โหนกระแส เคลียร์ใจ พี่ชัช ลุงสายเปย์ กับ น้องเกตุ ดราม่าโดดเกาะหน้ารถกลัวหนีหาย สาวแจงเคยรักถึงขั้นจะแต่งงานจริง ทนไม่ไหวโดนระราน ขู่ฆ่า ด้านลุงชี้พอซื้อรถให้ก็เปลี่ยนไป ก่อนได้บทสรุปแล้ว
จากเหตุการณ์ นายธนะสิทธิ์ หรือ ชัช วัย 59 ปี กระโดดขวางหน้ารถ น.ส.เกตุฤดี หรือ เกตุ วัย 27 ปี หลังกลัวว่าฝ่ายหญิงกำลังจะขับรถและหนีหายไปขณะลงไปกดเงิน โดยฝ่ายชายตัดพ้อเรื่องที่เคยโอนเงินไปให้หลายครั้ง รถคันที่ขับก็เป็นคนซื้อให้ แต่กลับตีตัวออกห่าง ผิดสัญญาไม่มาอยู่ด้วยกันนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 5 ตุลาคม 2564 รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางช่อง 3 รายงานว่า นายธนะสิทธิ์ เล่าว่า คบหากับน้องเกตุ กว่า 1 ปีแล้ว ตนโอนเงินให้ตลอดหากน้องขอมา เรื่องรถเก๋งฝ่ายหญิงบอกว่าให้ซื้อเป็นของหมั้น ตนก็ซื้อให้และใส่ชื่อของน้องเกตุ โดยให้เงินสดพ่อน้องไป 170,000 บาท จากนั้นน้องเกตุขอให้ตนซื้อทองให้ด้วย จึงตกลงว่าจะทำพิธีผูกแขนแต่งงานกัน แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยง หลบหน้าตามาโดยตลอด
ถูกหลอกไปซื้อของ ก่อนเทไว้กลางทาง
ทุกครั้งที่หายหน้าไปก็จะให้ตนโอนเงินไปให้ตลอด ก่อนเกิดเหตุได้โทรศัพท์มานัดหมายว่าจะมาหาโดยมีเพื่อนสาวติดรถมาด้วย จากนั้นก็ชวนกันมาหาซื้อของกินกันที่ร้านสะดวกซื้อ บริเวณตลาดคลองแม่ลาย โดยให้ตนลงไปซื้อของ ตอนกำลังจะเดินเข้ามาในร้าน สังเกตเห็นว่าแฟนสาวค่อย ๆ ขับรถออกจากที่จอด จึงวิ่งไปขวางแล้วเกาะรถไว้ เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ช้ำใจมาก
ยันตั้งใจสร้างครอบครัวด้วย เปิดสาเหตุตีจาก
ด้าน เกตุ ยอมรับว่า นายธนสิทธิ์ เป็นคนที่ดูแลตนมาเป็นอย่างดี ตอนแรกตั้งใจจะสร้างครอบครัวกับนายธนะสิทธิ์จริง แต่พักหลังตนเริ่มลังเล เพราะนายธนะสิทธิ์เป็นคนอารมณ์ร้อน รุนแรง และข่มขู่จะทำร้ายครอบครัวตนหากเลิกกัน และทำให้เธออึดอัด ไม่คิดว่าจะอยู่กับเขาได้ จึงคิดจะหนีจริง ๆ ซึ่งตัวนายธนสิทธิ์ เองก็มีเด็กที่เลี้ยงไว้เยอะ ยังเคยคุยว่าโอนไปให้คนโน้นคนนี้ ส่วนที่เขาให้เงินมาตนก็รับไว้ และเรื่องรถยนต์ตนคงไม่คืนให้ เพราะสิ่งที่ตนเสียไปมันมากกว่า
