ชายอเมริกันจับจระเข้ยักษ์หนักกว่า 300 กิโลกรัม แต่ต้องตะลึงยิ่งกว่า เมื่อพบสิ่งที่อยู่ในท้อง เป็นสิ่งประดิษฐ์สมัยโบราณประเมินค่าไม่ได้ อายุมากกว่าหลายพันปี
เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2564 เว็บไซต์ Ladbible เผยว่า จอห์น แฮมิลตัน ชายชาวอเมริกันรายหนึ่งในเมืองยาซูซิตี รัฐมิสซิสซิปปี สหรัฐฯ สร้างความฮือฮาในพื้นที่ ภายหลังจากเมื่อเร็ว ๆ นี้เขาและเพื่อนสามารถจับแอลลิเกเตอร์ หรือจระเข้ตีนเป็ดขนาดใหญ่ ได้จากทะเลสาบอีเกิล โดยมันมีน้ำหนักตัวถึง 750 ปอนด์ หรือราว 340 กิโลกรัม และความยาวกว่า 4 เมตร
ทว่า มีเรื่องให้ต้องตะลึงยิ่งกว่านั้น ภายหลังจากที่จอห์น นำจระเข้ยักษ์ตัวดังกล่าวไปส่งต่อให้กับโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ เมื่อผ่าท้องของมันออกดูพบสิ่งของโบราณ 2 ชิ้นที่ไม่ประเมินค่าไม่ได้ นั่นคือ หัวหอกหินซึ่งเป็นอาวุธในสมัยโบราณ และลูกตุ้มเหล็กทรงหยดน้ำ ที่เกิดจากการใช้หินสองก้อนเอามาติดกัน
เจมส์ สตาร์เนส ผู้อำนวยการด้านธรณีวิทยาของสำนักงานธรณีวิทยารัฐมิสซิสซิปปี เผยว่า วัตถุดังกล่าวนั้นถูกใช้โดยกลุ่มชาติพันธ์ุชาวพื้นเมืองโบราณ โดยหัวหอกหินนี้น่าจะมีอายุย้อนกลับไปช่วง 5,000-6,000 ปี ก่อนคริสตกาล ส่วนลูกตุ้มคาดว่ามีอายุอยู่ที่ประมาณ 1,700 ปี ก่อนคริสตกาล ซึ่งไม่สามารถยืนยันได้ว่า ลูกตุ้มที่ว่านี้ใช้สำหรับทำอะไร
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่กรมสัตว์ป่าและประมง คาดว่าวัตถุโบราณดังกล่าวน่าจะอยู่ในแหล่งโบราณคดีบนชายฝั่งสักแห่ง ก่อนที่จะถูกน้ำกัดเซาะ ทำให้จระเข้ตัวดังกล่าวไปกลืนมันลงท้อง ตามธรรมชาติของมันที่จะกินกรวดเพื่อช่วยในการย่อยอาหาร นอกจากนี้ยังพบของอื่น ๆ ในท้องของจระเข้ตัวนี้ด้วย เช่น ป้ายห้อยคอสุนัข 5 ชิ้น รวมทั้งเสื้อกันกระสุน
ขอบคุณข้อมูลจาก ladbible.com, dailymail.co.uk
เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2564 เว็บไซต์ Ladbible เผยว่า จอห์น แฮมิลตัน ชายชาวอเมริกันรายหนึ่งในเมืองยาซูซิตี รัฐมิสซิสซิปปี สหรัฐฯ สร้างความฮือฮาในพื้นที่ ภายหลังจากเมื่อเร็ว ๆ นี้เขาและเพื่อนสามารถจับแอลลิเกเตอร์ หรือจระเข้ตีนเป็ดขนาดใหญ่ ได้จากทะเลสาบอีเกิล โดยมันมีน้ำหนักตัวถึง 750 ปอนด์ หรือราว 340 กิโลกรัม และความยาวกว่า 4 เมตร
ทว่า มีเรื่องให้ต้องตะลึงยิ่งกว่านั้น ภายหลังจากที่จอห์น นำจระเข้ยักษ์ตัวดังกล่าวไปส่งต่อให้กับโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ เมื่อผ่าท้องของมันออกดูพบสิ่งของโบราณ 2 ชิ้นที่ไม่ประเมินค่าไม่ได้ นั่นคือ หัวหอกหินซึ่งเป็นอาวุธในสมัยโบราณ และลูกตุ้มเหล็กทรงหยดน้ำ ที่เกิดจากการใช้หินสองก้อนเอามาติดกัน
เจมส์ สตาร์เนส ผู้อำนวยการด้านธรณีวิทยาของสำนักงานธรณีวิทยารัฐมิสซิสซิปปี เผยว่า วัตถุดังกล่าวนั้นถูกใช้โดยกลุ่มชาติพันธ์ุชาวพื้นเมืองโบราณ โดยหัวหอกหินนี้น่าจะมีอายุย้อนกลับไปช่วง 5,000-6,000 ปี ก่อนคริสตกาล ส่วนลูกตุ้มคาดว่ามีอายุอยู่ที่ประมาณ 1,700 ปี ก่อนคริสตกาล ซึ่งไม่สามารถยืนยันได้ว่า ลูกตุ้มที่ว่านี้ใช้สำหรับทำอะไร
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่กรมสัตว์ป่าและประมง คาดว่าวัตถุโบราณดังกล่าวน่าจะอยู่ในแหล่งโบราณคดีบนชายฝั่งสักแห่ง ก่อนที่จะถูกน้ำกัดเซาะ ทำให้จระเข้ตัวดังกล่าวไปกลืนมันลงท้อง ตามธรรมชาติของมันที่จะกินกรวดเพื่อช่วยในการย่อยอาหาร นอกจากนี้ยังพบของอื่น ๆ ในท้องของจระเข้ตัวนี้ด้วย เช่น ป้ายห้อยคอสุนัข 5 ชิ้น รวมทั้งเสื้อกันกระสุน