คืบหน้า หนุ่มวัย 27 ขับรถตาม GPS ตกแม่น้ำเจ้าพระยา เจอรถแล้วสภาพกระจกเปิด แม่เสียใจโทษไปถึงตัวแฟนสาวที่ขับรถนำหน้าไปก่อน ทั้งที่ไม่ได้ผิดอะไร เพจดังวอนอย่าโทษแฟน ต้องโทษคนปล่อยถนนมีช่อง ไร้การเตือนคนไม่ชินเส้นทาง

ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
จากกรณีนายธีรภัทร์ ธีระพงษ์ไพบูลย์ วัย 27 ปี ลูกนักธุรกิจชาวสุพรรณบุรี ขับรถตกแม่น้ำเจ้าพระยาที่ จ.นครสวรรค์ หลังขับตาม GPS แม่เผยนาทีลูกโทร. บอกรถกำลังจะจมน้ำ จึงรีบหาว่าเกิดเหตุที่ไหน จนพบ GPS ที่โทรศัพท์ลูกชายจับสัญญาณอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำในจุดถนนทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ ก่อนสัญญาณตัดไปนั้น
อ่านข่าว : หนุ่มขับรถตามหลังแฟน แต่คลาดกัน ใช้ GPS ช่วย สุดท้ายจมน้ำ - แม่เล่านาทีช็อก
อ่านข่าว : หนุ่มขับรถตามหลังแฟน แต่คลาดกัน ใช้ GPS ช่วย สุดท้ายจมน้ำ - แม่เล่านาทีช็อก
เจอศพ-เจอรถแล้ว ด้านแม่ถึงกับทรุด ร่ำไห้ต่อว่าแฟนตอนเจอศพลูกชาย จนแฟนถอยฉากไปยืนร้องไห้

ต่อมา เดลินิวส์ รายงานว่า นางพินิจ เผยว่า เท่าที่มีข้อมูลอยู่ ค่อนข้างเชื่อว่าลูกคงหลงทางจนขับรถไปเกิดอุบัติเหตุจริง และที่ติดใจก็น่าจะเป็นเรื่องที่จุดดังกล่าวเปิดช่องทางเอาไว้แบบนี้ หากมีอะไรมาปิดกั้นไว้ก็อาจจะไม่ทำให้บุตรชายของตนต้องมาจบชีวิต หรือเต็มที่ก็ชนทางปิดกั้น และคงไม่พุ่งตกลงไปในแม่น้ำ รวมทั้งลูกเป็นคนที่ชอบใช้ GPS ตอนนั้นเป็นช่วงเวลากลางคืนจึงอาจทำให้มองไม่เห็นว่าเป็นแม่น้ำ ฝากเตือนไปถึงผู้นิยมใช้ GPS ให้ระมัดระวังด้วย แม้จะเป็นระบบนำทางที่ช่วยให้สะดวกสบายมากขึ้นแต่ก็อย่าไปเชื่อใจมากนัก
เพจดังวอน อย่าไปซ้ำเติมคนเสียชีวิต - เข้าใจแม่เสียใจที่เสียลูกคนเดียวไป แต่นี่ไม่ใช่ความผิดแฟน

เพจระบุว่า กรณีนี้เชื่อว่าแฟนผู้ตายก็คงเสียใจไม่แพ้กัน มันคืออุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เชื่อว่าเคสนี้ไม่ใช่ความผิดของแฟน แต่เป็นความผิดที่ปล่อยให้ถนนมีช่องว่างแบบนั้นโดยที่ไม่มีอะไรกั้น และควรจะมีป้ายสะท้อนแสงหรือมีไฟ เพื่อเตือนคนที่ไม่คุ้นชินเส้นทางด้วย และคนที่มีส่วนกับการปล่อยถนนโล่งแบบนี้ควรต้องรับผิดชอบและแก้ไขโดยด่วน
เช่นเดียวกับในทวิตเตอร์ มีคนแสดงความเห็นใจแฟนเป็นจำนวนมาก หลังถูกแม่ผู้ตายกล่าวโทษว่าเป็นต้นเหตุในครั้งนี้ มองว่าการไปกล่าวโทษเช่นนั้นเหมือนฆ่าอีกคนให้ตายทั้งเป็น ทั้งที่เรื่องนี้ไม่ได้มีใครตั้งใจอยากให้เกิดขึ้นแต่อย่างใด

ภาพจาก เฟซบุ๊ก เรื่องเล่าเช้านี้
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเด่นเย็นนี้, เฟซบุ๊ก เรื่องเล่าเช้านี้