ลุงตามเก็บทะเบียนตกน้ำท่วม เรียกแผ่นละ 100 สะสมเป็นคลัง งานนี้เสียงแตก บ้างก็บอกว่า 100 ให้ไปเถอะ เป็นสินน้ำใจ บ้างก็บอกไม่ควรเก็บไว้เอง ควรส่งคืนเจ้าของหรือให้ตำรวจ
วันที่ 14 กันยายน 2564 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก น้องนิววี่' นะคร้ ได้โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า
"แบบนี้ก็ได้เหรอทำน้ำท่วมป้ายหลุด ยังไงเขาก็ต้องไปหาอยู่ดีถึงลุงไม่หา เขาก็ต้องหาอยู่ดีแล้วมาเรียกเก็บใบละ 100 บาท แล้วดูมีกี่ใบ กะรวยเหรอถามจริง รวมแล้วที่อยู่ สภ.บางพลี มีอยู่190 แล้ว คนที่เอากลับไปแล้วอีกกี่ใบ 190 คูณ 100 บางคนโดน 200 ก็มีที่ออกมาทำแบบนี้ คิดว่าเป็นเรื่องที่ผิดกันเหรอคะทำแบบนี้เพื่อคนที่เหลือ
#ไม่ได้ติดใจแกค่ะแค่อยากให้พี่ตำรวจไปเอาป้ายทะเบียนไปไว้ที่สภ. คงดีกว่าถ้าอยู่ที่สภ. ค่ะ
#ตอนนี้ป้ายไปอยู่ที่ สภ.บางพลี แล้วค่ะ
#โอนให้แกก่อนที่จะมาโพสต์นะคะไม่ได้เป็นคนใจแคบแต่เป็นที่รู้ว่าเรื่องนี้มันผิด"
![ลุงตามเก็บทะเบียนตกน้ำท่วม]( "ลุงตามเก็บทะเบียนตกน้ำท่วม")
ต่อมาผู้สื่อข่าวตระเวนข่าว 3 ได้สอบถามไปยังเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว ทราบชื่อคือ น.ส.มณฑารัตน์ เฉลิมวงศ์ อายุ 21 ปี เมื่อวันที่ฝนตกหนัก ตนและแฟนขับรถผ่านจุดที่น้ำท่วมและป้ายทะเบียนหลุดในพื้นที่ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จึงคิดว่ารอน้ำลดค่อยไปหา แต่วันนี้ขับรถผ่านเห็นป้ายทะเบียนรถตัวเองอยู่ในบ้านของลุงในรูปจึงจอดรถลงไปดู ซึ่งลุงบอกว่าขอค่าเก็บป้ายทะเบียนรถ 100 บาท
ต่อมาผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของลุงคนดังกล่าว ขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังตรวจสอบก็พบว่ายังมีเจ้าของรถหลายคันที่เข้ามาขอรับป้ายทะเบียนจากลุง ซึ่งลุงก็หยิบป้ายออกมาให้ และจากการตรวจสอบภายในบ้านของลุงคนดังกล่าวพบว่ามีป้ายทะเบียนอีกกว่าร้อยป้ายวางเรียงอยู่บนโต๊ะและบนฝาผนังบ้านด้านข้างมีอักษรเขียนเลข บัญชีของธนาคารที่ระบุชื่อของลุงคนดังกล่าวเขียนไว้
ด้านนายชาตรี พลีพัฒนากร อายุ 56 ปี ลุงเจ้าบ้านหลังดังกล่าว ระบุว่าตนไม่เคยเรียกร้องค่าเก็บป้ายทะเบียนแต่อย่างใด แล้วแต่จะให้ น้ำท่วมทุกครั้งตนก็จะคอยเก็บป้ายทะเบียนที่หลุดเพื่อรอให้เจ้าของมารับคืนไป ยืนยันว่าไม่เคยเรียกร้องเงิน แล้วแต่จะให้ บางทีตนก็แกล้งพูดเล่นมีเจ้าของป้ายทะเบียนบางคนจะมาต่อยตนอีก
