สธ. เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย โรงพยาบาลบำเหน็จณรงค์ ส่งต่อรักษาโรงพยาบาลอื่น หลังถูกน้ำท่วมเสียหายหนักต้องปิดบริการชั่วคราว เผยนาทีน้ำทะลักไหลแรง มาเร็วจนรถฉุกเฉินขับหนีไม่ทัน ท่วมเกือบมิดคัน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก คนล่าข่าวชัยภูมิ
จากกรณีพายุเตี้ยนหมู่เคลื่อนตัวเข้าประเทศไทย ทำฝนถล่มหนักหลายจังหวัดซึ่งทางภาคอีสานที่ จ.ชัยภูมิ ระดับน้ำท่วมสูงหลายอำเภอแต่ที่โดนหนักสุดคือ อ.บำเหน็จณรงค์ มวลน้ำป่าไหลทะลักท่วมสูงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ (26 กันยายน 2564) เฟซบุ๊ก คนล่าข่าวชัยภูมิ รายงานว่า น้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมโรงพยาบาลบำเหน็จณรงค์ ทำให้เกิดความเสียหายหนัก โดยน้ำได้ไหลเข้าทางทิศใต้ของโรงพยาบาล ซึ่งเดิมเป็นกำแพงปูนสูงเพื่อใช้เป็นกำแพงกั้นน้ำ แต่ต้านไม่ไหวพังลงมา มวลน้ำจึงไหลทะลักเข้าพื้นที่โรงพยาบาลอย่างรวดเร็วประมาณ 10 นาที พร้อมเผยคลิปขณะที่น้ำทะลักเข้ามาอย่างรวดเร็ว แม้แต่รถฉุกเฉินก็ขับหนีออกไปไม่ทัน น้ำท่วมสูงเกือบมิดคัน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก คนล่าข่าวชัยภูมิ
ขณะที่ข่าวช่อง 3 รายงานความคืบหน้าว่า ขณะนี้พื้นที่จังหวัดชัยภูมิเต็มไปด้วยมวลน้ำ ถนนสาย 201 ชัยภูมิ-สีคิ้ว ถูกน้ำท่วมสูง รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้
ส่วนโรงพยาบาลบำเหน็จณรงค์ เบื้องต้นต้องปิดบริการชั่วคราว และเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปอยู่ที่ชั้น 2 บางส่วนส่งไปพักที่ศูนย์ช่วยเหลือ บริเวณปั๊มน้ำมันห่างจากโรงพยาบาล 1 กิโลเมตร และมีความเสียหายด้านยาและเวชภัณฑ์ รวมทั้งทรัพย์สินราชการ เป็นรถฉุกเฉิน 7 คัน รถยนต์ 4 คัน ห้องเอกซเรย์ ห้องแล็บ ห้องคลอด คลังเวชภัณฑ์ คลังวัสดุ เครื่องซักผ้า และเครื่องปั่นไฟสำรอง 2 เครื่องเสียหายทั้งหมด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก คนล่าข่าวชัยภูมิ
โดยผู้ป่วย 16 รายอาการไม่รุนแรง ช่วยเหลือตัวเองได้ดี มีผู้ป่วยที่ต้องให้ออกซิเจน 3 ราย และผู้ป่วยโควิด 19 จำนวน 7 ราย ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากทีมกู้ภัยมูลนิธิต่าง ๆ เรือและรถยกสูงของทหาร มีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เป็นผู้บัญชาการในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม เฟซบุ๊ก คนล่าข่าวชัยภูมิ อัปเดตสถานการณ์ล่าสุด ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการช่วยเหลือผู้ป่วยและหมอออกจากโรงพยาบาลหมดแล้ว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก คนล่าข่าวชัยภูมิ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก คนล่าข่าวชัยภูมิ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก คนล่าข่าวชัยภูมิ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก คนล่าข่าวชัยภูมิ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก คนล่าข่าวชัยภูมิ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก คนล่าข่าวชัยภูมิ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก คนล่าข่าวชัยภูมิ
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3, เฟซบุ๊ก คนล่าข่าวชัยภูมิ