ล่าสุด รายการโหนกระแส ได้เชิญ ทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุยกันถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดย นายธนะสิทธิ์ บอกว่า ก่อนจะมาคบหากันไม่ได้พูดคุยกันมานานแล้วแต่เกตุเป็นฝ่ายไปเข้าหาเขาก่อน ส่วนเกตุ เผยว่าที่ติดต่อไปเพราะได้ยินจากเพื่อนมาลุงบ่นว่าคิดถึงฝากมาหลายครั้งจึงโทร. ไปคุย ส่วนที่อีกฝ่ายอ้างว่าเธอบอกเองว่าชอบคนแก่นั้น เป็นการพูดให้ฟังว่าถ้าคนแก่ดูแลได้ดี ก็คงจะดีกว่ามีแฟนวัยรุ่นที่ไม่ช่วยแบ่งเบาภาระอะไร
ยืนยันไม่ได้หลอก ชี้หาฤกษ์แต่งไว้แล้ว รักเพราะมีพระคุณ
เกตุ รับว่าพี่เขาดูแลดีจริง ๆ และคอยพยายามเอาใจตลอด คบกันได้แรก ๆ เป็นช่วงที่ดีมาก เรื่องรถมีการตกลงกันแต่แรกว่าจะซื้อให้จนโอนจองไปตั้งแต่แรกแล้ว แต่ต่อมาพี่เขาบอกว่าถ้าซื้อให้จะถือว่าเป็นของหมั้น แต่หลังคบกันได้ผ่าน 6 เดือนเริ่มมีการโทร. จิก ถ้าเธอไม่รับก็จะโทร. หาพ่อตลอด หลัง ๆ เริ่มโดนหึงหวงหนัก ถึงขั้นขู่ว่าถ้าเจอจะยิงเธอและน้องสาว
เกตุ รับว่าตอนแรกเคยตกลงที่จะแต่งงานถึงขั้นไปดูฤกษ์หมั้น แต่เกิดปัญหาก็เลื่อนออกไป ยืนยันว่าไม่ได้หลอก เพราะถ้าหลอกคงไม่คบกันนานขนาดนี้ ตอนแรกรักพี่เขาจริง ส่วนถามว่ารักแบบสามีหรือพ่อนั้น มองว่าเป็นการรักเพราะเห็นว่าเขามีพระคุณ รักมากเกินกว่าขั้นชู้สาว
แฉฝ่ายหญิงรักแค่คำพูด การกระทำมันไม่ใช่
นายธนะสิทธิ์ มองว่า การจะพูดว่ารักก็พูดได้ แต่การกระทำมันไม่ตรงกับที่บอก ที่อ้างว่าทนพฤติกรรมไม่ได้ แต่ความจริงคือแค่คุยโทรศัพท์กันมาตลอด ยังไม่เคยมาอยู่กินด้วยกัน ยังไม่รู้เลยว่าน้องอยู่ไหน มีแค่แวะมาหาบ้างแต่ก็มากับเพื่อน ลักษณะมองว่าต้องการมาเอาเงินมากกว่า ครั้งหนึ่งยังพูดว่า ขอบคุณค่ะที่มาใช้บริการ ส่วนที่บอกว่าตนเคยไปขู่ บางทีก็จำไม่ได้ บางครั้งก็แค่พูดด้วยอารมณ์โมโหตั้งแต่นัดจะผูกแขนกันก็โดนโกหก แถมยังติดต่อไม่ได้ ทุกครั้งน้องจะเป็นฝ่ายติดต่อมาเอง เคยได้ยินมาว่าน้องมีแฟนอยู่แล้ว มีคนมาบอกตลอดว่าอีกฝ่ายมีแฟนเยอะหวังจะมาหลอก แต่ตนก็ไม่ได้แคร์อะไร
เรื่องนี้ เกตุ ถามกลับว่า ถ้าพี่รู้ว่าหนูมีแฟนก็คงหึงไปแล้ว ส่วนถ้ามีแฟนแล้วแฟนจับได้ว่าคุยกับพี่ชัช แฟนก็คงไม่ยอม ไม่งั้นจะคบกันมาได้กว่า 1 ปี ได้อย่างไร ยืนยันว่าพี่ชัชสามารถไปมาหาสู่ที่บ้านของเธอได้อยู่แล้ว