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวก็ได้สอบถามไปยังคนที่มารับป้ายทะเบียน ระบุว่าหากลุงขอค่าเก็บป้ายทะเบียน 100 บาท ตนก็จะให้เพราะถ้ามาหาเองเราก็คงหาไม่เจอ แต่ลุงมีน้ำใจเก็บไว้ให้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ว่ากล่าวตักเตือนลุงชาตรี ที่เก็บป้ายทะเบียนรถไว้ในบ้านว่า ห้ามไปเรียกร้อง แต่ถ้าเขาให้เป็นสินน้ำใจก็ไม่ผิด แต่ถ้าไปเรียกรับเงินเขาก็เข้าข่าย ลักทรัพย์ หรือ กรรโชกทรัพย์ผู้อื่น ถึงแม้ลุงจะเป็นคนเก็บป้ายทะเบียนรถเหล่านี้ได้ก็ตาม แต่เป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล ใครเก็บได้ก็ต้องส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ประกาศหาเจ้าของ เจ้าหน้าที่จึงได้นำป้ายทะเบียนทั้งหมดกว่าร้อยแผ่นไปเก็บรักษาไว้ที่โรงพัก สภ.บางพลี รอให้เจ้าของป้ายไปติดต่อขอรับคืน
ด้านความคิดเห็นของชาวเน็ตต่างก็มองกันหลายมุมมอง บ้างก็ระบุว่าลุงไม่ควรเรียกเก็บเงินแบบบนี้ ควรจะคืนเจ้าของ หรือควรจะนำไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้เจ้าของมาตามหา สินน้ำใจควรได้รับจากการเสนอ ไม่ใช่ร้องขอ บางคนก็มองว่าจ่าย 100 บาท ก็เพื่อเป็นสินน้ำใจที่ลุงอุตส่าห์ฝ่าน้ำท่วมไปเก็บมา เรื่องแค่นี้เล็กน้อย ถ้าทำใหม่อาจจะเสียเยอะกว่า 100 บาท
![ลุงตามเก็บทะเบียนตกน้ำท่วม]( "ลุงตามเก็บทะเบียนตกน้ำท่วม")
![ลุงตามเก็บทะเบียนตกน้ำท่วม]( "ลุงตามเก็บทะเบียนตกน้ำท่วม")
ขอบคุณข้อมูลจาก ตระเวนข่าว 3
วันที่ 14 กันยายน 2564 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก น้องนิววี่' นะคร้ ได้โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า
"แบบนี้ก็ได้เหรอทำน้ำท่วมป้ายหลุด ยังไงเขาก็ต้องไปหาอยู่ดีถึงลุงไม่หา เขาก็ต้องหาอยู่ดีแล้วมาเรียกเก็บใบละ 100 บาท แล้วดูมีกี่ใบ กะรวยเหรอถามจริง รวมแล้วที่อยู่ สภ.บางพลี มีอยู่190 แล้ว คนที่เอากลับไปแล้วอีกกี่ใบ 190 คูณ 100 บางคนโดน 200 ก็มีที่ออกมาทำแบบนี้ คิดว่าเป็นเรื่องที่ผิดกันเหรอคะทำแบบนี้เพื่อคนที่เหลือ
#ไม่ได้ติดใจแกค่ะแค่อยากให้พี่ตำรวจไปเอาป้ายทะเบียนไปไว้ที่สภ. คงดีกว่าถ้าอยู่ที่สภ. ค่ะ
#ตอนนี้ป้ายไปอยู่ที่ สภ.บางพลี แล้วค่ะ
#โอนให้แกก่อนที่จะมาโพสต์นะคะไม่ได้เป็นคนใจแคบแต่เป็นที่รู้ว่าเรื่องนี้มันผิด"
