ศักดิ์สยาม โต้ภาพปาร์ตี้ทองหล่อโยงเป็นต้นตอโควิด อ้างในแก้ว...มันคือนมเย็น

 

          ศักดิ์สยาม โต้ มงคลกิตติ์ ปมโดนกล่าวหาเป็นต้นตอของโควิด ซัดภาพปาร์ตี้เป็นภาพเก่าที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2563 ส่วนเครื่องดื่มในแก้ว มันเป็นนมเย็น แบบนี้จะเรียกว่าเป็นคนเสเพลได้ยังไง ส่วนที่ติดเชื้อคือติดมาจากคนร่วมงาน
          จากกรณีที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ อภิปรายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็น Man Of The Years 2021 เพราะเป็นรัฐมนตรีคนเดียวที่ติดโควิด-19 เป็นต้นตอของคลัสเตอร์ทองหล่อ รวมถึงมีการเปิดภาพนายศักดิ์สยามนั่งรับประทานอาหารร่วมกับผู้หญิงอีก 4 คน ซึ่งผู้หญิงก็ไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย ถือว่าทำผิด พ.ร.บ.โรคติดต่อ ทำไมนายศักดิ์สยามที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐถึงไม่เตือน

          วันที่ 3 กันยายน 2564 ไทยพีบีเอส รายงานว่า นายศักดิ์สยาม ตอบชี้แจงนายมงคลกิตติ์ที่กล่าวหา เป็นต้นตอของการแพร่ระบาดของโควิด 19 ทำตัวไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง ว่า การกล่าวหาตนว่าประพฤติไม่เหมาะสม เสเพล และนำภาพของตนที่รับประทานอาหารหรือร้องเพลงมานั้น ตนอยากถามกลับว่า คน ๆ หนึ่งจะมีเพื่อนและไปพักผ่อนนอกเวลาราชการไม่ได้เหรอ ส่วนภาพที่นำมานำเสนอนั้นป็นภาพเก่าทีเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2563 เกี่ยวอะไรกับการระบาดในเดือนเมษายน แบบนี้เป็นการเอารูปมาปะติดปะต่อเพื่อทำให้คนเข้าใจผิดหรือไม่

          ทั้งนี้ ช่วงนั้นแม้ไม่ได้อยู่ในช่วงระบาด แต่ตนก็พยายามป้องกันด้วยการสวมหน้ากากอนามัย และเครื่องดื่มที่อยู่บนโต๊ะนั้นก็คือนมเย็น ถ้ากินนมเย็นแล้วถือว่าเสเพลก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว
          ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ตนอยู่ในที่ที่มีสุภาพสตรี อยู่ในร้านคาราโอเกะ ข้อเท็จจริงคือ ตนเคยไป เป็นเรื่องปกติของชายโสดแล้วอยากไปพักผ่อนนอกเวลาราชการ แต่ไม่เคยไปช่วงที่มีการระบาดแน่นอน นอกจากนี้ ผู้หญิงที่ถูกพาดพิงก็เป็นรุ่นน้องที่เชิญตนไปงานเลี้ยงสละโสดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2563 ฉะนั้นการใช้คำว่าเสเพลนั้น ต้องถามกลับว่าเคยเปิดพจนานุกรมหรือไม่

          นอกจากนี้ ตนยังทำหนังสือสอบถามไปยังกรมควบคุมโรค ซึ่งทางนั้นก็ตอบกลับมาว่า ตนไม่ได้เป็นต้นตอการระบาดของการแพร่ระบาดในปัจจุบัน เนื่องจากไม่พบประวัติการไปสถานบันเทิงย่านทองหล่อ แต่สัมผัสผู้ป่วยยืนยันโรคในขณะทำงาน แต่หลักฐานที่จะยืนยันว่าตนเป็นคนแพร่เชื้อหรือไม่ คือ วันที่ 6 เมษายน 2564 ซึ่งพรรคภูมิใจไทยได้จัดงานทำบุญพรรค ก็ไม่มีคนที่มาร่วมงานติดเชื้อจากตนเอง

         การที่อภิปรายไม่ไว้วางใจโดยกล่วาหาด้วยหลักฐานอันเป็นเท็จทำให้ผู้อื่นเสียหาย ไม่น่าเป็นบรรทัดฐานที่ดี เพราะสภาแห่งนี้เป็นสภาพทรงเกียรติ รวมถึงตัวท่านเองก็มีคดีที่ถูกฟ้องร้องที่บุรีรัมย์ ฉะนั้นหลังสมัยปิดประชุม ก็ไปพิสูจน์ความจริงด้วย อย่ามัวแต่ใช้โซเชียล


ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยพีบีเอส