สรุปประเด็น 5 เดนนรก จากนครสวรรค์ เด็กสาวถูกล่อลวงโดยกลุ่มเพื่อนชาย มีผู้หญิงเห็นเหตุการณ์แต่เลือกที่จะเดินออกจากห้อง พอแจ้งความเรื่องกลับไม่เดิน ด้าน บุ๋ม ปนัดดา ร่วมฟังด้วย
กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงบนโลกออนไลน์ กับแฮชแท็ก 5 เดนนรก ที่กล่าวถึงคดีอื้อฉาวใน จ.นครสวรรค์ เมื่อสาวอายุ 18 ปี คนหนึ่ง ถูกรุมโทรม เรื่องยังไม่คืบ ตำรวจไม่ช่วยตาม สร้างตราบาปในจิตใจให้เด็กตลอดกาล จนต้องนำเรื่องนี้มาพูดใน Clubhouse
ตัวละคร
- น.ส.เอ (เหยื่อ)
- น.ส.บี (เพื่อนนางสาวเอ)
- นายซี (เพื่อน น.ส.บี ที่ น.ส.บี แนะนำ น.ส.เอ ให้รู้จัก)
- น้องผู้หญิง (นางนกต่อ)
- นาย 1, 2, 3, 4 (ผู้ชายที่ก่อเหตุ)
เรื่องเกิดเมื่อปีใหม่ จากการรู้จักเพื่อนคนหนึ่ง นำไปสู่การรู้จักหนึ่งในมัจจุราช ผู้มอบความขมขื่นให้ชีวิตลูกผู้หญิง
เรื่องนี้เกิดจาก น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุประมาณ 18 ปี รู้จักกับ น.ส.บี (นามสมมุติ) และ น.ส.บี ก็ชวนน.ส.เอ ไปฉลองกันในช่วงวันขึ้นปีใหม่ ซึ่ง น.ส.เอ ก็ตกลงไป แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งต่อมาทั้งคู่ก็ยังคุยกันผ่านเฟซบุ๊ก แต่ไม่ค่อยได้เจอกัน
อยู่มาวันหนึ่ง น.ส.บี ไปเที่ยวบ้านเพื่อนคือ นายซี (นามสมมุติ) ซึ่ง น.ส.เอ ก็ตกลงไปอีก ซึ่งการชวนกันไปนั้นเป็นการชวนกันไปดื่มแอลกอฮอล์ จนกระทั่งถึงประมาณตี 1-2 น.ส.เอ ในช่วงนั้นมีปัญหาครอบครัว ที่บ้านไม่อยากให้ไปไหน เลยนั่งกินดื่มกันต่อ จากนั้นช่วงระหว่างตี 2-3 น.ส.เอ ก็กลับบ้าน โดยมีเพื่อนผู้หญิงพากลับบ้าน เหตุการณ์ในวันนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น
น.ส.บี ชวนเหยื่อไปที่บ้านของแฟน ก่อนที่ น.ส.เอ ไม่อยากเป็น กขค. จบที่การยอมไปเจอนายซี
ระยะเวลาผ่านไปอีก 3-4 เดือน น.ส.บี ก็ติดต่อมาหา น.ส.เอ เพราะ น.ส.บี รู้จักกับผู้ชายคนหนึ่ง ไม่เคยเจอหน้ากันและจะไปหาผู้ชายคนนั้น อยากให้ น.ส.เอ ไปเป็นเพื่อน ซึ่ง น.ส.เอ ก็ตกลงที่จะไป จนกระทั่งเวลา 23.00 น. แฟนของ น.ส.บี ก็มารับ และตกลงไปบ้านแฟนกัน
ทั้งหมด 3 คนนั่งเล่นกันเรื่อย ๆ จนประมาณ 01.50 น. ก็เริ่มแยกย้ายกันไปนอน แต่แล้วนายซีก็โทร. มาหา น.ส.เอ บอกว่ามานั่งเล่นกันไหม สถานที่อยู่ไม่ไกล น.ส.เอ เลยถามว่าทำไมไม่ชวนคนอื่น นายซีก็บอกว่ามานั่งเล่นเฉย ๆ ไม่มีอะไร และเอารถมารับ พร้อมกับถ่ายภาพรถกระบะให้ดูว่าไม่มีอะไร ซึ่งก่อนจะออกไป น.ส.บี ก็ถาม น.ส.เอ ว่าจะไปไหน น.ส.เอ ก็ตอบตามนั้น ทำให้ น.ส.บี ไว้ใจ และบอกว่าดูแลตัวเองดี ๆ
