ชาวบ้านร้องทุกข์ โดนแก๊ง ตร. นอกเครื่องแบบ บุกบ้านจับคดียาเสพติด แต่แอบเนียนขโมยเงินหมื่นเข้ากระเป๋า ไม่รู้ติดกล้องไว้รอบบ้านภาพชัดแจ๋ว แจ้งความแล้วกว่า 6 เดือน คดีไม่คืบ เงินก็ยังไม่ได้คืน
จากกรณีโลกออนไลน์มีการเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 7-8 คน ลักษณะคล้ายตำรวจนอกเครื่องแบบ พร้อมอาวุธปืนครบมือบุกเข้าบ้านของครอบครัวหนึ่ง และจับกุมลูกชาย มีการทำร้ายร่างกายต่อหน้าพ่อด้วย
โดยกลุ่มชายดังกล่าวไม่ทราบมาก่อนว่าภายในบ้านติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ทุกมุม ที่สำคัญกล้องสามารถบันทึกหลักฐานหนึ่งในนั้นเป็นชายสวมเสื้อยืดสีขาว แอบขโมยเงินปึกใหญ่ของคนในบ้านเข้ากระเป๋ากางเกงแบบเนียน ๆ
ล่าสุด (6 กันยายน 2564) เรื่องเล่าเช้านี้ ได้สอบถามไปยังนายบุญยืน อายุ 59 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ในพื้นที่บ้านหลุง ต.บ้านชวน อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ เล่าว่า วันเกิดเหตุตนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ยอมรับรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ตอนนั้นกำลังนอนที่เปลชั้นล่างเล่นกับหลานอยู่ จู่ ๆ ก็มีชายฉกรรจ์วิ่งเข้ามาในบ้าน สั่งให้ตนและภรรยานั่งลงอย่าขัดขืน พร้อมอ้างเป็นตำรวจ ป.ป.ส.
จากนั้นได้วิ่งขึ้นไปบนบ้านชั้นสอง ที่มีนายท็อปลูกชายกำลังนั่งทำงานอยู่ ตนรู้สึกเป็นห่วงจึงวิ่งตามขึ้นไปดู ก็พบลูกกำลังถูกทำร้ายร่างกาย จึงพยายามเข้าไปช่วย แต่ตำรวจผลักตนออกมาก่อนนำตัวลูกชายไป
ขณะนั้นตนไม่ทราบว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ จึงไปแจ้งความ สภ.บำเหน็จณรงค์ พร้อมนำภาพกล้องวงจรปิดไปประกอบเป็นหลักฐาน ซึ่งต่อมาทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนจากจังหวัดชัยภูมิ ตนจึงเดินทางไปที่กองสืบสวนเพื่อขอทราบความเป็นอยู่ลูกชาย ก่อนทราบว่าลูกทำผิดจริงโดยการตรวจหาสารเสพติดพบฉี่ม่วงและถูกดำเนินคดีตามขั้นตอน
ต่อมาตนกลับมาบ้าน ภรรยาบอกว่ามีทรัพย์สินสูญหายไป คือเงินสดรวม 32,460 บาท โดยเงินถูกแบ่งเก็บแยกไว้สองส่วน ส่วนที่หนึ่งจำนวน 19,000 บาท เก็บไว้ในกระเป๋าสีเหลือง และอีก 13,460 บาท ถูกเก็บไว้ในกระเป๋าสีเทา ตนและลูกชายจึงเปิดกล้องวงจรปิดดู พบว่ากระเป๋าสีเทามีตำรวจนายหนึ่งถือติดมือไป
ส่วนกระเป๋าสีเหลืองยังคงวางทิ้งไว้ที่โต๊ะทำงานเหมือนเดิม จึงมาเช็กภาพจากกล้องอย่างละเอียดอีกครั้งก็พบว่าตำรวจสวมเสื้อสีขาวกำลังกำสิ่งของบางอย่างคล้ายธนบัตร แอบยัดใส่กระเป๋ากางเกงด้วย ซึ่งวันต่อมาตนได้ไปติดตามทวงถาม ตำรวจคืนเงินกลับมาให้จำนวน 13,460 บาท ซึ่งเป็นจำนวนที่อยู่ในกระเป๋าสีเทา
ทั้งนี้เงินทั้งหมดนั้น เป็นเงินเก็บบางส่วนและเงินจากการขายวัว 2 ตัว ซึ่งจะเก็บไว้ใช้จ่ายในครอบครัว ตนเชื่อว่าเงินที่หายไปจะต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดที่เข้ามาทำการจับกุมในวันนั้นมีส่วนรู้เห็นอย่างแน่นอน และตนมองว่าครอบครัวไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเข้าแจ้งความกับ สภ.บำเหน็จณรงค์
