เผยเส้นทางธุรกิจ ผู้กำกับโจ้ จับรถผิดกฎหมายจากชายแดน กว่า 360 คัน ส่งศุลกากรประมูล รับส่วนแบ่งรวมอย่างน้อย 300 ล้าน ก่อนผันตัวจัดหาอะไหล่รถหรูขาย ส่วน แลมโบกินี่รุ่นแรร์ เป็นรถผิดกฎหมาย อยู่ในสถานะของกลาง
ภาพจาก byet0eyyy
ภาพจาก ช่อง 3
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 25 สิงหาคม 2564 รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ช่อง 3 รายงานเกี่ยวกับเส้นทางธุรกิจของ ผู้กำกับโจ้ ระบุว่า เจ้าตัวเคยทำธุรกิจเกี่ยวกับรถหรูกับอดีตภรรยามาก่อน ซึ่งในปัจจุบันก็ถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านรถหรู และยังสามารถจัดหาอะไหล่รถยนต์สปอร์ตเข้ามาให้กับผู้ที่สนใจได้ด้วย
ผู้กำกับโจ้ เข้ามาจับธุรกิจซื้อขายรถหรูตั้งแต่ยศร้อยตำรวจโท เพราะอดีตภรรยามีโชว์รูมรถหรูอยู่ แต่วิธีการจัดหารถหรูราคาถูกมาขายของผู้กำกับโจ้ ใช้วิธีสั่งซื้อรถมาจากประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ทางใต้ของไทย เพราะราคารถหรูไม่สูง จากนั้นนำเข้ามาในไทยแบบไม่เสียภาษี แล้วจับส่งศุลกากร เพื่อรอการประมูลขาย ซึ่งอาจจะให้บริษัทที่รู้จักกันมาประมูลไปขาย เพราะราคารถจะถูกกว่าการนำเข้าแบบถูกกฎหมาย แต่ตัวของผู้กำกับโจ้ จะได้ทั้งรางวัลนำจับ และค่าสายข่าว ซึ่งมูลค่าหลักแสนบาท โดยคำนวณจากมูลค่าของรถที่ประมูลได้
มีรายงานว่า ช่วงที่กรมศุลกากรจัดประมูลรถบ่อย ๆ เมื่อหลายปีก่อน รถกว่าครึ่งเป็นผลงานของผู้กำกับโจ้ แม้ปัจจุบันผู้กำกับโจ้จะเลิกรากับอดีตภรรยาไปแล้ว แต่ยังคลุกคลีวนเวียนอยู่ในวงการนี้ เคยมีข่าวว่า ผู้กำกับโจ้ เป็น 1 ใน 100 คน ที่ครอบครองรถแลมโบกินี่ รุ่นอเวนทาดอร์ ซูเปอร์คาร์รุ่นพิเศษ ฉลองครบรอบ 50 ปี ด้วย ต่อมาผันตัวมาจัดหาอะไหล่รถหรูมาจำหน่ายให้กับผู้ที่ต้องการ รวมถึงให้คำแนะนำเรื่องการแต่งรถหรู ทำให้คนในแวดวงที่เล่นรถหรูรู้จักเขาในชื่อ "โจ้ เฟอร์รารี่"
ภาพจาก ชมรมSTRONGต้านทุจริตภาคใต้
ขณะที่ กรุงเทพธุรกิจ เผยถึงขั้นตอนขบวนการค้ารถหรูจากมาเลเซียส่งเข้าไทย ยกตัวอย่างรถ BMW ประมาณ 4 แสนบาท ซื้อแล้วลักลอบเอาเข้าไทย ให้ถูกจับรถโดยไม่มีคนเกี่ยวข้องนำเข้าผิดกฎหมาย ทำให้รถถูกส่งให้ศุลกากร เมื่อคดีเสร็จนำออกขายทอดตลาดด้วยวิธีประมูล
หากราคารถ BMW ประมูลไป 2 ล้าน เงินที่ได้จะถูกแบ่งเป็นรางวัลนำจับ และค่าสายข่าว ทั้งสองส่วนนี้คิดเป็น 45% ของราคา 2 ล้านบาท คือจำนวน 9 แสนบาท เท่ากับว่ารถ BMW หักทุน 4 แสนบาทแล้ว จะได้กำไรราว 5 แสนบาท
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 26 สิงหาคม นายพรช อันตศิลป์ อธิบดีกรมกุลกากร เปิดเผยผ่าน รายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ว่า จากการตรวจสอบพบว่า มีรายชื่อของ ผู้กำกับโจ้ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในฐานะพนักงานสอบสวนที่ทำหน้าที่จับกุมรถยนต์ ซึ่ง ตั้งแต่ปี 2554 - 2560 ในฐานะเจ้าของสำนวนจับกุม นำส่งรถ 368 คัน ขายทอดตลาดไปแล้ว 363 คัน ยังขายไม่ออกอีก 5 คัน โดยมีทั้งรถหลายชนิด ทั้งรถทั่วไป รวมไปถึงซูเปอร์คาร์
สำหรับตามกฎหมายศุลกากร ก่อนปี 2560 มีสินบนให้เจ้าหน้าที่ 30% และเงินรางวัล 25% ต่อมาหลังปี 2560 จะมีสินบนเงิน 20% และเงินรางวัล 20% จำกัดเงิน 1 คดีจะได้ไม่เกิน 5 ล้านบาท จากราคาที่นำรถจำนวน 363 คัน ที่ผู้กำกับโจ้เป็นเจ้าของคดี ศุลกากรประมูลขายได้ประมาณ 1 พันล้านบาท