พิรุธเริ่มมา รถของนายซีที่บอกว่าไม่มีใคร พอเจอหน้างานกลับมีผู้ชายเต็มคันรถ
อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงรถกระบะของนายซี กลับพบว่าไม่ได้มาคนเดียว แต่มีผู้ชาย 6-7 คนนั่งท้ายกระบะ ในรถกระบะก็มีผู้ชายอีก 3 คน และผู้หญิงอีก 1 คน น.ส.เอ เริ่มไม่ไว้ใจนายซี เลยถามว่าทำไมผู้ชายมาเยอะจัง แต่นายซีบอกว่าไม่ต้องกังวล เพราะมีผู้หญิงมาด้วย เมื่อ น.ส.เอ ยอมขึ้นรถกระบะไป ก็พบว่าในรถกระบะเงียบมาก จนมาจอดที่บ้านหลังหนึ่ง
น.ส.เอ ถามว่า นี่บ้านของใคร นายซี บอกว่า นี่บ้านของเพื่อน ทุกคนเดินเข้าไปในบ้านหลังนั้น เหลือเพียงแค่ น.ส.เอ กับผู้หญิงอีกคนที่มากับรถกระบะ น้องผู้หญิงคนนั้นถามว่าไม่เข้าไปเหรอ น.ส.เอ บอกว่า ให้ผู้ชายเข้าไปก่อน น้องผู้หญิงจึงจูงมือ น.ส.เอ เข้าบ้าน และพากันไปนั่งที่ห้องห้องหนึ่งในบ้านและเล่นโทรศัพท์
เหตุการณ์สุดระทึก เมื่อผู้ชายหลั่งไหลเข้ามาในห้อง จนกลายเป็นความทรงจำที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิตลูกผู้หญิง
จากนั้นก็มีเสียงเคาะประตู น้องผู้หญิงก็เดินไปเปิดประตู และกลุ่มผู้ชายก็เข้ามาในห้อง แต่ไม่มีใครพูดอะไร น.ส.เอ พยายามถามน้องผู้หญิงว่ารู้จักคนที่เข้ามาไหม แต่น้องผู้หญิงไม่ตอบ สักพักน้องผู้หญิงก็เดินออกไปเข้าห้องน้ำและกลับมาไม่พูดอะไร ซึ่งกลุ่มผู้ชายก็เริ่มเข้ามาประชิดตัวของ น.ส.เอ สะกิดบ้าง ชวนคุยบ้าง น.ส.เอ พยายามหันไปขอความช่วยเหลือจากน้องผู้หญิง แต่น้องผู้หญิงก็ไม่พูดอะไร จนกระทั่งผู้ชายเริ่มประชิด น.ส.เอ แรงขึ้น จับตัวแรงขึ้น ทำให้น้องผู้หญิงเดินออกไปจากห้อง แล้วกลุ่มผู้ชายจึงรุมโทรม น.ส.เอ ทั้งหมด 4 คน และยืนดูอีก 1 คน
ต่อมาน้องผู้หญิงก็เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากหน้าต่าง ก็เลยถามว่าเกิดอะไรขึ้น และไล่กลุ่มผู้ชายออกไปจากห้อง เหลือเพียง น.ส.เอ อยู่ในห้อง น้องผู้หญิงเลยบอกให้รีบออกไป เมื่อออกมาแล้วทุกคนก็ทำตัวตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น น.ส.เอ ทนไม่ไหวเลยนั่งร้องไห้หน้าบ้าน นายซีที่พา น.ส.เอ มาก็ถามว่าเป็นอะไร น.ส.เอ ก็บอกนายซีว่าไม่ได้เป็นอะไร และให้นายซีไปส่งที่บ้านแฟนของ น.ส.บี ตอนประมาณ 06.00 น.