จนเวลาล่วงเลยไปนานกว่า 6 เดือน คดีไม่มีความคืบหน้า จึงให้ลูกชายโพสต์คลิปลงโซเชียลเพื่อขอควมเป็นธรรม และจะขอดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้
จากกรณีโลกออนไลน์มีการเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 7-8 คน ลักษณะคล้ายตำรวจนอกเครื่องแบบ พร้อมอาวุธปืนครบมือบุกเข้าบ้านของครอบครัวหนึ่ง และจับกุมลูกชาย มีการทำร้ายร่างกายต่อหน้าพ่อด้วย
โดยกลุ่มชายดังกล่าวไม่ทราบมาก่อนว่าภายในบ้านติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ทุกมุม ที่สำคัญกล้องสามารถบันทึกหลักฐานหนึ่งในนั้นเป็นชายสวมเสื้อยืดสีขาว แอบขโมยเงินปึกใหญ่ของคนในบ้านเข้ากระเป๋ากางเกงแบบเนียน ๆ
ล่าสุด (6 กันยายน 2564) เรื่องเล่าเช้านี้ ได้สอบถามไปยังนายบุญยืน อายุ 59 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ในพื้นที่บ้านหลุง ต.บ้านชวน อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ เล่าว่า วันเกิดเหตุตนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ยอมรับรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ตอนนั้นกำลังนอนที่เปลชั้นล่างเล่นกับหลานอยู่ จู่ ๆ ก็มีชายฉกรรจ์วิ่งเข้ามาในบ้าน สั่งให้ตนและภรรยานั่งลงอย่าขัดขืน พร้อมอ้างเป็นตำรวจ ป.ป.ส.
จากนั้นได้วิ่งขึ้นไปบนบ้านชั้นสอง ที่มีนายท็อปลูกชายกำลังนั่งทำงานอยู่ ตนรู้สึกเป็นห่วงจึงวิ่งตามขึ้นไปดู ก็พบลูกกำลังถูกทำร้ายร่างกาย จึงพยายามเข้าไปช่วย แต่ตำรวจผลักตนออกมาก่อนนำตัวลูกชายไป
ขณะนั้นตนไม่ทราบว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ จึงไปแจ้งความ สภ.บำเหน็จณรงค์ พร้อมนำภาพกล้องวงจรปิดไปประกอบเป็นหลักฐาน ซึ่งต่อมาทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนจากจังหวัดชัยภูมิ ตนจึงเดินทางไปที่กองสืบสวนเพื่อขอทราบความเป็นอยู่ลูกชาย ก่อนทราบว่าลูกทำผิดจริงโดยการตรวจหาสารเสพติดพบฉี่ม่วงและถูกดำเนินคดีตามขั้นตอน
ต่อมาตนกลับมาบ้าน ภรรยาบอกว่ามีทรัพย์สินสูญหายไป คือเงินสดรวม 32,460 บาท โดยเงินถูกแบ่งเก็บแยกไว้สองส่วน ส่วนที่หนึ่งจำนวน 19,000 บาท เก็บไว้ในกระเป๋าสีเหลือง และอีก 13,460 บาท ถูกเก็บไว้ในกระเป๋าสีเทา ตนและลูกชายจึงเปิดกล้องวงจรปิดดู พบว่ากระเป๋าสีเทามีตำรวจนายหนึ่งถือติดมือไป
ส่วนกระเป๋าสีเหลืองยังคงวางทิ้งไว้ที่โต๊ะทำงานเหมือนเดิม จึงมาเช็กภาพจากกล้องอย่างละเอียดอีกครั้งก็พบว่าตำรวจสวมเสื้อสีขาวกำลังกำสิ่งของบางอย่างคล้ายธนบัตร แอบยัดใส่กระเป๋ากางเกงด้วย ซึ่งวันต่อมาตนได้ไปติดตามทวงถาม ตำรวจคืนเงินกลับมาให้จำนวน 13,460 บาท ซึ่งเป็นจำนวนที่อยู่ในกระเป๋าสีเทา
ทั้งนี้เงินทั้งหมดนั้น เป็นเงินเก็บบางส่วนและเงินจากการขายวัว 2 ตัว ซึ่งจะเก็บไว้ใช้จ่ายในครอบครัว ตนเชื่อว่าเงินที่หายไปจะต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดที่เข้ามาทำการจับกุมในวันนั้นมีส่วนรู้เห็นอย่างแน่นอน และตนมองว่าครอบครัวไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเข้าแจ้งความกับ สภ.บำเหน็จณรงค์
จนเวลาล่วงเลยไปนานกว่า 6 เดือน คดีไม่มีความคืบหน้า จึงให้ลูกชายโพสต์คลิปลงโซเชียลเพื่อขอควมเป็นธรรม และจะขอดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้
