บริษัทขนส่งดัง ปรับกฎจ่ายเงินเดือนใหม่ เปลี่ยนเป็นได้เงินตามจำนวนพัสดุที่ส่งชิ้นละ 7 บาท ทำพนักงานลาออกกันหมด ลูกค้าซวยไม่มีคนส่งของ ต้องไปเอาเองถึงโกดัง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nutnicha Kongraksa
สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของออนไลน์ การส่งของไวถึงมือลูกค้า ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งแน่นอนว่า ค่ากล่อง ค่าส่ง ก็รวมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนในการขายสินค้า หลายคนเลือกส่งกับเจ้าที่ราคาต่ำที่สุด เพื่อลดต้นทุนให้ได้มากที่สุด แต่ถึงกระนั้น ก็มีข่าวออกมาเสมอ เรื่องที่พ่อค้าแม่ค้าต้องประสบพบเจอปัญหา เนื่องจากบริษัทขนส่งไม่สามารถส่งของได้ทัน พนักงานไม่มี จนต้องบุกไปที่โกดังคัดแยกสินค้าด้วยตัวเอง
โดยเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2564 หญิงคนหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์ร้องเรียนสำหรับบริษัทขนส่งรายหนึ่ง ว่า ทางสาขาในพื้นที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี มีการดองพัสดุเอาไว้ไม่ยอมส่ง จนลูกค้าหลายคนต้องเดินทางไปค้นหาของที่สาขาด้วยตัวเอง และเหล่าพ่อค้าแม่ค้าต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุที่เป็นเช่นนั้น เป็นเพราะพนักงานขนส่งลาออกกันหมด ทำให้ไม่มีคนส่งของ
เจ้าของโพสต์ระบุอีกว่า ตนได้รับข้อมูลจากธุรการคลังของบริษัท บอกว่า ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป ทางสำนักงานใหญ่จะส่งเจ้าหน้าที่มาเคลียร์ของและทยอยส่งให้ลูกค้า และสั่งห้ามลูกค้าไปค้นหาของที่โกดังแล้ว บริษัทขอเวลาในการคัดแยกก่อนนำส่ง เนื่องจากของในโกดังเยอะมาก ๆ อาจจะต้องใช้เวลา
จุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด สาเหตุที่พนักงานลาออก
เฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 1 มีการระบุว่า เรื่องราวทั้งหมดเริ่มจาก ทางบริษัทขนส่งสินค้าแห่งนี้ ได้มีการปรับเกณฑ์เงินเดือนใหม่ เงินเดือนใหม่โดยที่ไม่บอกพนักงานล่วงหน้า 1 เดือน จากเดิมที่เคยมีเงินเดือน เปลี่ยนเป็นเงินที่ได้ จะขึ้นอยู่กับจำนวนของที่ส่ง ตกชิ้นละ 7 บาท รวมถึงลดสวัสดิการและประกันสังคมด้วย ทางพนักงานส่งของจึงไม่พอใจในเรื่องค่าตอบแทนในการทำงาน และพากันลาออกไปทำงานที่อื่น
นอกจากนี้ คนที่ทำงานประจำ ก็ถูกเปลี่ยนสัญญาเป็นเดือนต่อเดือนแทน นั่นหมายความว่า ความมั่นคงในการงานไม่มี เสี่ยงถูกไล่ออกได้ทุกเมื่อ รวมถึงยังมีการหักภาษีพนักงานเดือนละ 2,000-3,000 บาท จากเหตุข้างต้นพนักงานต้องรวมตัวกันประท้วงนายจ้างอย่างดุเดือด แต่ไม่มีข้อสรุปที่ดี บางคนจึงลาออก
แต่ถึงกระนั้น พนักงานคนอื่น ๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหว ไม่ได้ลาออก ทางนายจ้างก็ส่งไลน์มาแจ้งว่า ให้พ้นสภาพการเป็นพนักงานเนื่องจากทำให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียง ทันทีที่มีการส่งไลน์นี้ พนักงานที่ได้รับผลกระทบก็ฉะกันตรง ๆ ว่า ออกหนังสือมาให้ด้วย ไม่ใช่มาพูดปากเปล่า หลังจากนี้จะไปเอาเรื่องทางกฎหมายต่อ