ส่วนเหตุการณ์ที่เป็นข่าว เกตุเล่าว่า พี่ชัชเป็นฝ่ายโทร. มาบอกว่าถูกหวย ได้เงินหมื่นมา แต่ในใจก็กังวลว่าจะโดนทำร้ายเพราะเคยถูกขู่มาแล้ว ทุกครั้งที่ไปหาจะพาเพื่อนไปด้วยเสมอ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องเงิน บางครั้งพี่เขาไม่มีเงินก็ไปหา วันนั้นตกลงว่าจะแวะไปหาเฉย ๆ ไม่ได้จะไปอยู่ด้วย
เรื่องรถ ตกลงยังไง
พี่ชัช เล่าว่า รถคันนี้ตนเป็นคนเอารถเก่าไปเข้าไฟแนนซ์ เพื่อนำรถคันนี้มาให้ รวมทั้งซื้อทองให้ด้วย หลังจากนั้นก็ผ่อนรถให้ตลอด แถมยังเอาไปจำนำเถื่อนมาอีกรอบ ที่เห็นว่าเกาะรถเพราะกังวลว่าจะนำรถไปทำอะไรไม่ดี ซึ่งตนเองจะต้องเป็นคนมารับผิดชอบแทนทั้งหมด ก่อนหน้าก็จ่ายไปรวมแล้ว 6 แสนกว่าบาท จึงเกาะรถหวังให้มาคุยกันว่าจะเอายังไง เสียใจมากที่โดนมากอดคอทำดีด้วย พอเข้าไปในร้านกลับขับรถหนี ใจทำด้วยอะไร ทั้งที่ให้ทุกอย่าง ไม่เคยตบตีแม้แต่น้อย ยอมแม้กระทั่งส่งเงินให้ไปทำสวย ขอไปฉีดวิตามินก็ให้ ยอมรับว่าหลังเจอแบบนี้อยากได้รถคืนมาแล้ว
เกตุ รับว่าถ้าคืนรถแล้วพี่เขาเลิกยุ่งกับหนู เลิกไปบ้านหนู ตัดขาดกันไปเลยก็อาจจะคืนให้ เสนอว่ารถนี้เป็นชื่อของเธอ อยากจะนำรถไปขาย 1 แสน แบ่ง 7 หมื่นนำไปโปะไฟแนนซ์ เหลือ 3 หมื่นมอบให้พี่เขา
ถ้าคืนรถจะตัดขาดไหม ชัชไม่ตอบยังอยากได้น้องอยู่ไหม
พี่ชัช รับปากว่าถ้าคืนให้จะยอมตัดขาดแน่นอน แต่จะขอเป็นรถคันนี้ไม่รับเป็นเงิน ให้โอนรถชื่อมาเป็นชื่อพี่ชัชได้เลยเดี๋ยวจะอาสาไปจัดการเอง โดยจะให้เงินอีก 2 หมื่นด้วย อย่างไรก็ดี เกตุ บอกว่า จากสิ่งที่เจอมาพี่กลับมาเสนอเงินให้ 2 หมื่น มองว่าสิ่งที่เสียไปเทียบกับเงิน 2 หมื่นไม่ได้
พี่ชัช บอกว่าเงิน 2 หมื่นนั้นให้โดยเสน่หา ไม่อยากได้อะไรแล้ว แต่เกตุไม่เชื่อ ขอให้พูดตรง ๆ ว่าที่จะให้เงินเพราะอะไร ด้าน หนุ่มกรรชัย ถามตรง ๆ ว่าอยากได้น้องอยู่ไหม เรื่องนี้ พี่ชัช บอกว่าไม่ขอตอบ
จริง ๆ แล้วมีคนคุยอยู่ทั้ง 2 ฝ่าย
ส่วนโอกาสว่าหลังจากนี้จะคุยกันได้ไหม เกตุ มองว่าคุยกันไม่ค่อยเข้าใจอย่างที่เห็น รับว่าตอนนี้มีคนคุยอยู่บ้าง ทำ พี่ชัช ถึงกับไม่พอใจเพราะก่อนหน้านี้เกตุไปให้ข่าวว่าพี่ชัชมีเด็กเยอะทั้งที่น้องก็มีคนคุยเหมือนกัน เกตุจึงบอกว่า ของเธอแค่คุย ๆ แต่ของพี่ชัชมีการส่งเสียดูแลหลายคน
จากนี้ไป สรุปจะจบไหม
