x close

ผกก.โจ้ เปิดหมดเปลือก ไม่มีเจตนาทำให้ตาย - ผบ.ตร. รอง ลั่น นักข่าวถามมากพอแล้ว

          ผกก.โจ้ เปิดหมดเปลือก ไม่มีเจตนาทำให้ตาย ยอมรับผิดทุกอย่าง ยันตั้งใจทำงาน ที่ผ่านมาไม่เคยทุจริต - รอง ผบ.ตร. ลั่น นักข่าวถามมากพอแล้ว



          จากกรณีข่าว พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ทรมานผู้ต้องหายาเสพติดด้วยการเอาถุงคลุมหัวจนเสียชีวิตคาโรงพัก ล่าสุดมีการจับกุมตัวได้แล้ว โดย พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จะแถลงข่าวการจับกุมตัว ผกก.โจ้ ที่กองปราบปรามวันนี้ (26 สิงหาคม 2564) เวลา 21.00 น.

อ่านข่าว : รวบแล้ว ผกก.โจ้ ! สวมชุดเกราะแน่น ด้าน ผบ.ตร. เตรียมแถลง


          ล่าสุด เวลาประมาณ 21.45 น. พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องในคดี ได้ออกมาแถลงข่าวกรณีการจับกุมตัวผู้กำกับโจ้ และจะมีการโฟนอินให้ผู้สื่อข่าวพูดคุย-สอบถามผู้ต้องหา โดยมีรายละเอียดดังนี้

          - เราพยายามทำให้สังคมเห็นว่าเราไม่เคยปกป้องคนทำผิด เราเอาทุกคนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อาจจะไม่ได้ช่วยให้สิ่งที่สูญเสียไปมันดีขึ้น แต่ก็ทำให้เห็นว่าอย่างน้อยเราก็ไม่เคยปกป้อง สุดท้ายองค์กรตำรวจอยู่ได้ด้วยความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน ขอโทษพี่น้องประชาชนที่เกิดเรื่องแบบนี้ แต่ยืนยันว่าองค์กรเราเป็นองค์กรที่ตรวจสอบได้ ท่านจะเห็นได้ว่าจะไม่มีตำรวจที่กระทำผิดแล้วพ้นโทษหรือหลบหนี ยศใหญ่แค่ไหน ถ้าทำผิดก็จะถูกลงโทษ

          - ผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ถูกจับกุมตัวแล้ว โดย ผกก.โจ้ อยู่ที่กองปราบ, 5 คน อยู่ที่ สภ.นครสวรรค์, ส่วนอีกคนกำลังขึ้นเครื่องมาจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์

          - ไม่มีนโยบายพาผู้ต้องหามาแถลงข่าว ถ้ามีคำถามจะให้เจ้าหน้าที่ติดต่อทางโทรศัพท์ให้

          - สิ่งที่ ผกก.โจ้ จะพูด และเผยแพร่ไปในที่สาธารณะจะเป็นหลักฐานมัดตัว


ผกก.โจ้ โฟนอิน


          - เต็มใจจะตอบคำถามนักข่าว ข้อหาทั้งหมด ขออนุญาตให้การในชั้นศาล

          - ตนจะเล่าข้อเท็จจริง คือ ตนจับผู้ต้องหาได้ เจอรูปถ่ายในโทรศัพท์ก่อนจะเกิดเหตุ 2 ชั่วโมง มียาไอซ์ 1 กก. ยาบ้า เกือบ 2 หมื่นเม็ด ปกติตนไม่เคยลงไปดูเลย เห็นเป็นเคสใหญ่จึงลงไปดู

          - ตนพยายามสอบถามข้อมูลจากผู้ต้องหา พยายามแล้วแต่ก็ไม่ยอมบอกความจริง ตนยอมรับว่าสิ่งที่ทำไปไม่ถูกต้อง แต่ที่ทำไปก็เพื่อเอาข้อมูลยาเสพติดที่ทำลายพี่น้องประชาชนในนครสวรรค์


          - ยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ตนเป็นนาย ตนสั่งลูกน้องให้ทำเอง สั่งลูกน้องก็ต้องทำ ลูกน้องพยายามห้ามตนแล้ว ที่ทำก็เพื่อการทำงาน เรื่องเงินไม่มี

          - ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน เพิ่งเคยทำครั้งแรก ข้อเท็จจริงเรื่องเงิน 1 ล้าน ขอสาบานต่อพระที่ห้อยคอว่าชีวิตที่รับราชการมา ไม่เคยทุจริตเรื่องเงิน

          - ที่ไม่แจ้งต่อผู้บังคับบัญชาตอนผู้ต้องหาสลบไปนั้น ตอนผู้ต้องหา สลบไปก็ตกใจทำอะไรไม่ถูก เห็นชีพจรอ่อน ก็ช่วยปั๊มหัวใจ แล้วให้ลูกน้องมากู้ชีพและส่งโรงพยาบาล

          - ที่แจ้งกับหมอว่าเสพยาเสพติดเกินขนาด เพราะจากที่คุยกับผู้ต้องหาผู้หญิงที่เป็นแฟนทราบว่าเขาเสพยาแต่ละวันเยอะจริง ๆ แล้วนอนน้อย จึงคาดว่าสาเหตุเสียชีวิตจากการเสพยา


          - ส่วนวิธีการซ้อมทรมานนั้น ตนยอมรับผิดและสิ่งที่เกิดขึ้น แม้ศาลจะตัดสินตลอดชีวิตก็ตาม แต่ขอให้การว่าตนไม่มีเจตนาฆ่าน้อง ตนมีเจตนาทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ไม่ให้ลูกหลานประชาชนติดยาเสพติด

          - ขอโทษพี่น้องประชาชนที่ทำให้เป็นข่าวทั่วโลก ขอโทษพ่อแม่ผู้ตาย เพราะตนไม่ได้เจตนาจริง ๆ ใจจริงก็ทราบว่าน้องไม่ได้ตายเพราะคลุมหัวรีดข้อมูล ขอโทษตำรวจทุกคน ตนผิดเอง ตนตั้งใจทำงานจริง ๆ แต่ทำพลาดไป

          - ยืนยันว่าไม่มีการตบทรัพย์ซ้อนตบทรัพย์

          - หลังจากที่ผู้ต้องหาเสียชีวิต ก็ตกใจ จึงปรึกษากันว่าจะทำยังไงดี ก็แจ้งพ่อผู้ตายก่อน แล้วเดี๋ยวมาคุยกันตั้งแต่วันที่เกิดเหตุเลย ยืนยันไม่มีการให้เงินพ่อผู้ตาย ให้อย่างเดียวคือเงินช่วยงานศพ 3 หมื่นบาท เท่านั้น


          - กรณีที่เอาน้ำสาดผู้ต้องหาที่สลบอยู่นั้น ตนนึกว่าสลบจึงเอาผ้าเช็ดก่อนแล้วเหมือนไม่ตื่น จึงเอาน้ำมาสาดให้เขาตื่น ตอนนั้นตกใจ ไม่เคยเจอแบบนี้ เพราะคิดว่าแค่น็อก สลบไป ตอนแรกคิดว่าเขาแกล้งด้วยซ้ำ

          - ทรัพย์สินทั้งหมดตนมีเอกสารที่ถูกต้องทั้งหมด

          - ที่ผ่านมาไม่เคยซ้อมทรมานผู้ต้องหาแบบนี้ เคสนี้เป็นเคสแรก เพราะเป็นเคสใหญ่ ทราบว่ามีเยอะ เจ้าของของอีกทีเป็นผู้ค้ารายใหญ่มากในภาคกลาง


          - กรณีที่ใช้ถุงคลุมหัวถึง 6 ใบ ถ้าพูดตรง ๆ เพราะเจตนาไม่อยากให้ผู้ต้องหาเห็นหน้าตัวเองเท่านั้น ที่ต้องมัดมือเพราะเขาพยายามจะฉีกถุง