มาถึงบ้านเพื่อน กับปฏิบัติการไล่ล่าตัวคนทำ อ้างรู้เห็นเหตุการณ์ แต่ทำอะไรไม่ได้
เมื่อมาถึงบ้านแฟนของ น.ส.บี น.ส.เอ ก็ปลุก น.ส.บี และบอกว่ามาถึงแล้วนะ และถามว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะตาบวม น.ส.เอ เลยเล่าทุกอย่างให้ น.ส.บี ฟัง น.ส.บี จึงไปถามนายซีว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นายซีไม่ตอบและอ้างว่าขับรถอยู่ น.ส.บี พยายามเอาข้อมูลจาก น.ส.เอ ให้ได้มากที่สุด ทั้งรูปพรรณสัณฐานคนร้าย น.ส.เอ ก็พยายามเล่าให้ฟัง แต่ไม่รู้จักคนทำจริง ๆ ซึ่ง น.ส.บี รู้จักน้องสาวของนายซี จึงทักไปหา น้องสาวของนายซีบอกว่า รู้เห็นเหตุการณ์แต่เข้าไปช่วยไม่ทัน เพราะห้องโดนล็อกเอาไว้
จากนั้น น.ส.เอ ก็กลับบ้าน และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้คุณแม่ฟัง คุณแม่ก็ถามว่าคนทำคือใคร และเพื่อน ๆ ก็พยายามช่วยกันหารูป จนกระทั่งได้รูปนาย 1, 2, 3 แต่ไม่เจอนาย 4 คุณแม่เลยพยายามติดต่อทั้ง 3 คน แต่ไม่มีใครตอบ และติดต่อไปหานายซี แต่นายซีก็ไม่ตอบ จนกระทั่งติดต่อไปหาน้องผู้หญิงที่อยู่ในรถกระบะด้วยคนนั้น น้องผู้หญิงก็เลยติดต่อทั้งหมดให้
อ้างเมา จำไม่ได้ ทั้งที่รุมโทรมผู้หญิง - ตำรวจเหมือนจะตามเรื่องให้ แต่สุดท้ายเรื่องเงียบ
จากนั้นน้องผู้หญิงก็พานาย 1, 2, 3 มา ส่วนนาย 4 นั้นติดต่อไม่ได้ คุณแม่ก็พยายามซักไซ้ทั้ง 3 คน ซึ่งทั้ง 3 คนบอกว่าเมา ไม่รู้เรื่อง คุณแม่พยายามเค้นหาให้ได้ว่านาย 4 คือใคร แต่ก็หาไม่ได้ จึงพาทั้งหมดไปโรงพัก และคนที่ทำทั้ง 3 คนก็ตอบตำรวจเหมือนกันว่านาย 4 ไม่มา ทำได้แค่บอกลักษณะรูปพรรณของนาย 4 คือ อวบ หน้าแก่ สวมกางเกงยีนส์ขายาว เสื้อตัดอ้อย หมวกสีดำ
จากนั้นตำรวจก็สอบสวนนาย 1, 2, 3 และทั้งหมดก็รับสารภาพ มีการนั่งพูดคุยเคลียร์กัน และนัดทั้งหมดมาอีกในอาทิตย์หน้า พอวันนัดมาถึง นาย 1, 2, 3 ก็มา ตำรวจสอบสวนจนถึงบ่าย 3 แต่สอบสวนอย่างไรก็สาวไปไม่ถึงนาย 4 และมีการนัดมาสอบสวนใหม่เรื่อย ๆ ทุกครั้งที่นัดความคืบหน้าก็น้อย เจอแค่ชื่อจริง ไม่เจอตัวคนทำบ้าง ติดโน่นติดนี่บ้าง จนสุดท้ายเมื่อพยายามสอบถาม กลับกลายเป็นว่าตำรวจก็เงียบหายไป ไม่อ่านไลน์ โทร. ไปไม่รับ ความคืบหน้าไม่มี จนเรื่องนี้เงียบหายไป
ความคิดเห็น บุ๋ม ปนัดดา - มธุสอน ตำรวจตามนาย 4 ไม่เจอ แต่โซเชียลตามเจอ พร้อมช่วยน้องเอให้ได้รับความเป็นธรรม
ด้าน บุ๋ม ปนัดดา ให้ความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ว่า จะตามเรื่องนี้จากร้อยเวรให้ และช่วงนี้ติดโควิด การทำงานจะค่อนข้างยาก ไหนจะเรื่องการสอบสวนที่ไม่รู้ว่าคนที่มาให้ปากคำจะติดโควิดไหม และทีมมธุสอนก็บอกว่า อย่างไรคนที่ล่อลวงไม่ว่าจะอยู่ในห้องนั้น ไม่ว่าจะลงมือกระทำ หรือแค่ยืนดูเฉย ๆ ทั้งหมดมีความผิด ในข้อหารู้เห็นเป็นใจ และมีเปอร์เซ็นต์น้อยมากที่จะไม่รู้ว่านาย 4 คือใคร ซึ่งทางทีมก็ได้ไปขุดมาจนเจอตัวนาย 1, 2, 3, 4 รวมไปถึงน้องผู้หญิงที่เป็นนางนกต่อแล้วด้วย