จากอัตราดังกล่าว เมื่อคำนวณเบื้องต้น เท่ากับว่า ผู้กำกับโจ้ เจ้าของคดีจะได้ค่าสินบนจากการขายอย่างน้อย 300 ล้านบาท บวกกับเงินรางวัล 25% ในบางกรณี ทำให้ได้เงินเพิ่มมากขึ้นไปอีก
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ส่วนกรณีรถหรูของผู้กำกับโจ้ เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า พ.ต.ท. กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมชี้แจงข้อมูลต่อสื่อมวลชน กรณีรถยนต์ Lamborghini ของ ผู้กำกับโจ้ ซึ่งอยู่ในคดีรถหรูหลบเลี่ยงภาษี สำแดงใบอินวอยซ์ในราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริง เบื้องต้นพบว่า ผู้กำกับโจ้ซื้อมาจากตัวแทนในประเทศไทย แต่ในขั้นตอนนำเข้าบริษัทสำแดงใบอินวอยซ์เท็จ ประกอบการนำเข้ารถยนต์แลมโบกินี่จำนวนมาก โดยรถที่ผู้กำกับโจ้เป็นผู้ครอบครองนั้น พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนโดยมีความเห็นสมควรสั่งฟ้องเสนอไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว แต่ในทางปฏิบัติจะให้ผู้ครอบครองเก็บรักษารถยนต์ไว้จนกว่าคดีจะถึงที่สุด
ภาพจาก byet0eyyy
ภาพจาก byet0eyyy
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเด่นเย็นนี้, รายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์, กรุงเทพธุรกิจ, เดลินิวส์ออนไลน์
ภาพจาก byet0eyyy
จากกรณีคลิปอื้อฉาวที่ ผู้กำกับโจ้ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์
ซ้อมทรมานผู้ต้องหายาเสพติดจนเสียชีวิตคาโรงพัก
จนนำไปสู่การเปิดโปงชีวิตด้านต่าง ๆ ของผู้กำกับหนุ่มไฟแรงคนนี้ ที่พบว่า
ตัวเขามีเงินเป็นร้อยล้าน มีรถหรูกว่า 30 คัน ทั้งที่เงินเดือนแค่ 40,000
กว่าบาทเท่านั้น
ภาพจาก ช่อง 3
เปิดเส้นทางผู้กำกับโจ้ เงินเดือนตำรวจแค่จิ๊บ ๆ ธุรกิจเสริมค้าอะไหล่รถหรู ทำเงินกว่าเยอะ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 25 สิงหาคม 2564 รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ช่อง 3 รายงานเกี่ยวกับเส้นทางธุรกิจของ ผู้กำกับโจ้ ระบุว่า เจ้าตัวเคยทำธุรกิจเกี่ยวกับรถหรูกับอดีตภรรยามาก่อน ซึ่งในปัจจุบันก็ถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านรถหรู และยังสามารถจัดหาอะไหล่รถยนต์สปอร์ตเข้ามาให้กับผู้ที่สนใจได้ด้วย
ผู้กำกับโจ้ เข้ามาจับธุรกิจซื้อขายรถหรูตั้งแต่ยศร้อยตำรวจโท เพราะอดีตภรรยามีโชว์รูมรถหรูอยู่ แต่วิธีการจัดหารถหรูราคาถูกมาขายของผู้กำกับโจ้ ใช้วิธีสั่งซื้อรถมาจากประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ทางใต้ของไทย เพราะราคารถหรูไม่สูง จากนั้นนำเข้ามาในไทยแบบไม่เสียภาษี แล้วจับส่งศุลกากร เพื่อรอการประมูลขาย ซึ่งอาจจะให้บริษัทที่รู้จักกันมาประมูลไปขาย เพราะราคารถจะถูกกว่าการนำเข้าแบบถูกกฎหมาย แต่ตัวของผู้กำกับโจ้ จะได้ทั้งรางวัลนำจับ และค่าสายข่าว ซึ่งมูลค่าหลักแสนบาท โดยคำนวณจากมูลค่าของรถที่ประมูลได้