ต่อมาผู้สื่อข่าวตระเวนข่าว 3 ได้สอบถามไปยังเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว ทราบชื่อคือ น.ส.มณฑารัตน์ เฉลิมวงศ์ อายุ 21 ปี เมื่อวันที่ฝนตกหนัก ตนและแฟนขับรถผ่านจุดที่น้ำท่วมและป้ายทะเบียนหลุดในพื้นที่ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จึงคิดว่ารอน้ำลดค่อยไปหา แต่วันนี้ขับรถผ่านเห็นป้ายทะเบียนรถตัวเองอยู่ในบ้านของลุงในรูปจึงจอดรถลงไปดู ซึ่งลุงบอกว่าขอค่าเก็บป้ายทะเบียนรถ 100 บาท
ต่อมาผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของลุงคนดังกล่าว ขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังตรวจสอบก็พบว่ายังมีเจ้าของรถหลายคันที่เข้ามาขอรับป้ายทะเบียนจากลุง ซึ่งลุงก็หยิบป้ายออกมาให้ และจากการตรวจสอบภายในบ้านของลุงคนดังกล่าวพบว่ามีป้ายทะเบียนอีกกว่าร้อยป้ายวางเรียงอยู่บนโต๊ะและบนฝาผนังบ้านด้านข้างมีอักษรเขียนเลข บัญชีของธนาคารที่ระบุชื่อของลุงคนดังกล่าวเขียนไว้
ด้านนายชาตรี พลีพัฒนากร อายุ 56 ปี ลุงเจ้าบ้านหลังดังกล่าว ระบุว่าตนไม่เคยเรียกร้องค่าเก็บป้ายทะเบียนแต่อย่างใด แล้วแต่จะให้ น้ำท่วมทุกครั้งตนก็จะคอยเก็บป้ายทะเบียนที่หลุดเพื่อรอให้เจ้าของมารับคืนไป ยืนยันว่าไม่เคยเรียกร้องเงิน แล้วแต่จะให้ บางทีตนก็แกล้งพูดเล่นมีเจ้าของป้ายทะเบียนบางคนจะมาต่อยตนอีก
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวก็ได้สอบถามไปยังคนที่มารับป้ายทะเบียน ระบุว่าหากลุงขอค่าเก็บป้ายทะเบียน 100 บาท ตนก็จะให้เพราะถ้ามาหาเองเราก็คงหาไม่เจอ แต่ลุงมีน้ำใจเก็บไว้ให้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ว่ากล่าวตักเตือนลุงชาตรี ที่เก็บป้ายทะเบียนรถไว้ในบ้านว่า ห้ามไปเรียกร้อง แต่ถ้าเขาให้เป็นสินน้ำใจก็ไม่ผิด แต่ถ้าไปเรียกรับเงินเขาก็เข้าข่าย ลักทรัพย์ หรือ กรรโชกทรัพย์ผู้อื่น ถึงแม้ลุงจะเป็นคนเก็บป้ายทะเบียนรถเหล่านี้ได้ก็ตาม แต่เป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล ใครเก็บได้ก็ต้องส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ประกาศหาเจ้าของ เจ้าหน้าที่จึงได้นำป้ายทะเบียนทั้งหมดกว่าร้อยแผ่นไปเก็บรักษาไว้ที่โรงพัก สภ.บางพลี รอให้เจ้าของป้ายไปติดต่อขอรับคืน
ด้านความคิดเห็นของชาวเน็ตต่างก็มองกันหลายมุมมอง บ้างก็ระบุว่าลุงไม่ควรเรียกเก็บเงินแบบบนี้ ควรจะคืนเจ้าของ หรือควรจะนำไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้เจ้าของมาตามหา สินน้ำใจควรได้รับจากการเสนอ ไม่ใช่ร้องขอ บางคนก็มองว่าจ่าย 100 บาท ก็เพื่อเป็นสินน้ำใจที่ลุงอุตส่าห์ฝ่าน้ำท่วมไปเก็บมา เรื่องแค่นี้เล็กน้อย ถ้าทำใหม่อาจจะเสียเยอะกว่า 100 บาท