จากนี้คงกลับไปคบกันไม่ได้แล้ว ช่วงเวลาที่คุยกันเกตุมองแล้วว่าเขาเปลี่ยนตัวเองไม่ได้ กับนิสัยใช้อารมณ์ พูดจาเสียงดัง โมโหแล้วจะตามไปโทร. จิกคนรอบตัว จึงมองว่า แบบนี้ไม่ใช่รัก แต่อยากได้ไปครอบครอง กักขังไว้ เหมือนนกน้อยในกรงทอง บางครั้งนกก็อึดอัดนะ บางครั้งโทร. มารบเร้าให้ไปหา ก็ยอมจะไปเจอแล้ว แต่ยังยังจะถูกจี้ถาม จะมาเมื่อไหร่ จะเอาเพื่อนมาทำไม จากนี้มองว่าต่างคนต่างแยกกันดีกว่า
พี่ชัชบอกว่า ที่เป็นแบบนั้นเพราะเกตุนิสัยเปลี่ยนไป ตอนยังไม่ซื้อรถให้เคยขับมอเตอร์ไซค์มาหาประจำ บางครั้งตนบล็อกเบอร์ไปน้องก็ยังเอาเบอร์อื่นโทร. มา จนทำให้คิดว่าน้องรักเราจริง ทำให้ยอมทุ่มเทไปเต็มตัว แต่พอได้รถแล้วก็เปลี่ยนไป กลายเป็นชอบโกหก
ส่วนเกตุ ระบุว่า ที่ตีตัวออกห่างเพราะถูกตามคุกคาม ขู่กับพ่อว่าจะฆ่าเธอ ขู่จะเผาบ้าน อยากให้คิดถึงหัวอกพ่อว่าจะรู้สึกอย่างไร ยอมรับว่าหลังจากการแต่งงานถูกเลื่อนออกไปเพราะเธอตั้งกักตัว ตอนแรกยังจะไปหาฤกษ์กันใหม่ จากนั้นถูกพี่ชัชข่มขู่บ่อยจนไม่อยากที่จะไปอยู่ด้วย ในอดีตก็มีปมฝังใจไม่ดีที่แฟนเก่าชอบหึงหวงข่มขู่จะทำร้าย จึงไม่อยากจะไปอยู่ในสภาวะแบบนั้นอีก
สรุปเรื่องนี้ ตกลงว่าจะจบกันโดยให้เกตุโอนชื่อรถเป็นของพี่ชัชแล้วที่เหลือจะติดยอดให้เองทั้งหมด โดยพี่ชัชยืนยันว่าจะไม่ไประรานแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์, โหนกระแส
จากเหตุการณ์ นายธนะสิทธิ์ หรือ ชัช วัย 59 ปี กระโดดขวางหน้ารถ น.ส.เกตุฤดี หรือ เกตุ วัย 27 ปี หลังกลัวว่าฝ่ายหญิงกำลังจะขับรถและหนีหายไปขณะลงไปกดเงิน โดยฝ่ายชายตัดพ้อเรื่องที่เคยโอนเงินไปให้หลายครั้ง รถคันที่ขับก็เป็นคนซื้อให้ แต่กลับตีตัวออกห่าง ผิดสัญญาไม่มาอยู่ด้วยกันนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 5 ตุลาคม 2564 รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางช่อง 3 รายงานว่า นายธนะสิทธิ์ เล่าว่า คบหากับน้องเกตุ กว่า 1 ปีแล้ว ตนโอนเงินให้ตลอดหากน้องขอมา เรื่องรถเก๋งฝ่ายหญิงบอกว่าให้ซื้อเป็นของหมั้น ตนก็ซื้อให้และใส่ชื่อของน้องเกตุ โดยให้เงินสดพ่อน้องไป 170,000 บาท จากนั้นน้องเกตุขอให้ตนซื้อทองให้ด้วย จึงตกลงว่าจะทำพิธีผูกแขนแต่งงานกัน แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยง หลบหน้าตามาโดยตลอด
ถูกหลอกไปซื้อของ ก่อนเทไว้กลางทาง
