ปริศนาเมืองโบราณ 3.6 พันปี ถูกทำลายจากอุกกาบาต ตรงกับตำนานเมืองบาปในพระคัมภีร์
ทัลล์ เอล-ฮัมมานน์ (Tall el-Hammam) นครโบราณสมัยยุคสำริด (Bronze Age)
ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในประเทศจอร์แดน
และเชื่อว่าเป็นจุดกำเนิดของตำนานเมืองบาปในพระคัมภีร์นั้น
เป็นปริศนาแก่นักโบราณคดีและนักวิทยาศาสตร์มาเป็นเวลานานว่าเมืองถูกทำลายกลายเป็นซากได้อย่างไร
ก่อนหน้านี้มีข้อสันนิษฐานว่าเกิดจากไฟไหม้ หรือสงคราม
แต่สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้คือภัยพิบัติอย่างแผ่นดินไหว หรือภูเขาไฟระเบิด
อย่างไรก็ตาม มันยังมีข้อสงสัยอยู่และไม่น่าเป็นไปได้ จนกระทั่งล่าสุด นักวิทยาศาสตร์สามารถไขปริศนาและค้นพบความจริงเบื้องหลังหายนะที่ถล่มเมืองนี้ได้แล้ว นั่นก็คือ ภัยที่มาจากนอกโลก
จากการรายงานของสมิธโซเนียน เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2564 ระบุว่า ภายในซากเมืองทัล เอล-ฮัลมานน์ มีอาคาร 5 ชั้น และเศษเครื่องปั้นดินเผาที่มีร่องรอยการถูกความร้อนรุนแรงเผาจนละลาย แต่ความเสียหายเกิดขึ้นเพียงภายนอกเท่านั้น นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเกิดจากอุกกาบาต เพราะพบแร่หินที่ปกติ แต่เนื่องจากเมืองยังคงเหลือซากอยู่และไม่มีหลุมอุกกาบาต ดังนั้นความเป็นไปได้เดียวคือ การระเบิดกลางอากาศ
ประมาณ 3,600 ปีก่อน เกิดเหตุอุกกาบาตพุ่งผ่านชั้นบรรยากาศโลกด้วยความเร็วสูง และระเบิดกลางอากาศ ประมาณ 4 กิโลเมตรเหนือเมือง ความรุนแรงมากกว่าระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมาประมาณ 1,000 เท่า อุณหภูมิโดยรอบพุ่งสูงขึ้นทะลุเกิน 1,982 องศาเซลเซียสในชั่วพริบตา ทำให้ทั้งเมืองลุกเป็นไฟ
ภาพจาก UC Santa Barbara
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองนี้จึงตรงกับตำนาน โซดอมและกอมมอราห์ (Sodom and Gomorrah) สองเมืองแห่งบาปที่มีปรากฏใน Book of Genesis หรือ หนังสือเล่มแรกของพระคัมภีร์ไบเบิลภาคพันธสัญญาเดิม ที่ถูกพระเจ้าทำลายสิ้น ด้วยไฟและกำมะถันที่ตกลงมาจากสวรรค์
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ชี้ว่าเมืองทัล เอ-ฮัมมานน์ ไม่น่าจะใช่ที่ตั้งของเมืองโซดอมหรือกอมโมราห์ แต่หลักฐานที่พิสูจน์ได้ใกล้เคียงกับตำนานการทำลายเมืองอย่างมาก จึงเชื่อว่าภัยดังกล่าวเป็นเหตุการณ์จริงที่หยิบยกไปบัญญัติในพระคัมภีร์
ขอบคุณข้อมูลจาก Smithsonian