ร้าน SHA กทม. มีที่ไหนบ้าง ไฟเขียว ดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน แนะขั้นตอนลงทะเบียน

ประเดิมวันแรก กรุงเทพฯ ไฟเขียวให้ดื่มแอลกอฮอล์ เฉพาะร้านที่ผ่านมาตรฐาน SHA แนะวิธีค้นหาร้านที่เข้าเกณฑ์ พร้อมแนะนำวิธีลงทะเบียนสำหรับผู้ประกอบการ

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นวันแรกของการเริ่มต้นเปิดประเทศ โดย กทม. เป็นหนึ่งในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ ได้มติคลายล็อกผู้ประกอบการ ร้านอาหาร / เครื่องดื่มทั่วไป ให้เปิดให้บริการตามเวลาปกติ แต่อนุญาตให้มีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เฉพาะร้านที่ผ่านมาตรฐาน SHA ของ ททท. และไม่เกินเวลา 21.00 น. ตั้งแต่วันที่ 1 - 30 พฤศจิกายน หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

ร้าน SHA คืออะไร ?

SHA หรือ Amazing Thailand Safety and Health Administration (SHA) มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย เพื่อนักท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยว เป็นโครงการที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการยกระดับมาตรการความสะอาดหรือความปลอดภัยด้านสุขอนามัย

           ทั้งนี้สถานประกอบการในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ได้รับมาตรฐาน SHA มีจำนวน 3,368 แห่ง (ข้อมูลวันที่ 29 ตุลาคม 2564 ) โดยแบ่งเป็น 10 ประเภท ดังนี้

           - ภัตตาคาร / ร้านอาหาร จำนวน 1,350 แห่ง

           - โรงแรม ที่พัก โฮมสเตย์ จำนวน 657 แห่ง

           - นันทนาการและสถานที่ท่องเที่ยว จำนวน 51 แห่ง

           - ยานพาหนะ จำนวน 315 แห่ง

           - บริษัทนำเที่ยว จำนวน 427 แห่ง

           - สุขภาพและความงาม จำนวน 174 แห่ง

           - ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า จำนวน 82 แห่ง

           - กีฬาเพื่อการท่องเที่ยว จำนวน 8 แห่ง

           - การจัดกิจกรรมประชุม / โรงละคร จำนวน 63 แห่ง

           - ร้านค้าของที่ระลึกและร้านค้าอื่น ๆ จำนวน 180 แห่ง

วิธีการค้นหาร้านอาหาร กิจการที่มี SHA และ SHA+

- เข้าที่เว็บไซต์ Thailandsha.com หรือ กดที่นี่

มาตรการใช้บริการร้านที่ผ่านมาตรฐาน SHA ประกอบด้วย

           - ให้ความร่วมมือในการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า

           - เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร

           - ล้างมือก่อนใช้บริการและหลังใช้บริการด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์

           - หลีกเลี่ยงการชำระเงินด้วยเงินสดเพื่อลดการสัมผัสระหว่างกัน เช่น การชำระผ่านระบบโอนเงิน หรือ พร้อมเพย์ เป็นต้น

           - ระยะเวลาในการรับประทานอาหารในร้านไม่ควรเกิน 1 ชั่วโมง

           - ลดการใช้เสียงภายในภัตตาคาร / ร้านอาหาร