เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2564 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนาม ICU สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ระดับสีแดง ในโครงการลมหายใจเดียวกัน กลุ่ม ปตท. บนพื้นที่ 4 ไร่ ด้านหน้าโรงพยาบาลปิยะเวท เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ พร้อมด้วย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานกรรมการ ปตท. นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พญ.เจรียง จันทรกมล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลในเครือบางปะกอก-ปิยะเวท นพ.วิทิต อรรถเวชกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท โรงพยาบาลปิยะเวท จำกัด (มหาชน) พร้อมคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับ
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. กล่าวว่า กลุ่ม ปตท. ตระหนักถึงความสำคัญเร่งด่วนในการร่วมแก้ปัญหาโควิด-19 ซึ่งเป็นวิกฤตใหญ่ของประเทศ โดยตั้งแต่มกราคม 2563 ถึงปัจจุบัน กลุ่ม ปตท. ได้จัดสรรงบประมาณกว่า 1,700 ล้านบาท เพื่อช่วยบรรเทาสถานการณ์ความรุนแรงในหลายด้าน จนนำมาสู่การจัดตั้ง "โครงการลมหายใจเดียวกัน" ขึ้นในปี 2564 เพื่อแบ่งเบาภาระของภาครัฐ และร่วมดูแลประชาชน โดยเฉพาะการมอบเครื่องช่วยหายใจ ออกซิเจนเหลว อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น ให้แก่โรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ
และในขณะนี้ที่สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย กลุ่ม ปตท. เล็งเห็นถึงความสำคัญของการผนึกพลังกับภาครัฐและเอกชน ในการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 มุ่งตรวจเร็ว แยกเร็ว รักษาเร็ว เพื่อให้ประชาชนผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากเหล่านี้ไปให้ได้ จึงได้จัดตั้งหน่วยคัดกรองโควิด-19 เปิดคัดกรองเฉลี่ยวันละ 1,000 - 1,200 คน เมื่อพบว่าติดเชื้อจะคัดแยกและให้ยารักษาทันที
ทั้งนี้ในระยะเวลาเพียง 1 เดือน (9 สิงหาคม - 8 กันยายน 2564) หน่วยคัดกรองโควิด-19 และโรงพยาบาลสนามครบวงจร กลุ่ม ปตท. ให้บริการคัดกรองแก่ประชาชนไปแล้วกว่า 23,000 ราย ให้การรักษาผู้ติดเชื้อกว่า 2,600 ราย ในทุกระดับอาการ ขณะนี้มีผู้หายป่วยจากการรักษาในโครงการฯ แล้วจำนวนกว่า 1,100 ราย คิดเป็นร้อยละ 42 ทั้งนี้ จะเปิดให้บริการไปจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศจะผ่านพ้นไป
กลุ่ม ปตท. ขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน
และส่งเสริมการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์
จนกว่าสถานการณ์โควิด-19 จะผ่านพ้นไป
ด้วยเชื่อว่าคนไทยทุกคนล้วนมีลมหายใจเดียวกัน
จึงขอเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์
และคนไทยก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน