ทนายตั้ม ยันไม่ได้รับงานกลั่นแกล้ง หลังนำคลิปอดีตผู้กำกับโจ้ ให้จเรตำรวจ ส่วนคณะกรรมการจเรฯ เตรียมแจ้งข้อหาผิดวินัยร้ายแรงตำรวจ 7 สัปดาห์
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เปิดเผยภายหลังเข้าให้ปากคำกับ พล.ต.ท. สราวุฒิ การพานิชย์ รองจเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการจเรตำรวจ ตรวจสอบวินัยร้ายแรง กรณีเหตุการณ์อดีตผู้กำกับโจ้ ใช้ถุงดำครอบหัวผู้ต้องหาคดีเสพติด โดยใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง นายษิทรา ระบุว่า วันนี้ได้นำคลิปที่มีการโพสต์ในลงสื่อต่าง ๆ มามอบให้กับคณะกรรมการจเรตำรวจ ตรวจสอบในคดีตำรวจ 7 นาย ซ้อมทรมานผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิต ก่อนที่จะนำเข้าสู่สำนวนคดี
เบื้องต้นทราบว่า คณะกรรมการจเรตำรวจได้ดำเนินการแจ้งข้อหาผิดวินัยร้ายแรงกับตำรวจทั้ง 7 นายแล้ว โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งให้ดำเนินการอย่างรวดเร็ว อีกทั้งการสอบปากคำในวันนี้ ทางคณะได้สอบถามถึงที่มาของคลิปดังกล่าว โดยตนได้ให้ข้อมูลว่า มาจากตำรวจชั้นผู้น้อยนายหนึ่ง และหลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก ซึ่งทางคณะกรรมการฯ ก็ไม่ได้กดดันให้บอกรายละเอียดทั้งหมด รวมทั้งการเข้าให้ปากคำในวันนี้ ถือว่าตัวเองเป็นปากสุดท้ายในฐานะพยาน พร้อมยืนยันว่าตัวเองไม่ได้รับงานมาจากใคร เพื่อโจมตีอดีตผู้กำกับโจ้ หรือกลั่นแกล้ง เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยเจอและไม่เคยรู้จักกับตำรวจทั้ง 7 นายเป็นการส่วนตัว ส่วนอดีตผู้กำกับโจ้ ยอมรับว่าเคยเจอเพียง 1 ครั้งเท่านั้น
ขณะเดียวกันคณะกรรมการจเรตำรวจ เปิดเผยการสอบสวนเบื้องต้น ว่า มีมติแจ้งผิดข้อหาวินัยร้ายแรงกับตำรวจทั้ง 7 นาย ส่วนคลิปที่ได้รับจากทนายตั้มนั้น จะนำส่งให้กองพิสูจน์หลักฐาน ดำเนินการตรวจพิสูจน์ตามขั้นตอนการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานเข้าสู่สำนวนคดี รวมถึงตรวจสอบวิเคราะห์ คัดแยกเสียงในคลิปดังกล่าว เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติม เช่น ว่ามีการเรียกรับเงินหรือไม่ โดยคาดว่า จะทราบผลการตรวจสอบพยานหลักฐานทั้งหมดภายในสัปดาห์นี้ และในสัปดาห์หน้า จะเข้าแจ้งข้อกล่าวหาผิดวินัยร้ายแรงกับตำรวจทั้ง 7 นาย ที่เรือนจำคลองเปรม เพื่อให้ทั้ง 7 ราย ชี้แจงข้อเท็จจริงตามกระบวนการพิจารณาโทษต่อไป
ข้อมูลจาก
สำนักข่าว INN