เจ้าของร้านขนม ขาดทุนจนใกล้เจ๊งเพราะใส่ไส้เยอะ รู้สึกผิดสุด ๆ เลยเขียนป้ายสารภาพกับลูกค้า ใครจะคิด ความจริงใจของเขา ทำให้ร้านใกล้เจ๊ง กลายเป็นร้านดังทันตา
ในช่วงเวลาที่ธุรกิจร้านอาหารต่างก็ประสบความยากลำบาก
จากผลกระทบจากทั้งสภาพเศรษฐกิจและมาตรการทางสังคมที่เข้มงวด ทำให้หลาย ๆ
ร้านเริ่มประสบปัญหาขาดทุน หรือถึงขั้นต้องปิดตัวลงไปเลยก็มี
สำหรับร้านขนมแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นก็เผชิญสถานการณ์ขาดทุนเช่นกัน
ทำให้เจ้าของร้านต้องตัดสินใจปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญ
และข้อความอันจริงใจที่เขาบอกลูกค้าอย่างตรงไปตรงมานั้น
ก็ช่วยพลิกสถานการณ์ของร้านที่ใกล้เจ๊ง ให้กลายมาเป็นร้านดังจนได้
โดยเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2564 เว็บไซต์โซระนิวส์ 24 รายงานว่า ร้านขนมดังกล่าวก็คือร้าน ไทยากิ โนะ บุนฟุกุยะ ที่ตั้งอยู่ในเมืองเกียวดะ จังหวัดไซตามะ สินค้าของทางร้านก็คือขนมไทยากิ ที่มีลักษณะเป็นขนมปังรูปปลาสอดไส้ครีมคัสตาร์ดหรือถั่วแดงกวน ซึ่งเป็นขนมที่คนญี่ปุ่นนิยมกินกันโดยทั่วไป
ทว่าเมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา อากาศที่ร้อนอบอ้าวทำให้ลูกค้าซื้อไทยากิร้อน ๆ ไปกินน้อยลง แถมยังโดนผลกระทบจากมาตรการทางสังคมอีก ทำให้ยอดขายของทางร้านลดลงกว่า 70% ดังนั้นเพื่อจะชดเชยรายได้ที่ขาดหายไป จุนยะ ฮาชิโมโตะ เจ้าของร้าน จึงต้องยอมเพิ่มราคา แม้จะลำบากใจก็ตาม
ถ้าเขายังขายไทยากิที่มีไส้ถั่วแดงเน้น ๆ แบบนี้ต่อไป ร้านจะต้องเจ๊งในไม่ช้า แต่ฮาชิโมโตะก็ไม่อยากจะขึ้นราคาอีกรอบ ดังนั้นจึงเหลือเพียงทางเลือกเดียว นั่นคือการลดปริมาณไส้ถั่วแดงลง มันเป็นการตัดสินใจที่เจ็บปวด และเขาก็อยากจะบอกเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมากับลูกค้า จึงเป็นที่มาของป้ายหน้าร้าน ซึ่งกลายมาเป็นไวรัลบนโซเชียล
ในทวิตเตอร์ของทางร้าน ฮาชิโมโตะระบุว่า "เราเป็นร้านไทยากิในเกียวดะ ขอโทษด้วยนะครับทุก ๆ คน ได้โปรดมอบพลังแก่เราด้วยการรีทวีตข้อความนี้ที"
ในทวีตดังกล่าวได้แนบรูปของป้ายที่แปะไว้หน้าประตูร้าน เป็นข้อความเขียนด้วยลายมือ บอกว่า "บอกตรง ๆ ครับว่าผมเคยใส่ไส้ถั่วแดงไว้มาก แต่ทางร้านไม่ได้กำไรเลย และเพราะร้านใกล้จะเจ๊งแล้ว ดังนั้นผมจึงต้องลดปริมาณไส้ถั่วแดงลง อภัยให้ผมด้วยนะครับ"
ขณะที่ผลตอบรับบนโลกออนไลน์ก็ดีไม่แพ้กัน โดยชาวเน็ตหลายคนเข้ามาทิ้งคอมเมนต์ไว้ เช่น
- "โอเคเลย ผมชอบแป้งเยอะ ๆ"
- "บุนฟุคุยะใช้ถั่วแดงกวนคุณภาพดีที่สุด และถั่วก็ขึ้นราคา ดังนั้นผมเข้าใจเลยถ้าคุณจะลดปริมาณลง"
- "เดี๋ยวผมจะไปซื้อเลย 5 ชิ้น"
- "ผมจะปักหมุดร้านนี้ไว้ในแผนที่ จริง ๆ ผมไม่ได้ชอบไทยากิหรอก แต่ถ้าครั้งหน้าผมไปที่เกียวดะ ก็อยากจะไปอุดหนุนร้านนี้สักครั้ง"
- "ฉันชอบถั่วแดงกวนมากนะ แต่ไม่มีปัญหา คุณทำในสิ่งที่ต้องทำได้เลย"
จากไวรัลดังกล่าวทำให้ร้านกลายมาเป็นร้านดังและมีคนแห่ไปใช้บริการ แต่แม้จะมีลูกค้าเยอะทางร้านก็ยังคงรักษาคุณภาพไว้ด้วยการไม่ทำขนมทิ้งไว้ล่วงหน้า แต่จะทำเมื่อมีลูกค้าเข้ามาซื้อ ซึ่งลูกค้าก็ต้องรอประมาณ 6 นาทีต่อคำสั่งซื้อ ด้วยเหตุนี้ทางเจ้าของร้านจึงพยายามหาโปสเตอร์หรือข้อความต่าง ๆ มาติดไว้ตามผนังร้าน เพื่อให้ลูกค้าได้อ่านไปพลาง ๆ ระหว่างรอขนม เรียกว่าใส่ใจลูกค้าจนถึงที่สุดจริง ๆ