ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ เผย 3
วิธีป้องกันการถูกแฮกเงินทางออนไลน์ ทำได้ง่าย ๆ
หลังมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อถูกดูดเงินรัว ๆ
กำลังเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจอย่างมากในขณะนี้
เพราะเป็นเรื่องของเงิน ๆ ทอง ๆ
กับกรณีมีผู้เสียหายถูกหักเงินจากบัญชีเงินฝากไปอย่างปริศนา และล่าสุด (17
ตุลาคม 2564) ธนาคารแห่งประเทศไทย แถลงเบื้องต้นว่า
สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากการรั่วไหลข้อมูลของธนาคาร
เพราะจากการตรวจสอบพบว่า
เป็นรายการที่เกิดจากการทำธุรกรรมชำระค่าสินค้าและบริการกับร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่
และไม่ใช่แอปฯ ดูดเงิน แต่อย่างใด
อ่านข่าว : แบงก์ชาติ แจงเหตุเงินหายจากบัญชีรัว ๆ ยันไม่ใช่เพราะแอปฯ ดูดเงิน
อ่านข่าว : แบงก์ชาติ แจงเหตุเงินหายจากบัญชีรัว ๆ ยันไม่ใช่เพราะแอปฯ ดูดเงิน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (18 ตุลาคม 2564) รายการข่าวเช้าช่องวัน รายงานข้อมูลจาก อ.ปริญญา หอมเอนก ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ที่ได้มีการเปิดเผยคำแนะนำวิธีการป้องกันเบื้องต้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ เบื้องต้น 3 วิธี ได้แก่...
- อย่าผูกบัตรเดบิตกับธุรกรรมออนไลน์
- แนะนำให้เปิดบัญชีใหม่เพื่อใช้สำหรับช้อปปิ้งออนไลน์โดยเฉพาะ อย่าใช้บัญชีเดียวกับบัญชีเงินเดือนที่มีเงินก้อนใหญ่ เพื่อความปลอดภัยหากเกิดถูกแฮกบัญชีจะได้ไม่เชื่อมโยงกับเงินทั้งหมด
- แนะนำให้จำกัดวงเงินทั้งบัตรเดบิต และบัตรเครดิต
ภาพจาก สำนักข่าว INN
ทั้งนี้ พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า กรณีผู้ใดที่ตรวจเช็กบัญชีแล้วพบว่ามีความผิดปกติในลักษณะดังกล่าว ควรรีบดำเนินการอายัดบัตรที่มีปัญหา และเข้าแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจใกล้บ้านทันที
ขอบคุณข้อมูลจาก รายการข่าวเช้าช่องวัน