มีรายงานว่า ช่วงที่กรมศุลกากรจัดประมูลรถบ่อย ๆ เมื่อหลายปีก่อน รถกว่าครึ่งเป็นผลงานของผู้กำกับโจ้ แม้ปัจจุบันผู้กำกับโจ้จะเลิกรากับอดีตภรรยาไปแล้ว แต่ยังคลุกคลีวนเวียนอยู่ในวงการนี้ เคยมีข่าวว่า ผู้กำกับโจ้ เป็น 1 ใน 100 คน ที่ครอบครองรถแลมโบกินี่ รุ่นอเวนทาดอร์ ซูเปอร์คาร์รุ่นพิเศษ ฉลองครบรอบ 50 ปี ด้วย ต่อมาผันตัวมาจัดหาอะไหล่รถหรูมาจำหน่ายให้กับผู้ที่ต้องการ รวมถึงให้คำแนะนำเรื่องการแต่งรถหรู ทำให้คนในแวดวงที่เล่นรถหรูรู้จักเขาในชื่อ "โจ้ เฟอร์รารี่"
ภาพจาก ชมรมSTRONGต้านทุจริตภาคใต้
ส่องช่องรวย ผู้กำกับโจ้ ทำทีจับรถหรูได้ ก่อนได้รางวัลนำจับ รับคนเดียวอย่างต่ำ ๆ 300 ล้าน
ขณะที่ กรุงเทพธุรกิจ เผยถึงขั้นตอนขบวนการค้ารถหรูจากมาเลเซียส่งเข้าไทย ยกตัวอย่างรถ BMW ประมาณ 4 แสนบาท ซื้อแล้วลักลอบเอาเข้าไทย ให้ถูกจับรถโดยไม่มีคนเกี่ยวข้องนำเข้าผิดกฎหมาย ทำให้รถถูกส่งให้ศุลกากร เมื่อคดีเสร็จนำออกขายทอดตลาดด้วยวิธีประมูล
หากราคารถ BMW ประมูลไป 2 ล้าน เงินที่ได้จะถูกแบ่งเป็นรางวัลนำจับ และค่าสายข่าว ทั้งสองส่วนนี้คิดเป็น 45% ของราคา 2 ล้านบาท คือจำนวน 9 แสนบาท เท่ากับว่ารถ BMW หักทุน 4 แสนบาทแล้ว จะได้กำไรราว 5 แสนบาท
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 26 สิงหาคม นายพรช อันตศิลป์ อธิบดีกรมกุลกากร เปิดเผยผ่าน รายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ว่า จากการตรวจสอบพบว่า มีรายชื่อของ ผู้กำกับโจ้ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในฐานะพนักงานสอบสวนที่ทำหน้าที่จับกุมรถยนต์ ซึ่ง ตั้งแต่ปี 2554 - 2560 ในฐานะเจ้าของสำนวนจับกุม นำส่งรถ 368 คัน ขายทอดตลาดไปแล้ว 363 คัน ยังขายไม่ออกอีก 5 คัน โดยมีทั้งรถหลายชนิด ทั้งรถทั่วไป รวมไปถึงซูเปอร์คาร์
สำหรับตามกฎหมายศุลกากร ก่อนปี 2560 มีสินบนให้เจ้าหน้าที่ 30% และเงินรางวัล 25% ต่อมาหลังปี 2560 จะมีสินบนเงิน 20% และเงินรางวัล 20% จำกัดเงิน 1 คดีจะได้ไม่เกิน 5 ล้านบาท จากราคาที่นำรถจำนวน 363 คัน ที่ผู้กำกับโจ้เป็นเจ้าของคดี ศุลกากรประมูลขายได้ประมาณ 1 พันล้านบาท
จากอัตราดังกล่าว เมื่อคำนวณเบื้องต้น เท่ากับว่า ผู้กำกับโจ้ เจ้าของคดีจะได้ค่าสินบนจากการขายอย่างน้อย 300 ล้านบาท บวกกับเงินรางวัล 25% ในบางกรณี ทำให้ได้เงินเพิ่มมากขึ้นไปอีก
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
แลมโบกินี่ รถหรูผู้กำกับโจ้ โป๊ะแตกออกอินวอยซ์เก๊ ราคาต่ำกว่าความเป็นจริง ตอนนี้ยังดำเนินคดี
ส่วนกรณีรถหรูของผู้กำกับโจ้ เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า พ.ต.ท. กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมชี้แจงข้อมูลต่อสื่อมวลชน กรณีรถยนต์ Lamborghini ของ ผู้กำกับโจ้ ซึ่งอยู่ในคดีรถหรูหลบเลี่ยงภาษี สำแดงใบอินวอยซ์ในราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริง เบื้องต้นพบว่า ผู้กำกับโจ้ซื้อมาจากตัวแทนในประเทศไทย แต่ในขั้นตอนนำเข้าบริษัทสำแดงใบอินวอยซ์เท็จ ประกอบการนำเข้ารถยนต์แลมโบกินี่จำนวนมาก โดยรถที่ผู้กำกับโจ้เป็นผู้ครอบครองนั้น พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนโดยมีความเห็นสมควรสั่งฟ้องเสนอไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว แต่ในทางปฏิบัติจะให้ผู้ครอบครองเก็บรักษารถยนต์ไว้จนกว่าคดีจะถึงที่สุด
ภาพจาก byet0eyyy
ภาพจาก byet0eyyy