สรุปประเด็น วัยรุ่นตามถึงบ้าน 6 รุม 1 แจกของลับสู่การฆ่า ฆาตกรรมหรือป้องกันตัว

            ชนวนเหตุเรื่องนี้ เกิดจากการที่นายบาย ขี่รถมอเตอร์ไซค์ย้อนศรตัดเลน เพื่อรีบนำเงินไปฝากที่เซเว่น แล้วไปเจอกับนายบาส ที่ขี่รถมาเลนปกติ แต่ด้วยความไม่พอใจจึงเกิดการเฉี่ยวกันหน่อยประมาณ 5-10 เมตร แล้วเกิดมีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน นายบายเองยืนยันว่าตนพยายามขี่รถหนี และปาดกันไปปาดกันมา นายบายขี่รถไปจอดที่เซเว่น แต่นายบาสขี่รถตามมา บอกว่านายบายไปมองหน้า มีการแจกของลับ ถามว่าบ้านอยู่แถวไหน เหมือนจะหาเรื่องกันจนวินมอเตอร์ไซค์บอกให้แยกย้าย ทั้ง 2 คนจึงแยกกันไป ก่อนไปก็มีการเบิ้ลรถใส่กัน

            เมื่อกลับถึงบ้าน นายบายไม่ยอมให้เรื่องนี้จบง่าย ๆ เลยชักชวนเพื่อนอีก 5 คน คือ นิด, ต้น, แซม, เย่อ, และบอล ไปบุกถึงบ้านของนายบาส เพื่อขอคุยและเคลียร์เรื่องนี้ให้จบ ทั้งหมดตามไปสืบจนรู้ว่านายบาสอยู่หมู่บ้านนี้ และไปตามหาเบอร์มาเพื่อโทร. ไปบอกให้นายบาสขอโทษ แต่นายบาสบอกว่าไม่ขอโทษเพราะไม่ใช่คนผิด ทั้ง 6 คน จึงไปบุกถึงบ้านของนายบาส

แก๊ง 6 คนตามไปถึงหน้าบ้าน ท้าทายให้ออกมา เจอบาสคลั่งพันมีดสปาต้ากับมือ ไล่แทงจนตาย

            จากนั้น แก๊ง 6 คนได้ตามไปถึงหมู่บ้านที่นายบาสอยู่ และตะโกนบอกว่า "ออกมานี่ดิ๊" "ไอ้สัตว์" มีการปาของเข้าบ้านนายบาส นั่นทำให้นายบาสซึ่งอยู่ในบ้านไม่พอใจเช่นกัน หยิบมีสปาต้ามาพันเข้าที่มือข้างหนึ่ง มืออีกข้างก็พันมีดปลายแหลม และออกมาจากตัวบ้านและเปิดประตูรั้วบ้านทันที พร้อมกับบอกว่า "มาดิวัยรุ่น Xวยไรวัยรุ่น มาดิ" และเมื่อทั้ง 6 คนเห็นภาพของนายบาสที่ถือมีดออกมา ต่างก็หนีกันไปคนละทิศละทาง

            จากนั้น จึงเกิดเหตุการณ์รุมสกรัมแบบ 6 รุม 1 มีชายคนหนึ่งใส่เสื้อฮู้ดสีดำ ประกบถึงตัวของนายบาส และนายบาสซึ่งโดนกดหัวอยู่แต่มือถือมีดสปาต้า เลยแทงไปแบบสุ่มสี่สุ่มห้ามั่วซั่วไปหมด จนกระทั่งทรุดลงไปกองกับพื้น จากนั้นก็มีคลิปที่ 1 ใน 6 คนที่ตะโกนขอร้องและช่วยไว้ชีวิตด้วย ส่วนนายบาสก็เดินไปเดินมาบริเวณบ้านและยังถือมีดเรื่อย ๆ อยู่ในมือ

เริ่มต้นจากเพื่อนโดนแทง เลยพยายามเข้าไปรุมเพราะต้องการให้ปล่อยมีด นายบาสคลั่งแรงแทงแล้วแทงซ้ำอีก