ทุกครั้งที่หายหน้าไปก็จะให้ตนโอนเงินไปให้ตลอด ก่อนเกิดเหตุได้โทรศัพท์มานัดหมายว่าจะมาหาโดยมีเพื่อนสาวติดรถมาด้วย จากนั้นก็ชวนกันมาหาซื้อของกินกันที่ร้านสะดวกซื้อ บริเวณตลาดคลองแม่ลาย โดยให้ตนลงไปซื้อของ ตอนกำลังจะเดินเข้ามาในร้าน สังเกตเห็นว่าแฟนสาวค่อย ๆ ขับรถออกจากที่จอด จึงวิ่งไปขวางแล้วเกาะรถไว้ เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ช้ำใจมาก
ยันตั้งใจสร้างครอบครัวด้วย เปิดสาเหตุตีจาก
ด้าน เกตุ ยอมรับว่า นายธนสิทธิ์ เป็นคนที่ดูแลตนมาเป็นอย่างดี ตอนแรกตั้งใจจะสร้างครอบครัวกับนายธนะสิทธิ์จริง แต่พักหลังตนเริ่มลังเล เพราะนายธนะสิทธิ์เป็นคนอารมณ์ร้อน รุนแรง และข่มขู่จะทำร้ายครอบครัวตนหากเลิกกัน และทำให้เธออึดอัด ไม่คิดว่าจะอยู่กับเขาได้ จึงคิดจะหนีจริง ๆ ซึ่งตัวนายธนสิทธิ์ เองก็มีเด็กที่เลี้ยงไว้เยอะ ยังเคยคุยว่าโอนไปให้คนโน้นคนนี้ ส่วนที่เขาให้เงินมาตนก็รับไว้ และเรื่องรถยนต์ตนคงไม่คืนให้ เพราะสิ่งที่ตนเสียไปมันมากกว่า
ล่าสุด รายการโหนกระแส ได้เชิญ ทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุยกันถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดย นายธนะสิทธิ์ บอกว่า ก่อนจะมาคบหากันไม่ได้พูดคุยกันมานานแล้วแต่เกตุเป็นฝ่ายไปเข้าหาเขาก่อน ส่วนเกตุ เผยว่าที่ติดต่อไปเพราะได้ยินจากเพื่อนมาลุงบ่นว่าคิดถึงฝากมาหลายครั้งจึงโทร. ไปคุย ส่วนที่อีกฝ่ายอ้างว่าเธอบอกเองว่าชอบคนแก่นั้น เป็นการพูดให้ฟังว่าถ้าคนแก่ดูแลได้ดี ก็คงจะดีกว่ามีแฟนวัยรุ่นที่ไม่ช่วยแบ่งเบาภาระอะไร
ยืนยันไม่ได้หลอก ชี้หาฤกษ์แต่งไว้แล้ว รักเพราะมีพระคุณ
เกตุ รับว่าพี่เขาดูแลดีจริง ๆ และคอยพยายามเอาใจตลอด คบกันได้แรก ๆ เป็นช่วงที่ดีมาก เรื่องรถมีการตกลงกันแต่แรกว่าจะซื้อให้จนโอนจองไปตั้งแต่แรกแล้ว แต่ต่อมาพี่เขาบอกว่าถ้าซื้อให้จะถือว่าเป็นของหมั้น แต่หลังคบกันได้ผ่าน 6 เดือนเริ่มมีการโทร. จิก ถ้าเธอไม่รับก็จะโทร. หาพ่อตลอด หลัง ๆ เริ่มโดนหึงหวงหนัก ถึงขั้นขู่ว่าถ้าเจอจะยิงเธอและน้องสาว
เกตุ รับว่าตอนแรกเคยตกลงที่จะแต่งงานถึงขั้นไปดูฤกษ์หมั้น แต่เกิดปัญหาก็เลื่อนออกไป ยืนยันว่าไม่ได้หลอก เพราะถ้าหลอกคงไม่คบกันนานขนาดนี้ ตอนแรกรักพี่เขาจริง ส่วนถามว่ารักแบบสามีหรือพ่อนั้น มองว่าเป็นการรักเพราะเห็นว่าเขามีพระคุณ รักมากเกินกว่าขั้นชู้สาว
แฉฝ่ายหญิงรักแค่คำพูด การกระทำมันไม่ใช่
