เพจดังพูดอีกด้าน ฝายฤดูฝน ไม่จำเป็นอย่าทำเลย มีแต่ผลเสีย - พื้นที่แล้งไม่ใช่ระบบนิเวศไม่ดี

         โดยทางเพจ ระบุว่า ป่าอยู่มา 385 ล้านปี ไม่เคยต้องการฝาย การมองว่าป่าบ้านเราต้องการน้ำเยอะ ๆ เป็น Pseudoscience (วิทยาศาสตร์เทียม) เพราะป่าบ้านเราวิวัฒนาการมาคู่กับฤดูแล้ง และในดินก็มีน้ำสะสมอยู่เพียงพอสำหรับการอยู่รอดในฤดูแล้ง

         นอกจากการอ้างเรื่องเก็บน้ำ โพสต์ข้างต้นยังอ้างว่า ฝายช่วยป้องกันการกัดเซาะตลิ่งและช่วยกักเก็บตะกอน ซึ่งไม่จริง ฝายจำนวนมากเก็บน้ำไว้จนตลิ่งด้านข้างฝายพัง แล้วฝายที่พังก็จะไหลลงมากับน้ำ ทำอันตรายต่อพื้นที่ด้านล่าง

         นอกจากนี้ การบอกว่าฝายช่วยกักเก็บตะกอนก็เป็นวิทยาศาสตร์เทียม เพราะหน้าที่ของลำธารคือการถ่ายเทตะกอนจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ ซึ่งในตะกอนมีแร่ธาตุ การสร้างฝายกักเก็บตะกอนไว้ที่ต้นน้ำ คือการขัดขวางกระบวนการถ่ายเทแร่ธาตุตามธรรมชาติ ทำให้พื้นที่ปลายน้ำขาดความอุดมสมบูรณ์ หากในลำธารมีสัตว์น้ำ สัตว์น้ำก็ข้ามฝายได้ลำบากอีก

         ไม่เพียงเท่านั้น หากไปไล่ดูโพสต์อื่น ๆ ทางเพจนั้นยังอ้างว่ากิจกรรมต่าง ๆ ที่ทำ เป็นการสืบสานงานของคุณสืบ นาคะเสถียร ซึ่งคุณสืบไม่เคยสนับสนุนกิจกรรมเหล่านี้

         จากโพสต์ดังกล่าวมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่มองว่าเป็นการละลายงบประมาณไปสูญเปล่า เพราะการทำฝายต้องสร้างใหม่ทุกปี ทำแล้วก็รื้อ ขณะที่บางคนมองว่า ไม่ใช่ว่าฝายไม่ดีเลย บางพื้นที่มีฝายดีกว่าโดยเฉพาะพื้นที่แล้ง สร้างฝายไว้เก็บกักน้ำ ทำให้บริเวณนั้นชุ่มชื้น ต้นไม้เกิดขึ้นเยอะ

         ซึ่งทางเพจก็เข้ามาอธิบายเพิ่มเติมว่า พื้นที่แห้งแล้งไม่ใช่ว่าเป็นระบบนิเวศที่ไม่ดี ระบบนิเวศแต่ละที่แตกต่างกัน ไม่ใช่ว่าจะต้องทำให้ทุกที่มีต้นไม้เหมือนกันไปหมด คือน้ำไหลตลอดปีหรือไม่ได้ไหลตลอดปี มันไม่ใช่ดัชนีชี้วัดความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ ถ้าระบบนิเวศเดิมมันเป็นแบบไม่ได้ไหลตลอดปี การทำฝายก็มีผลเสีย เพราะทำให้เกิด habitat shift แต่ถ้ามีชุมชนอยู่ การหาวิธีเก็บน้ำแบบอื่น ๆ หรือสร้างฝายชั่วคราวเป็นบางเวลาของปี อันนี้โอเค

         การบอกว่าสร้างแล้วดีหรือไม่ดีต่อธรรมชาติ ต้องกลับไปดู Historical Factor ของพื้นที่ครับ