รู้จัก อูบัง หมู่บ้านสุดพิเศษ ชาย - หญิง พูดคนละภาษา แม้อาศัยอยู่ร่วมชุมชนเดียวกัน

 

              รู้จัก หมู่บ้านอูบัง ชุมชนเกษตรกรรมในไนจีเรีย กับความพิเศษที่ไม่มีใครเหมือน ชาย หญิง พูดคนละภาษา สุดภูมิใจเป็นของพรจากพระเจ้า

           จากรายงานของเว็บไซต์อ็อดดิตี้เซ็นทรั เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2564 เผยว่า วัฒนธรรม 2 ภาษาอันเป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้านแห่งนี้ เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ และเริ่มได้อย่างไรนั้นยังไม่มีใครรู้ เพราะเท่าที่ชาวบ้านจำความได้ พวกเขาก็ใช้ภาษาแยกกันระหว่างผู้ชายและผู้หญิงมาโดยตลอด

           สำหรับความแตกต่างของทั้ง 2 ภาษานั้น ยังไม่ชัดเจนว่ามีสัดส่วนของศัพท์ที่แตกต่างกันมากแค่ไหน แต่พบว่าคำในประโยคที่ผู้ชายและผู้หญิงพูดนั้น มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ดังเช่นคำว่า เสื้อผ้า ผู้ชายจะใช้คำว่า "nki" ส่วนผู้หญิงใช้คำว่า "ariga" และคำว่า ต้นไม้ ผู้ชายใช้คำว่า "kitchi" ส่วนผู้หญิงใช้ว่า "okweng"
 
           เมื่อดูจากคำศัพท์จะพบว่าทั้ง 2 คำที่ชายและหญิงใช้นั้น มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงแบบเป็นคำศัพท์คนละคำ ไม่ใช่เพียงเสียงที่แตกต่างของคำที่คล้ายคลึงกัน โดย ชิ ชิ อันดี นักมานุษยวิทยา เผยกับบีบีซีว่า แม้จะมีอยู่หลายคำที่ผู้ชายและผู้หญิงใช้เหมือนกัน แต่คำอื่น ๆ นั้นจะมีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงระหว่างผู้ชายและผู้หญิง ขึ้นอยู่กับเพศของพวกเขา
 
           ที่น่าสนใจคือแม้จะคุยกันคนละภาษา แต่ทั้ง 2 เพศก็ยังสามารถเข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายพูดได้อย่างสมบูรณ์ นั่นเป็นเพราะเด็ก ๆ จะเติบโตมากับครอบครัวที่พ่อและแม่พูดคนละภาษา ทำให้พวกเขาได้เรียนรู้ทั้ง 2 ภาษา อย่างไรก็ตาม เมื่อเด็กเติบโตจนถึงอายุ 10 ขวบ จะมีความคาดหวังให้เด็กชายใช้ภาษาสำหรับผู้ชาย

           "เมื่อถึงจุดหนึ่งของเด็กชาย พวกเขาจะพบว่าตัวเองใช้ภาษาได้ไม่ถูกต้อง ไม่มีใครไปบอกหรอกว่าเขาควรเปลี่ยนไปใช้ภาษาของผู้ชาย แต่ในตอนที่เขาเริ่มพูดภาษาของผู้ชาย คุณจะรู้ได้ว่าเขาเริ่มมีวุฒิภาวะแล้ว" หัวหน้าโอลิเวอร์ อิบัง ชาวบ้านในหมู่บ้านอูบัง กล่าว

           ในขณะที่ไม่มีใครรู้ชัดว่าจุดเริ่มต้นของการใช้ 2 ภาษาเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ชาวบ้านส่วนมากชอบทฤษฎีที่ระบุว่า พระเจ้าสร้าง อดัม กับ อัฟ ขึ้นมา พวกเขาเป็นชาวอูบัง เดิมพระเจ้าวางแผนจะมอบ 2 ภาษาให้แก่แต่ละกลุ่มชาติพันธุ์ แต่เมื่อพระองค์สร้างภาษาให้ชาวอูบังแล้ว ก็ทรงตระหนักว่ามีภาษาไม่เพียงพอที่จะใช้กัน จึงหยุด นั่นเป็นเหตุผลที่หมู่บ้านอูบังมี 2 ภาษา ทำให้พวกเขาแตกต่างจากคนอื่น ๆ บนโลก

           อย่างไรก็ตาม ด้าน ชิ ชิ อันดี เชื่อว่าภาษาที่แตกต่าง เป็นผลมาจากวัฒนธรรมของชายหญิงที่มีการแบ่งขอบเขตงานและการใช้ชีวิตที่ต่างกัน แต่เธอยอมรับว่าทฤษฎีนี้ค่อนข้างอ่อน เนื่องจากมีชุมชนอื่น ๆ ที่ใช้ชีวิตเช่นนี้ในหลาย ๆ พื้นที่ของแอฟริกา แต่กลับไม่มีความแตกต่างด้านภาษาระหว่างชายและหญิง

           แม้ชาวอูบังจะมองว่าการมี 2 ภาษาแยกระหว่างชายและหญิงเป็นเหมือนของขวัญจากพระเจ้า ทว่าขณะนี้ ภาษาอังกฤษ เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในกลุ่มคนหนุ่มสาว ทำให้มีความเสี่ยงที่วัฒนธรรม 2 ภาษานี้อาจจะเลือนหายไปในที่สุด เว้นเสียจากคนหนุ่มสาวในยุคนี้จะยังสืบสาน และส่งต่อภาษาของพวกเขาไปถึงเด็กรุ่นต่อ ๆ ไป  
ขอบคุณข้อมูลจาก อ็อดดิตี้เซ็นทรัล, บีบีซี