            ต่อมา นายบายบอกว่า เอาผ้าพันมือกับมีดไว้ ข้างหนึ่งมีดสปาต้า ข้างหนึ่งมีดปลายแปลม คนที่ถูกแทงก่อนคือนายเย่อ นายเย่อจึงหนีและสะดุดล้ม นายบาสก็เข้าไปซ้ำ นายต้นเห็นนายเย่อล้มก็เข้าไปช่วย นายต้นจึงโดนล็อกคอแล้วแทง จากนั้นจึงเกิดการรุมสกรัมกันครั้งใหญ่ ทุกคนพยายามเข้าไปรุมตีนายบาส โดยเฉพาะตีที่แขนจนนายบาสแขนหัก นายบาสเลยแทงมั่วและไปโดนนายแซม จากนั้นนายบายและนายบอลจึงเอารถเพราะต้องการจะเอาคนเจ็บไปโรงพยาบาล แต่นายบาสไม่ยอม หันมาไล่จนถึงหน้าปากซอย แล้วกลับไปแทงนายต้นต่อ แทงนายแซมซ้ำด้วยการเอามีดปัก จนทั้ง 2 คนเสียชีวิต นายนิดจึงคุกเข่าและขอร้องให้ไว้ชีวิตตนด้วย

นายบาย ยืนยัน ไม่ได้อยากรุมแค่อยากเคลียร์ แยกย้ายกันไปยังไปแทงซ้ำกะเอาถึงตาย

            นายบาย ซึ่งเป็นคนต้นเรื่องนี้ยืนยันว่า ตนไปนั้นไม่ได้ต้องการไปรุม แต่ต้องการไปเคลียร์จริง ๆ แค่อยากให้มาคุยกันหน้าบ้าน ไม่ได้ต้องการบุกบ้าน บ้านก็มีรั้วกั้นอยู่ เหตุที่ต้องเคลียร์ เพราะตนต้องขี่รถผ่านเส้นทางนั้นทุกวัน ไม่ได้ต้องการวิวาทมากมาย แต่พอเห็นเพื่อนโดนแทง ก็ต้องเข้าไปรุมตีเพื่อให้นายบาสปล่อยมีด แต่ยิ่งรุมก็ยิ่งโดนแทงเพิ่ม และนายบายยังยืนยันว่า แม้ว่าจะแยกกันไปแล้ว แต่นายบาสยังย้อนกลับไปแทงคนเจ็บเพิ่มเพื่อให้ตาย

            หลังจากที่แทงแล้วและส่อเค้าว่ามีคนตาย นายบาสก็ยังไม่หยุด เลือดขึ้นหน้าสุด ๆ และชี้หน้าด่านายบายว่า ควรจะเป็นคนที่ตายแทน

แม่นายแซม ชี้ ไปเคลียร์แบบมือเปล่า ไปได้ยังไง - ถ้านายบาสไม่ออกมา ถ้า 6 คนไม่ไปบุกบ้าน แม่ก็ไม่ต้องสูญเสีย

            แม่นุ้ย แม่ของนายแซม ผู้เสียชีวิต ก็พูดว่า ถ้าจะไปไม่เข้าใจว่าทำไมไม่เอาอาวุธไปด้วย ไปยังไงกันไปมือเปล่า ซึ่งแม่บอกว่า ถ้าคุณจะไปเอาเรื่อง อยากบวกคุณก็ต้องเอาให้สุด แต่ถ้าคุณจะแค่เคลียร์กันเฉย ๆ ไม่ได้ต้องการเอาเรื่อง ก็เอาผู้ใหญ่ไปคุย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ถ้านายบาสไม่ออกมาเรื่องก็จบ หรือ 6 คนไม่ไปบ้านนายบาส เรื่องก็จบเช่นกัน เรื่องนี้ตนก็ช้ำ เพราะตนสูญเสียลูกไป แต่ไม่มีใครเห็นใจ ทุกคนไปเห็นใจนายบาสแทน

            สุดท้าย ตำรวจได้แจ้ง 3 ข้อหาแก่นายบาสคือ พยายามฆ่า ฆ่าคนตาย และพกพาอาวุธ

ทนายเดชา ชี้ ท้ามาแล้วรับสนองคำท้าแบบนี้ คือสมัครใจวิวาท ผิดพลาดทั้งคู่

            ด้านทนายเดชา เผยว่า การที่ทั้ง 6 คนไปท้าทายนายบาสถึงบ้าน และนายบาสรับคำท้า สภาพทั้ง 2 ฝ่ายคือกลายเป็นผู้ต้องหาทั้งคู่ เพราะสมัครใจทะเลาะวิวาท แต่ฝ่ายที่ตายนั้น ต้องไปพิสูจน์กันเองในศาล ทนายเดชามองว่าเรื่องนี้เป็นไปในลักษณะบันดาลโทสะ และต้องดูว่ามีส่วนร่วมในการกระทำผิดไหม คนที่ทำจะทำเพราะป้องกันตัวหรือเพราะต้องการฆาตกรรม เรื่องนี้ก็ต้องพิสูจน์กัน