          - ส่วนเรื่องถอดกล้องวงจรปิด ตนยอมรับผิดเพราะเกิดเหตุแล้วช็อก ตนอายุน้อย ประสบการณ์น้อย จึงตกใจและสั่งให้ลูกน้องลบ และมีกล้องบางตัวเสียตนสั่งให้เปลี่ยนก็ยังไม่ได้เปลี่ยน ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วตนจึงสั่งให้ถอด ไม่ทราบว่ามีกล้องวงจรปิดในห้อง

รอง ผบ.ตร. ชี้ นักข่าวถามพอแล้ว ถ้าถามทั้งหมดจะเสียหายต่อรูปคดี


          ส่วนกรณีที่นักข่าวถามว่ารู้สึกยังไงที่ตำรวจชั้นผู้น้อยนำคลิปมาเผยแพร่นั้น ผกก.โจ้ ระบุว่าขอให้ข้อมูลเท่านี้ หลังจากนั้น พล.ต.อ. สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ได้สั่งให้นักข่าวหยุดถามเพราะจะเสียหายต่อรูปคดี ถ้านักข่าวถามทั้งหมดก็เจ๊ง ไม่ต้องดำเนินคดี ส่งฟ้องตอนนี้เลย หรือไม่ส่งฟ้องเลย แล้วแต่ คุณอยากเอายังไง และข้อมูลเท่านี้ก็เกินพอแล้ว ทุกอย่างรายละเอียดให้ไปอยู่ในสำนวน ผบ.ตร. ก็ยืนยันแล้วว่าทุกอย่างเป็นธรรม

ตำรวจ

รอง ผบช.ภ.6 เผย ผกก.โจ้ โทร. ติดต่อขอมอบตัว บอก ไม่ไหวแล้ว จะฆ่าตัวตาย


          ด้าน พล.ต.ต. เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบช.ภ.6 เล่าว่า เมื่อวานนี้ตอนช่วง 23.00 น. มีเบอร์โทร. มา ซึ่งปกติตนรับโทรศัพท์ทุกเบอร์ เมื่อรับโทรศัพท์ก็ได้ยินว่า "พี่เอกครับ ผมโจ้ ผมไม่ไหวแล้ว ผมจะฆ่าตัวตาย" ตนจึงตอบไปว่า

          "มึงตายแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเหลืออะไร ถ้าเป็นลูกผู้ชายจริง กลับมารับผิดชอบสิ่งที่ทำ กลับมาชี้แจงสังคม" ถ้าคุณเป็นตำรวจ คุณต้องมีเกียรติ ผิดก็ต้องยอมรับผิด หนีไปไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมา มีแต่เลวร้าย"
         
          ด้าน ผกก.โจ้ ก็บอกว่า "พรุ่งนี้พี่มารับผมที่ชลบุรี"  

          หลังจากนั้น พล.ต.ต. เอกรักษ์ ก็เรียน ผบช.ภ.6 และ ผบ.ตร. ก็ได้รับอนุมัติให้เดินทาง ออกจากพิษณุโลก 09.00 น. แล้วก็มีโทรศัพท์มาช่วง 12.00 น. ผกก.โจ้ ถามว่า "พี่มารับผมหรือเปล่า ถึงไหนแล้ว" ตนก็บอกว่าอีกประมาณ 2-3 ชั่วโมง เขาก็บอกว่า "4 โมงเย็น พี่มารอหน้า สภ.แสนสุข พี่ยืนคนเดียวนะ อย่ามีอาวุธนะ" ตนก็แต่งเครื่องแบบไปยืนรอหน้า สภ.แสนสุข ประมาณ 15 นาทีก็มีรถยนต์สีขาวมาจอดแล้วก็พบว่าเป็น ผกก.โจ้ เดินลงมาจากรถ และดำเนินการส่งตัวให้กองปราบฯ

ขอบคุณข้อมูลจาก กองปราบปราม Official


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ผกก.โจ้ เปิดหมดเปลือก ไม่มีเจตนาทำให้ตาย - ผบ.ตร. รอง ลั่น นักข่าวถามมากพอแล้ว อัปเดตล่าสุด 27 สิงหาคม 2564 เวลา 14:31:27 14,366 อ่าน
TOP