นายธนะสิทธิ์ มองว่า การจะพูดว่ารักก็พูดได้ แต่การกระทำมันไม่ตรงกับที่บอก ที่อ้างว่าทนพฤติกรรมไม่ได้ แต่ความจริงคือแค่คุยโทรศัพท์กันมาตลอด ยังไม่เคยมาอยู่กินด้วยกัน ยังไม่รู้เลยว่าน้องอยู่ไหน มีแค่แวะมาหาบ้างแต่ก็มากับเพื่อน ลักษณะมองว่าต้องการมาเอาเงินมากกว่า ครั้งหนึ่งยังพูดว่า ขอบคุณค่ะที่มาใช้บริการ ส่วนที่บอกว่าตนเคยไปขู่ บางทีก็จำไม่ได้ บางครั้งก็แค่พูดด้วยอารมณ์โมโหตั้งแต่นัดจะผูกแขนกันก็โดนโกหก แถมยังติดต่อไม่ได้ ทุกครั้งน้องจะเป็นฝ่ายติดต่อมาเอง เคยได้ยินมาว่าน้องมีแฟนอยู่แล้ว มีคนมาบอกตลอดว่าอีกฝ่ายมีแฟนเยอะหวังจะมาหลอก แต่ตนก็ไม่ได้แคร์อะไร
เรื่องนี้ เกตุ ถามกลับว่า ถ้าพี่รู้ว่าหนูมีแฟนก็คงหึงไปแล้ว ส่วนถ้ามีแฟนแล้วแฟนจับได้ว่าคุยกับพี่ชัช แฟนก็คงไม่ยอม ไม่งั้นจะคบกันมาได้กว่า 1 ปี ได้อย่างไร ยืนยันว่าพี่ชัชสามารถไปมาหาสู่ที่บ้านของเธอได้อยู่แล้ว
ส่วนเหตุการณ์ที่เป็นข่าว เกตุเล่าว่า พี่ชัชเป็นฝ่ายโทร. มาบอกว่าถูกหวย ได้เงินหมื่นมา แต่ในใจก็กังวลว่าจะโดนทำร้ายเพราะเคยถูกขู่มาแล้ว ทุกครั้งที่ไปหาจะพาเพื่อนไปด้วยเสมอ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องเงิน บางครั้งพี่เขาไม่มีเงินก็ไปหา วันนั้นตกลงว่าจะแวะไปหาเฉย ๆ ไม่ได้จะไปอยู่ด้วย
เรื่องรถ ตกลงยังไง
พี่ชัช เล่าว่า รถคันนี้ตนเป็นคนเอารถเก่าไปเข้าไฟแนนซ์ เพื่อนำรถคันนี้มาให้ รวมทั้งซื้อทองให้ด้วย หลังจากนั้นก็ผ่อนรถให้ตลอด แถมยังเอาไปจำนำเถื่อนมาอีกรอบ ที่เห็นว่าเกาะรถเพราะกังวลว่าจะนำรถไปทำอะไรไม่ดี ซึ่งตนเองจะต้องเป็นคนมารับผิดชอบแทนทั้งหมด ก่อนหน้าก็จ่ายไปรวมแล้ว 6 แสนกว่าบาท จึงเกาะรถหวังให้มาคุยกันว่าจะเอายังไง เสียใจมากที่โดนมากอดคอทำดีด้วย พอเข้าไปในร้านกลับขับรถหนี ใจทำด้วยอะไร ทั้งที่ให้ทุกอย่าง ไม่เคยตบตีแม้แต่น้อย ยอมแม้กระทั่งส่งเงินให้ไปทำสวย ขอไปฉีดวิตามินก็ให้ ยอมรับว่าหลังเจอแบบนี้อยากได้รถคืนมาแล้ว
เกตุ รับว่าถ้าคืนรถแล้วพี่เขาเลิกยุ่งกับหนู เลิกไปบ้านหนู ตัดขาดกันไปเลยก็อาจจะคืนให้ เสนอว่ารถนี้เป็นชื่อของเธอ อยากจะนำรถไปขาย 1 แสน แบ่ง 7 หมื่นนำไปโปะไฟแนนซ์ เหลือ 3 หมื่นมอบให้พี่เขา
ถ้าคืนรถจะตัดขาดไหม ชัชไม่ตอบยังอยากได้น้องอยู่ไหม
