กรมอนามัย เผยน้ำผุดหน้าศาลเจ้าพ่อขุนด่านธงชัย เห็นน้ำใส ๆ แต่อาจมีเชื้อโรคหรือสารพิษปนเปื้อน เสี่ยงท้องร่วงหรือรุนแรงหนักถึงขั้นเสียชีวิต ยันประชาชนไม่ควรใช้ดื่มกิน
จากกรณีพบน้ำผุดขึ้นจากถนนทางหลวง 3004 สายซับสมอทอด - ไพศาลี บริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อขุนด่านธงชัย ตั้งอยู่ริมถนนหมู่ที่ 2 ต.ซับไม้แดง อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ และมีชาวบ้านมากรอกน้ำกลับไปดื่มกินและใช้อาบ เนื่องจากเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์นั้น
ล่าสุด (29 กันยายน 2564) เว็บไซต์ กรมอนามัยรายงานว่า นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ขอให้ประชาชนอย่าได้นำน้ำดังกล่าวไปดื่มกิน แม้ว่าน้ำนั้นจะมองดูใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่นก็ตาม แต่อาจจะมีเชื้อโรคจำพวกแบคทีเรีย หรือโปรโตชัว ที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าปนเปื้อนอยู่ได้ ที่ทำให้เกิดโรคจากน้ำเป็นสื่อตามมา ซึ่งจะมีอาการตั้งแต่ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลวหรืออุจจาระร่วง จนสูญเสียน้ำและเกลือแร่ในร่างกายมาก และทำให้ช็อก หมดสติ หรือเสียชีวิตได้
นอกจากนี้ อาจจะมีสารเคมีจำพวกโลหะหนักที่อาจจะปนเปื้อนในน้ำนั้นได้ เช่น ตะกั่ว ปรอท สารหนู เสี่ยงต่อการได้รับสารพิษสะสมในร่างกาย จึงควรรอให้ทางหน่วยงานราชการพิสูจน์แหล่งที่มาและคุณภาพน้ำให้ชัดเจนก่อน
โดยจากการสุ่มตรวจสอบคุณภาพน้ำบริโภคในปี 2563 พบว่าน้ำบริโภคที่มีอยู่ตามธรรมชาติ เช่น น้ำบ่อตื้น น้ำลำธารหรือน้ำห้วย หรือเรียกว่าน้ำประปาภูเขา ที่เป็นน้ำที่มีลักษณะคล้าย ๆ กับน้ำผุดดังกล่าว ไม่มีความเหมาะสมสำหรับการนำมาบริโภคเลย เพราะพบการปนเปื้อนโคลิฟอร์มแบคทีเรียและฟีคัลโคลิฟอร์มแบคทีเรีย ที่บ่งบอกว่ามีโอกาสปนเปื้อนจากเชื้อโรคสูง
ทั้งนี้ ประชาชนควรให้ความสำคัญกับการเลือกน้ำสำหรับบริโภคในครัวเรือน ควรเลือกดื่มน้ำที่สะอาด และราคาถูก เช่น น้ำประปา ที่มีกระบวนการผลิตได้มาตรฐาน น้ำมีคุณภาพเหมาะสมต่อการบริโภค ที่สำคัญมีคลอรีนสำหรับฆ่าเชื้อโรคตกค้างอยู่ด้วย ซึ่งสังเกตง่าย ๆ จะได้กลิ่นคลอรีนในน้ำประปาที่บ่งบอกว่าน้ำประปาสะอาด และปลอดภัย
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมอนามัย
จากกรณีพบน้ำผุดขึ้นจากถนนทางหลวง 3004 สายซับสมอทอด - ไพศาลี บริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อขุนด่านธงชัย ตั้งอยู่ริมถนนหมู่ที่ 2 ต.ซับไม้แดง อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ และมีชาวบ้านมากรอกน้ำกลับไปดื่มกินและใช้อาบ เนื่องจากเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์นั้น
ล่าสุด (29 กันยายน 2564) เว็บไซต์ กรมอนามัยรายงานว่า นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ขอให้ประชาชนอย่าได้นำน้ำดังกล่าวไปดื่มกิน แม้ว่าน้ำนั้นจะมองดูใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่นก็ตาม แต่อาจจะมีเชื้อโรคจำพวกแบคทีเรีย หรือโปรโตชัว ที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าปนเปื้อนอยู่ได้ ที่ทำให้เกิดโรคจากน้ำเป็นสื่อตามมา ซึ่งจะมีอาการตั้งแต่ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลวหรืออุจจาระร่วง จนสูญเสียน้ำและเกลือแร่ในร่างกายมาก และทำให้ช็อก หมดสติ หรือเสียชีวิตได้
นอกจากนี้ อาจจะมีสารเคมีจำพวกโลหะหนักที่อาจจะปนเปื้อนในน้ำนั้นได้ เช่น ตะกั่ว ปรอท สารหนู เสี่ยงต่อการได้รับสารพิษสะสมในร่างกาย จึงควรรอให้ทางหน่วยงานราชการพิสูจน์แหล่งที่มาและคุณภาพน้ำให้ชัดเจนก่อน
โดยจากการสุ่มตรวจสอบคุณภาพน้ำบริโภคในปี 2563 พบว่าน้ำบริโภคที่มีอยู่ตามธรรมชาติ เช่น น้ำบ่อตื้น น้ำลำธารหรือน้ำห้วย หรือเรียกว่าน้ำประปาภูเขา ที่เป็นน้ำที่มีลักษณะคล้าย ๆ กับน้ำผุดดังกล่าว ไม่มีความเหมาะสมสำหรับการนำมาบริโภคเลย เพราะพบการปนเปื้อนโคลิฟอร์มแบคทีเรียและฟีคัลโคลิฟอร์มแบคทีเรีย ที่บ่งบอกว่ามีโอกาสปนเปื้อนจากเชื้อโรคสูง
ทั้งนี้ ประชาชนควรให้ความสำคัญกับการเลือกน้ำสำหรับบริโภคในครัวเรือน ควรเลือกดื่มน้ำที่สะอาด และราคาถูก เช่น น้ำประปา ที่มีกระบวนการผลิตได้มาตรฐาน น้ำมีคุณภาพเหมาะสมต่อการบริโภค ที่สำคัญมีคลอรีนสำหรับฆ่าเชื้อโรคตกค้างอยู่ด้วย ซึ่งสังเกตง่าย ๆ จะได้กลิ่นคลอรีนในน้ำประปาที่บ่งบอกว่าน้ำประปาสะอาด และปลอดภัย
