้องเรียนมาเยอะ ทั้งภาค 3 ภาค 5 และภาค 6 รวมถึงตำรวจนครสวรรค์ เรื่องนี้มีตำรวจในชุดจับกุมที่เห็นเหตุการณ์เคยไปโพสต์ในไลน์กลุ่มตำรวจภูธรนครสวรรค์ด้วย เขาทนไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งมีการรีดทรัพย์ ทรมานจนตาย แล้วใช้ลูกน้องนำศพไปส่งโรงพยาบาล ให้บอกหมอว่าผู้ต้องหาตายเพราะเสพยา ทั้งที่ความจริงถูกรัดคอจนตาย
จริงหรือเท็จก็เป็นหน้าที่ ผบ.ตร. ต้องเข้าไปตรวจสอบ ส่วนตัวมองว่าคดีนี้คงจะวิ่งเต้นกันไม่ได้แล้ว เพราะเรื่องมันเป็นข่าวใหญ่โตแล้ว เพราะการกระทำกันอย่างอุกอาจภายใน สภ.เมืองนครสวรรค์ มีตำรวจหลายพื้นที่ออกมาแฉในไลน์กลุ่ม แต่ทำไมจึงยังไม่มีการสืบสวน
ทนายเดชา เผยว่า เรื่องนี้เริ่มจากการระบายความในใจของตำรวจชุดจับกุมนายหนึ่ง โพสต์ถึงนายตำรวจยศพันตำรวจเอก เป็นถึงผู้กำกับโรงพักแห่งหนึ่ง อ้างว่าเป็นถึงสายตรงนายพล ต. และเป็นลูกเขยของผู้บัญชาการตำรวจภาคแห่งหนึ่ง มีความสนิทสนมกับท่าน ช.
โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม นายตำรวจที่ออกมาร้องเรียน ซึ่งเป็นชุดจับกุมชุดยาเสพติดภูธรนครสวรรค์ ได้จับผู้ต้องหา 2 คน เป็นชายและหญิง ทั้งคู่เป็นแฟนกัน พอมาถึงโรงพักก็จับแยกสอบปากคำ สักพักหัวหน้าชุดจับกุมที่คุยกับผู้ต้องหาชายก็เดินไปบอกกับพันตำรวจเอกระดับผู้กำกับนายหนึ่ง ระบุว่า "นายครับ มันยอมจบที่ 1 ล้านบาทครับ" ผู้กำกับตะโกนตอบกลับมาเสียงดังว่า "ล้านเดียวจะไปพออะไร เรียกมัน 2 ล้านสิวะ พวกมึงไม่ได้เรื่อง เดี๋ยวกูเอง"
ผู้ต้องหาตาย - สั่งลบกล้อง - จ่ายเงินปิดปาก
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
หลังจากนั้นก็ส่งศพไปชันสูตรในวันที่ 6 สิงหาคม ซึ่งตำรวจชุดจับกุมพร้อมจะให้ปากคำเกี่ยวกับความจริงในเรื่องนี้ ส่วนสิ่งที่รู้สึกแย่กว่านั้นคือ ผู้กำกับรายนี้เรียกพ่อของผู้ตายเข้าพบแล้วจ่ายเงินปิดปาก รวมทั้งยังพูดกับลูกน้องว่า กลัวเหี้- อะไร เงินซื้อได้ทุกอย่าง
นึกว่าได้นายดี ที่แท้โจรในคราบเครื่องแบบ
ตอนท่านผู้กำกับคนนี้มารับตำแหน่ง ผู้ใต้บังคับบัญชาก็แอบดีใจ เพราะค้นข้อมูลพบว่ามีฐานะดี ร่ำรวย ชอบขับเฟอร์รารี่ อยู่สังคมไฮโซ เคยคบกับดารา หน้าตาก็ดี แถมยังเป็นจิตอาสาพระราชทานรุ่นแรก ตอนแรกลูกน้องก็ดีใจกันใหญ่ มีคนดีเป็นพ่อพระมาแล้ว เบี้ยเลี้ยง ค่าน้ำมัน หรือความสุขต่อประชาชนจะดี แต่ที่ไหนได้นี่มันโจรในคราบเครื่องแบบ คนเรามันดูที่ภายนอกไม่ได้จริง ๆ
จึงขอฝากสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปตรวจสอบว่าวันที่ 5 สิงหาคม มีตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ ไปจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด ซึ่งต่อมาผู้ต้องหาชายอายุ 24 ปี เสียชีวิตเพราะอะไร
ฝากเบื้องบนตรวจสอบ
ทนายเดชา ทิ้งท้ายว่า หากกรณีเกิดขึ้นจริง ตำรวจนายนี้ต้องถูกให้ออกจากราชการ ต้องถอดยศ รวมทั้งมีโทษสูงสุดคือประหารชีวิต ฝากเรื่องนี้ไปถึงตำรวจภาค 6 รวมทั้ง ผบ.ตร. ไปตรวจสอบด้วย ว่าชุดจับกุมที่ถูกร้องเรียน พยายามต่อรองกับพ่อผู้ตายเพื่อจ่าย 5 ล้านบาท เพื่อจบเรื่องจริงหรือไม่