เปิดประสบการณ์ระทึก จากปากหมอ ทำคลอดบนเรือสปีดโบ๊ท ทั้งมืดทั้งโคลงเคลง แต่คุณแม่สู้ !


          หมอเล่าประสบการณ์ระทึก ทำคลอดคุณแม่บนเรือสปีดโบ๊ท แม้อยู่ในช่วงคำเตือนเรื่องพายุ แต่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ท่ามกลางความเสี่ยง ต้องทำให้ดีที่สุด สุดท้ายเด็กคลอดออกมาสำเร็จ

คลอดลูกบนสปีดโบ๊ท
          วันที่ 9 ตุลาคม 2564 ที่เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล มีเหตุการณ์ที่น่าประทับใจขึ้น เมื่อคุณหมอท่านหนึ่งได้โพสต์เล่าผ่านเฟซบุ๊ก Narasak Bcns Binda-oh เรื่องการทำคลอดคนไข้กลางทะเล จากสถานการณ์ฉุกเฉิน มีรายละเอียดเรื่องทั้งหมดดังนี้

เมื่อหญิงท้องแก่ปวดท้องจะคลอดบนเกาะ แต่คลอดไม่ได้


          หญิงวัย 42 ปี มีอาการปวดท้องใกล้คลอด หมอจึงมีการวางแผนทำคลอดที่ รพ.สต. บนเกาะ ไม่มีการย้ายไปทำคลอดบนฝั่งเนื่องจากมีความเสี่ยงของการเดินทาง และสภาพอากาศที่ตอนนี้กำลังมีมรสุมอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา รพ.สต. แห่งนี้ก็ปิดห้องคลอด เปลี่ยนเป็นห้องเก็บอุปกรณ์ทางการแพทย์แทน ทำให้ไม่สามารถใช้ห้องคลอดในการคลอดลูกได้ ต้องคลอดที่ห้องอื่นโดยใช้เตียงปกติในการทำคลอด

          ต่อมา หมอพยายามเชียร์ให้คุณแม่เบ่งลูกไป 45 นาที แต่ก็ไม่สำเร็จ อาจจะเป็นเพราะแม่นั้นก็อายุมากแล้ว ไม่มีแรงเบ่ง หมอเองก็เริ่มเครียด ๆ จนมีการหารือกับทางศูนย์สั่งการ ทางศูนย์อนุมัติให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยมาคลอดบนฝั่งได้ เพราะอุปกรณ์พร้อมกว่า

เตรียมตัวย้ายคุณแม่ขึ้นฝั่ง


          ทั้งนี้ ในมุมมองของคุณหมอ ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย เนื่องจากตอนนี้มีพายุ และมีโอกาสที่จะคลอดบนเรือระหว่างการเดินทางสูงมาก ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ การทำหัตถการใด ๆ บนเรือไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเรือโคลงเคลงตลอด และเป็นเวลากลางคืนด้วย แต่ถึงกระนั้น เมื่อมารดาไม่มีแรงเบ่งคลอด ก็ต้องเคลื่อนย้ายไปบนฝั่งดีที่สุด อีกทั้งสภาวะใกล้คลอดก็กินเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงแล้ว

          เพื่อความแน่ใจ หมอได้โทรศัพท์หากัปตันเรือ บารมี เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับสภาพอากาศ ทางกัปตันเรือบอกว่า ตอนนี้ที่เกาะลมสงบ แต่ถ้าออกพ้นเกาะ อาจจะมีคลื่นลมบ้าง ถ้าทำความเร็วเรือได้ดี น่าจะไม่มีปัญหา

          ช่วงเวลาของการเคลื่อนย้าย มีการนำตัวผู้ป่วยลงเรือสปีดโบ้ท มีเจ้าหน้าที่ รพ.สต. ลงเรือ 3 คน, เจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ด 1 คน และมีการจัดผู้ป่วยนอนราบท้ายเรือใส่เปลเอาไว้

คลอดลูกบนสปีดโบ๊ท


การคลอดลูกบนเรือสปีดโบ๊ท


          ระหว่างทาง เป็นไปอย่างที่คุณหมอคิด มีคลื่น 2-3 เมตรปะทะเข้าลำเรือ ทำให้เรือโคลงเคลง ทำอะไรไม่สะดวก จากนั้นผู้ป่วยก็บ่นปวดท้อง และออกแรงเบ่งขึ้นเรื่อย ๆ จนหัวเด็กโผล่ออกมา ดูแล้วโอกาสคลอดบนเรือสูงมาก ทุกคนจึงรีบประจำการเตรียมคลอดทันที

          การทำคลอดบนเรือค่อนข้างลำบากมาก ขั้นตอนต่าง ๆ ล้วนติด ๆ ขัด ๆ หัวเด็กโผล่ออกมาแล้ว แต่ตัวเด็กยังติดอยู่ข้างใน ยังคาอยู่กว่า 4 นาที ต้องพยายามหาวิธีที่จะทำให้เด็กออกมาให้ได้ จนในที่สุด จังหวะที่เรือกระแทกกับคลื่น เหมือนเป็นการส่งแรงบวกให้ ทำให้แม่สามารถคลอดลูกออกมาได้สำเร็จ

          ปัญหายังไม่จบ เพราะแม่ค่อนข้างเสียเลือดมาก บวกกับเป็นตอนกลางคืน ค่อนข้างมืด ทำให้หยิบหาอุปกรณ์อะไรก็ลำบาก ต้องใช้ความพยายามเพื่อแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า ประคองให้แม่ไม่มีอาการที่แย่ไปกว่านี้ กระทั่งถึงฝั่ง ทีม รพ.ละงู ก็มารับเด็กและมารดาไปตรวจร่างกายต่อ ซึ่งการเดินทางบนเรือ ใช้เวลากว่า 1.20 ชั่วโมง

ความในใจคุณหมอหลังคลอด


         
เรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้หมอยอมรับว่า เป็นความเสี่ยงที่ไม่ควรจะเกิดเลย วันนี้เราอาจจะโชคดี แต่ถ้าวันอื่นผลไม่ได้เป็นแบบวันนี้ จะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้น ทางแก้คือ เมื่อใกล้ถึงกำหนดวันคลอด ควรให้คุณแม่เตรียมตัวคลอดบนฝั่งจะดีที่สุด

          ขณะเดียวกัน เด็กที่คลอดออกมา แม่ก็ตั้งชื่อว่า บารมี ตามชื่อเรือที่น้องคลอด ส่วนเลขข้างเรือนั้นคือ 5255 กับ 02155

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดประสบการณ์ระทึก จากปากหมอ ทำคลอดบนเรือสปีดโบ๊ท ทั้งมืดทั้งโคลงเคลง แต่คุณแม่สู้ ! อัปเดตล่าสุด 9 ตุลาคม 2564 เวลา 16:40:09 3,871 อ่าน
TOP
x close