พี่ชัช รับปากว่าถ้าคืนให้จะยอมตัดขาดแน่นอน แต่จะขอเป็นรถคันนี้ไม่รับเป็นเงิน ให้โอนรถชื่อมาเป็นชื่อพี่ชัชได้เลยเดี๋ยวจะอาสาไปจัดการเอง โดยจะให้เงินอีก 2 หมื่นด้วย อย่างไรก็ดี เกตุ บอกว่า จากสิ่งที่เจอมาพี่กลับมาเสนอเงินให้ 2 หมื่น มองว่าสิ่งที่เสียไปเทียบกับเงิน 2 หมื่นไม่ได้
พี่ชัช บอกว่าเงิน 2 หมื่นนั้นให้โดยเสน่หา ไม่อยากได้อะไรแล้ว แต่เกตุไม่เชื่อ ขอให้พูดตรง ๆ ว่าที่จะให้เงินเพราะอะไร ด้าน หนุ่มกรรชัย ถามตรง ๆ ว่าอยากได้น้องอยู่ไหม เรื่องนี้ พี่ชัช บอกว่าไม่ขอตอบ
จริง ๆ แล้วมีคนคุยอยู่ทั้ง 2 ฝ่าย
ส่วนโอกาสว่าหลังจากนี้จะคุยกันได้ไหม เกตุ มองว่าคุยกันไม่ค่อยเข้าใจอย่างที่เห็น รับว่าตอนนี้มีคนคุยอยู่บ้าง ทำ พี่ชัช ถึงกับไม่พอใจเพราะก่อนหน้านี้เกตุไปให้ข่าวว่าพี่ชัชมีเด็กเยอะทั้งที่น้องก็มีคนคุยเหมือนกัน เกตุจึงบอกว่า ของเธอแค่คุย ๆ แต่ของพี่ชัชมีการส่งเสียดูแลหลายคน
จากนี้ไป สรุปจะจบไหม
จากนี้คงกลับไปคบกันไม่ได้แล้ว ช่วงเวลาที่คุยกันเกตุมองแล้วว่าเขาเปลี่ยนตัวเองไม่ได้ กับนิสัยใช้อารมณ์ พูดจาเสียงดัง โมโหแล้วจะตามไปโทร. จิกคนรอบตัว จึงมองว่า แบบนี้ไม่ใช่รัก แต่อยากได้ไปครอบครอง กักขังไว้ เหมือนนกน้อยในกรงทอง บางครั้งนกก็อึดอัดนะ บางครั้งโทร. มารบเร้าให้ไปหา ก็ยอมจะไปเจอแล้ว แต่ยังยังจะถูกจี้ถาม จะมาเมื่อไหร่ จะเอาเพื่อนมาทำไม จากนี้มองว่าต่างคนต่างแยกกันดีกว่า
พี่ชัชบอกว่า ที่เป็นแบบนั้นเพราะเกตุนิสัยเปลี่ยนไป ตอนยังไม่ซื้อรถให้เคยขับมอเตอร์ไซค์มาหาประจำ บางครั้งตนบล็อกเบอร์ไปน้องก็ยังเอาเบอร์อื่นโทร. มา จนทำให้คิดว่าน้องรักเราจริง ทำให้ยอมทุ่มเทไปเต็มตัว แต่พอได้รถแล้วก็เปลี่ยนไป กลายเป็นชอบโกหก
ส่วนเกตุ ระบุว่า ที่ตีตัวออกห่างเพราะถูกตามคุกคาม ขู่กับพ่อว่าจะฆ่าเธอ ขู่จะเผาบ้าน อยากให้คิดถึงหัวอกพ่อว่าจะรู้สึกอย่างไร ยอมรับว่าหลังจากการแต่งงานถูกเลื่อนออกไปเพราะเธอตั้งกักตัว ตอนแรกยังจะไปหาฤกษ์กันใหม่ จากนั้นถูกพี่ชัชข่มขู่บ่อยจนไม่อยากที่จะไปอยู่ด้วย ในอดีตก็มีปมฝังใจไม่ดีที่แฟนเก่าชอบหึงหวงข่มขู่จะทำร้าย จึงไม่อยากจะไปอยู่ในสภาวะแบบนั้นอีก
สรุปเรื่องนี้ ตกลงว่าจะจบกันโดยให้เกตุโอนชื่อรถเป็นของพี่ชัชแล้วที่เหลือจะติดยอดให้เองทั้งหมด โดยพี่ชัชยืนยันว่าจะไม่ไประรานแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์, โหนกระแส
