ครอบครัวใจสลาย รู้ความจริงช็อก ลูกที่ตั้งท้องคลอดออกมา ไม่ใช่ลูกตัวเอง เหตุเพราะคลินิก ทำผิดพลาดร้ายแรง สลับตัวอ่อน
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 สำนักข่าวบีบีซี และซีเอ็นเอ็น รายงานกรณีสุดช็อกของคู่รักคู่หนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ภายหลังจากที่ได้พบความจริงว่า คลินิกที่ช่วยเรื่องการผสมเทียมเพื่อให้ตั้งครรภ์ ทำเรื่องที่ผิดพลาดร้ายแรงอย่างการสลับตัวอ่อน ทำให้แม่ของเด็กต้องให้กำเนิดลูกที่เป็นของคนอื่น
แดฟนา และ อเล็กซานเดอร์ คาร์ดินัล ได้ดำเนินการฟ้องคลินิกสุขภาพอนามัยการเจริญพันธุ์ในแคลิฟอร์เนีย รวมถึงห้องปฏิบัติการเกี่ยวกับตัวอ่อน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในความผิดพลาดครั้งร้ายแรงนี้ ตามรายงานการฟ้องร้อง กล่าวหาว่า ทางเจ้าหน้าที่แพทย์มีการทุจริตต่อหน้าที่ รวมทั้งประมาทเลินเล่อ และปกปิดความผิด
รายงานเปิดเผยว่า แดฟนา และ อเล็กซานเดอร์ ไปเข้ารับคำปรึกษาที่คลินิกดังกล่าวเมื่อปี 2561 เพื่อจะทำการผสมเทียม โดยใช้วิธีการ IVF ก่อนที่จะตั้งครรภ์สำเร็จ และให้กำเนิดลูกสาวในเดือนกันยายน 2562 ทว่า ทารกที่คลอดออกมาดูไม่เหมือนพวกเขา มีสีผิวคล้ำแตกต่างอย่างชัดเจน ครอบครัวทั้งประหลาดใจและสับสนอย่างมาก
กระทั่ง 2 เดือนต่อมา ทางครอบครัวตัดสินใจดำเนินการตรวจดีเอ็นเอ และความจริงสุดช็อกก็ปรากฏ พวกเขาไม่ใช่พ่อและแม่ที่แท้จริงของเด็กคนนี้ ทั้งสองจึงติดต่อไปยังคลินิกเพื่อดำเนินการตรวจสอบครอบครัวที่ได้รับตัวอ่อนที่แท้จริงของพวกเขาไป
แดฟนา และ อเล็กซานเดอร์ ได้ทราบว่าลูกสาวที่แท้จริงของพวกเขา คลอดห่างไป 1 สัปดาห์ สุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ตอนที่พวกเขาได้พบลูกของตัวเองครั้งแรก คือตอนที่หนูน้อยอายุ 4 เดือน และหลังจากได้ไปพบกันหลายครั้ง สุดท้ายทั้งสองครอบครัวจึงตกลงที่จะสลับตัวเด็กกันอย่างจริงจังตามขั้นตอนทางกฎหมาย
"ฉันต้องให้นมลูกและผูกพันกับลูกของคนอื่นที่ฉันตั้งท้องและคลอดออกมาเอง และสุดท้ายก็ต้องพรากจากกันไป" แดฟนา กล่าว พร้อมทั้งเผยว่า จากเหตุการณ์ร้ายแรงต่อครอบครัวในครั้งนี้ ส่งผลให้เธอต้องเข้ารับการบำบัดอาการวิตกกังวล ซึมเศร้า และ PTSD
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา แดฟนา ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์อย่างเศร้าสะเทือนใจ กล่าวว่า ครอบครัวของเธอใจรู้สึกสลายและสับสนจนไม่สามารถอธิบายได้
"ความทรงจำเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และคลอดลูกของเราถูกทำลายไปด้วยความจริงที่เจ็บปวดนี้ ลูกของเราที่แท้จริงถูกมอบให้คนอื่นไปคลอด ในขณะที่ฉันให้กำเนิดเด็กอีกคนที่ไม่ใช่ของฉันและไม่สามารถเลี้ยงดูได้ ฉันถูกปล้นโอกาสที่จะได้อุ้มท้องลูกของฉันเอง" แดฟนา กล่าว
ทั้งนี้ ทางครอบครัวยังเป็นกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับความรู้สึกของลูกสาวคนโตวัย 7 ขวบ เพราะมันเป็นเรื่องที่ยากจะอธิบายให้เธอเข้าใจเรื่องนี้ได้อย่างไม่รู้สึกเจ็บปวดและสับสน
ส่วนอีกครอบครัวที่มีความเกี่ยวข้องกับความผิดพลาดของคลินิกดังกล่าว ตามรายงานเผยว่า พวกเขาเตรียมการที่จะฟ้องร้องเช่นเดียวกัน แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม
ขอบคุณข้อมูลจาก bbc.com, edition.cnn.com